๓ ยิ่งรักยิ่งเจ็บ 2
“สุภาพที่สุดแล้วสำหรับผู้หญิงคนนั้น” ไหวไหล่เล็กน้อยไม่สนใจกับคำพูดของเพื่อน ห่มผ้าผืนบางแล้วหยิบหมอนข้างบนเตียงมากอดไว้ ดมกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นแล้วลุกนั่งด้วยความหงุดหงิดยามฟังประโยคที่ดูเหมือนจะแช่งกัน
“ระวังเกลียดมากจะหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น” พูดจบก็รีบเข้าห้องน้ำทันที เจ้าของบ้านจึงรีบตะโกนไล่หลังอย่างมั่นใจ
“ไม่มีวัน...ไม่มีทางที่ฉันจะรักผู้หญิงคนนั้น!”
คนแบบนั้นใครจะไปรักลง เขาไม่มีทางตกหลุมพรางรักเธอเป็นอันขาด!
เมื่อคืนเธอนอนแทบไม่หลับ ผุดลุกผุดนั่งอยู่หลายต่อหลายครั้งจนเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาใกล้รุ่ง คิดว่าตัวเองอาจจะตื่นสายแต่เหมือนคุ้นเคยกับการตื่นเช้าไปแล้วแม้จะนอนดึกแค่ไหนก็ตื่นเวลาเดิมเสมอ หล่อนออกไปซื้อของในตลาดที่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก
กลับมาก็เริ่มทำน้ำเต้าหู้เองเพราะซื้อถั่วเหลืองมาเยอะ กลัวปล่อยไว้ไมได้ทำอะไรแล้วจะเสียของ จากนั้นค่อยนำปลาที่ซื้อจากตลาดมาทำเป็นข้าวต้ม อาหารหลายอย่างเริ่มนำเสิร์ฟบนโต๊ะ หวังว่ากลิ่นหอมจะปลุกคนทั้งสองให้ตื่นแล้วลงมาข้างล่าง
เธอไม่แน่ใจคำว่าเพื่อนของแสงอรุณจะเป็นแค่เพื่อนจริงหรือเปล่า นึกกังวลตลอดทั้งคืนว่าจะได้ยินเสียงประหลาดจากห้องของเขา ยังดีที่ทุกอย่างเงียบกริบไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่เธอก็เผลอจินตนาการไปว่าทั้งสองอาจจะนอนบนเตียงเดียวกัน
แค่คิดก็เจ็บปวดหัวใจจนต้องสะบัดศีรษะไล่ความคิดด้านลบของตัวเอง กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดถึงได้รีบออกจากครัวทั้งทีมีผ้ากันเปื้อนสวมทับกายไว้ แล้วยิ้มให้แขกคนสวยที่เดินถือกระเป๋าลงมาด้วย
สงสัยจะกลับแล้ว...หัวใจของหอมนวลกลับมาลิงโลดอีกครั้ง
“กินข้าวเช้าด้วยกันไหมคะ ไม่รู้ว่าพี่หมวยชอบอะไรเลยทำเผื่อเลือก...น้ำเต้าหู้หอมปั่นเองค่ะ ถ้าไม่หวานจะใส่น้ำตาลเพิ่มอีกก็ได้นะคะ” เดินนำมาที่โต๊ะอาหารแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้แขก จากนั้นจึงเทน้ำเต้าหู้ใส่แก้วเพื่อเสิร์ฟคนตรงหน้า
มัสลินถึงกับตกตะลึงกับอาหารยามเช้า ดูดีกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก อาหารเต็มโต๊ะเหมือนภัตตาคาร ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนของเธอจะมีภรรยาที่แสนดีขนาดนี้ แล้วยังมาพูดให้ร้ายว่าหล่อนเจ้ามารยา เป็นแสงอรุณมากกว่าที่ไม่ยอมเปิดใจ
จากตอนแรกที่คิดจะออกจากบ้านแต่เช้าก็ต้องหยุดชะงัก วางกระเป๋าเสื้อผ้าลงแล้วรีบจับจองที่นั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้า ดูหน้าตาน่าทานกว่าโรงแรมเสียอีก กลิ่นหอมเย้ายวนชวนน้ำลายสอ นอกจากน้ำเต้าหู้ยังมีขนมจีบซาลาเปาและปาท่องโก๋อีก
“โห อย่าบอกว่าทำเองหมดเลย”
“มีแค่ปาท่องโก๋ที่ไปซื้อจากตลาดค่ะ” เจ้าตัวตอบก่อนตักข้าวต้มเสิร์ฟเพื่อนของสามี
เธอทำขนมจีบกับซาลาเปาตั้งแต่เมื่อวานเพื่อเอาไปให้เพื่อนที่ทำงานกินด้วย ทั้งยังแบ่งไว้สำหรับนึ่งให้สามีได้กินร้อนๆ ไม่รู้ว่าเขาจะชอบหรือเปล่าแต่ก็อยากทำเผื่อชายหนุ่ม ชะเง้อมองคนที่ยังไม่ลงมาแล้วนั่งลงตรงข้ามกับรุ่นพี่คนสวย
“หื้อ อร่อย! ข้ามต้มปลาอร่อยมาก ปลากะพงใช่ไหม มีน้ำจิ้มให้ด้วย” นอกจากข้าวต้มแล้วยังมีน้ำจิ้มที่สามารถกินคู่กับข้าวต้มได้และเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ คนกินแสนเบิกบานใจชิมทุกอย่างบนโต๊ะอาหารไม่กลัวว่าจะอ้วนสักนิด
เมื่อคืนกินข้าวไปนิดเดียวตื่นมาจึงหิวเป็นอย่างมาก ตอนแรกจะออกไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งกินระหว่างรอคุณชายแต่งองค์ทรงเครื่อง แต่ไม่คิดเลยว่าหอมนวลจะเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ด้วย เธอมองหญิงตรงหน้าด้วยความซาบซึ้ง
“ค่ะ ตักเพิ่มได้นะคะมีอีกเยอะเลย” เห็นคนชอบอาหารของตัวเองก็ยิ้มดีใจ พร้อมให้บริการเต็มที่ขณะที่สายตาก็เมียงมองไปยังบันได หวังว่าเขาจะลงมาก็ยังไม่เห็นชายหนุ่ม
“น้ำเต้าหู้ก็อร่อย แสงมันได้กินดีอยู่ดีแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ พี่เริ่มอิจฉาอยากมีเมียบ้างแล้วสิ” หยิบอาหารเข้าปากไม่มีหยุด อร่อยไปหมดทุกอย่างจนคิดจะห่อไปกินที่ทำงานด้วย ไม่รู้ว่าแสงอรุณทำบุญด้วยอะไรจึงโชคดีเช่นนี้
มีความสุขกับอาหารยามเช้าเป็นอย่างมาก เหมือนหล่อนจะเจริญอาหารในรอบปีด้วยซ้ำ กินอะไรก็อร่อยไปหมดทุกอย่าง กระทั่งขนมจีบซาลาเปาที่ไม่ค่อยชอบยังอร่อยเลย
“เสียงดังอะไรแต่เช้า...” คนที่แต่งตัวเตรียมพร้อมไปทำงานเดินลงมาจากบนบ้าน ใบหน้าหวานยิ้มกว้างแล้วลุกจากเก้าอี้เพื่อเตรียมตักข้าวต้มให้ชายหนุ่ม โดยมีเพื่อนสนิทของเขากวักมือเรียกพร้อมเชิญชวนทั้งที่อาหารยังเต็มปาก
“กินข้าวๆ เมียนายทำอาหารอร่อยหมดทุกอย่างเลย ลองกินดูสิ” ดวงตาคมเหลือบมองอาหารแล้วลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความหิว รู้ตั้งแต่วันที่ได้กินซุปแก้แฮงก์แล้วว่าหล่อนทำอาหารอร่อย แต่เรื่องอะไรจะยอมเสียศักดิ์ศรีนั่งกินล่ะ
“ไม่กิน” ปฏิเสธรวดเร็วแต่ยังยืนนิ่งไม่ได้เดินออกไปข้างนอกเหมือนทุกครั้ง
มัสลินเห็นอย่างนั้นก็เบื่อความท่ามากของอีกฝ่าย จึงลุกจากเก้าอี้แล้วลากคอเสื้อเพื่อนให้นั่งลงข้างตัวเอง “นั่งลง! อย่าให้ต้องใช้กำลังนะแสงอรุณ” ยกกำปั้นขึ้นขู่จนเขาต้องปัดมือหล่อนออก แอบมองคนที่นั่งอมยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ยิ่งหงุดหงิด
หมดกันความเคร่งขรึมที่อุตส่าห์แสดงให้หล่อนกลัว...
“บังคับจังวะ เธอเป็นเพื่อนฉันหรือเพื่อนยัยนั่นกันแน่” หยิบซาลาเปามากัดแล้วแสร้งทำโมโหกลบเกลื่อน แต่แล้วดวงตากลับลุกวาวเมื่อพบว่าของกินในมืออร่อยมากแค่ไหน ร่างบางลุกจากเก้าอี้เพื่อไปตักข้าวต้มกับน้ำจิ้มที่กินคู่กันมาเสิร์ฟเขา
“เพื่อนน้องหอมเพราะเพื่อนอย่างนายมันไม่ได้เรื่องไง กิน!” หยิบช้อนใส่มืออีกฝ่าย ทั้งยังบังคับอีกต่างหากทำให้เขาเลี่ยงไม่ได้ ต้องตักข้าวต้มกินคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด คำแรกเข้าปากก็ทำให้ตาลุกวาวตามด้วยตักกินอีกหลายคำ
มัสลินแอบยิ้มขำเพื่อน จากที่คิดจะกินข้าวของตัวเองก็ต้องหันมองคนที่นั่งข้างกัน พร้อมเลื่อนแก้วน้ำเต้าหู้มาตรงหน้าเขา “อร่อยล่ะสิ...” ร่างสูงเพิ่งรู้ตัวว่าตนกินอร่อยแค่ไหนและข้าวต้มก็เกือบหมดชามในเวลาไม่กี่นาที จึงหยิบแก้วน้ำใกล้มือขึ้นดื่มพบว่าอร่อยจึงรีบดูว่ากินอะไรเข้าไป
ทำไมมันอร่อยไปหมดทุกอย่างแบบนี้!
“งั้นๆ แหละ หาได้ตามท้องตลาดซื้อเอาน่าจะอร่อยกว่า” ดื่มน้ำเต้าหูจนหมดแก้วก็ลุกไปตักข้าวต้มอีกชาม หญิงสาวสองคนเห็นอย่างนั้นก็แอบอมยิ้ม
“จ้า พ่อคนลิ้นสูงส่ง” หมั่นไส้จึงแอบจิกกัดเขา
จากนั้นจึงรีบรับประทานอาหารเพราะดูเวลาแล้วกลัวว่าตัวเองจะไปไม่ทัน ร่างสูงก็นั่งกินไม่พูดจา หมดถ้วยที่สองก็ต่อถ้วยที่สามทันที คนทำนั่งยิ้มแก้มปริมีความสุข เพิ่งได้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกับเขาเป็นครั้งแรกจึงอยากซึมซับบรรยากาศเอาไว้ให้มากที่สุด
“ไม่อร่อย...กินหมดหม้อเลยนะ” เริ่มอิ่มแล้วจึงนั่งนิ่งปล่อยให้มัสลินนั่งกินขนมจีบไปพลาง พร้อมกับเอ่ยล้อคนที่ปากบอกไม่กินแต่การกระทำตรงกันข้าม
“เสียดายของ จริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากกินเท่าไหร่หรอก แม่ฉันทำอร่อยกว่านี้อีก...จะไปทำธุระตอนไหนเดี๋ยวไปส่ง” มัสลินนึกอยากตีเขาจริงๆ ที่ชอบพูดให้คนอื่นเสียใจ แต่ะอดูเวลาก็ไม่อาจต่อล้อต่อเถียงกับเขาได้
“เดี๋ยวนี้แหละ”
“อือ” พูดจบก็รีบลุกจากเก้าอี้
