บท
ตั้งค่า

๒ ไม่เคยเป็นที่รัก 4

“ซุปแก้แฮงค์ค่ะ” ผ่านโต๊ะกินข้าวเห็นอาหารหลายเมนูหน้าตาน่าทานทั้งนั้น เธอยังถือถ้วยซุปมาวางลงบนโต๊ะอีกต่างหาก สีสันน่ารับประทานจนต้องมองทางอื่นไม่ให้ตัวเองแสดงอาการออกไปว่าอยากกินมากเพียงใด

“ใครอยากกิน”

“กินเถอะค่ะเผื่อจะเป็นผู้เป็นคนขึ้นบ้าง” อดไม่ได้ที่จะจิกกัดเขา

“ไม่กิน” ปฏิเสธเสียงแข็งคิดจะเดินไปที่รถซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน กลับต้องชะงักเมื่อเธอสะพายกระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านไปก่อนเขาเสียอีก

“เงินพี่ทั้งนั้นแหละค่ะที่หอมไปซื้อมาทำ ถ้าพี่ไม่กินก็เหมือนเสียเงินฟรีนะคะ กินหน่อยเถอะค่ะพี่แสง” หยุดยังรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองแล้วบอกเขาเสียงเรียบ รู้ดีว่าถ้าตนอยู่ที่นี่ชายหนุ่มก็จะไม่ยอมกินข้าว จึงเป็นฝ่ายเลือกไปดีกว่า

“กินก็ได้...” พูดจบก็เดินไปนั่งยังเก้าอี้เพื่อรับประทานอาหารเช้า

“ค่ะ” เธอตอบเสียงเบาพลางถอนหายใจโล่งอกที่อาหารของตัวเองไม่ถูกสามีเมินอีกต่อไป ขับรถออกจากบ้านไปยังที่ว่าการอำเภอแต่เช้า กลับมาอีกทีพบว่าจานชามถูกล้างหมดแล้ว

คิดว่าเขาจะทิ้งไว้ให้เธอล้างเสียอีก แสดงว่าแสงอรุณทำความสะอาดครัวให้หล่อนทั้งหมดก่อนจะออกไปสินะ

ใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกันกว่าหนึ่งสัปดาห์ทำให้รู้จักนิสัยของเขาขึ้นมาหน่อย ถึงจะปากร้ายแต่ก็เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยล่วงเกินหล่อนเลยสักครั้งซึ่งเข้าใจเป็นอย่างดีว่าทำไม ในสายตาของเขาคงมองเธอเป็นคนผู้หญิงที่คิดจับผู้ชายทำสามีเท่านั้นแหละ

แสงอรุณไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่ มักจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ โดยเฉพาะหน่อยที่ตัวติดกันเป็นตังเม กลับบ้านทีไรก็เมาทุกครา หรือบางครั้งกลับมาไม่ได้เมามากก็มีกลิ่นแอลกอฮอล์ตามร่างกาย

ดื่มเก่งขนาดนี้ไม่ไปแข่งขันดื่มชิงแชมป์ซะเลยล่ะ!

“พี่แสงจะไปไหน” กลับจากที่ทำงานนึกว่าร่างสูงจะออกไปดื่มกับเพื่อน พบว่าเขาถือกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วย ดวงตากลมเบิกกว้างรีบเข้าไปถามทันที กลัวอีกฝ่ายจะทิ้งตนเอาไว้เพียงลำพัง

“กรุงเทพฯ” ยังคงเดินมาที่รถยนต์ซึ่งจอดทิ้งไว้แทบไม่ได้ขับไปไหน ออกหมู่บ้านก็ใช้รถของรุ่นพี่อีกคน หรือบางครั้งก็ใช้รถยนต์ของอำเภอ มาอยู่ที่นี่ชายหนุ่มใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดพอสมควร แทบไม่ได้เสียเงินเลยด้วยซ้ำ

ยกเว้นเงินที่ต้องให้ภรรยารายเดือนเพราะจ่ายค่าน้ำค่าไฟและอาหารการกิน ซึ่งเธอก็ทำได้ดีพอสมควร รสชาติอาหารถูกปากเขาพอดี

“ไปทำไมเหรอคะ ให้หอมไปด้วยไหม” ถามเสียงเว้าวอนไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว

“ไม่ต้อง! ฉันจะพาเธอไปด้วยทำไม เราไม่ได้สนิทกันสักหน่อย” เปิดรถแล้ววางกระเป๋าไว้ข้างใน เพิ่งซื้อกระบะมาขับเป็นครั้งแรก รู้สึกขับสะดวกมองเห็นถนนสูงกว่าระดับสายตายามขับรถสปอร์ต ทำให้เขาเริ่มชอบรถคันนี้เสียแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ค่อยได้ใช้ขับไปไหนมาไหนสักเท่าไหร่

“แต่หอมไม่อยากอยู่คนเดียว” เอ่ยเสียงอ่อน เขาหันมามองหญิงสาวที่ทำหน้าหงอย หัวใจสั่นไหวอย่างน่าประหลาดแต่ก็บอกตัวเองไม่ให้หลงไปกับการละครของเธอ

“เรื่องของเธอ” ปิดประตูหลังแล้วเดินมานั่งประจำที่คนขับ ชายหนุ่มจะปิดประตูก็โดนเธอรั้งเอาไว้พร้อมมองด้วยสายตาอ้อนวอน เหมือนลูกสุนัขที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกเจ้าของทิ้ง

“พี่จะกลับวันไหน หอมจะรอ”

“ไม่รู้ วันไหนก็วันนั้นแหละ...อย่าพาผู้ชายคนอื่นเข้ามาในบ้านฉัน ผู้หญิงหน้าไหว้หลังหลอกแบบเธอไว้ใจไม่ค่อยได้” ย้ำเตือนอีกครั้งแล้วเธอก็พยักหน้าแข็งขัน ตนไม่เคยคิดจะพาชายใดเข้ามาอยู่แล้ว ยกเว้นเพียงคนเดียว

“หอมขอพาหลานชายมาเล่นด้วยได้ไหม” หลานชายสุดที่รักนั่นเอง

“ไม่ อยากเล่นก็ไปเล่นที่บ้านเธอ ห้ามพาใครเข้าบ้านฉันเด็ดขาดเพราะฉันหวงความเป็นส่วนตัว” พูดชัดเจนทั้งยังย้ำประโยคสุดท้ายจนเธอไม่กล้าพูดอะไร ทำได้แค่รับคำเสียงอ่อน มองเขาตาปริบด้วยความใจหายที่ตนต้องอยู่คนเดียว

ทั้งยังไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่...

“ค่ะ” จังหวะที่ชายหนุ่มกำลังจะปิดประตู หล่อนกลับจับประตูเอาไว้เสียก่อนแล้วเอ่ยอ้อนจนคนฟังถึงกับไปไม่เป็น

“พี่แสง...รีบกลับนะหอมจะรอ”

สายตากับน้ำเสียงของเธอทำให้เขาอึ้งจนพูดไม่ออก เลือกจะเงียบแล้วปลดมือบางออกค่อยปิดประตู ขับรถออกจากบ้านโดยเหลือบมองกระจกมองหลังแล้วพบว่าหญิงสาวยังยืนชะเง้อมองเขาอยู่เหมือนเดิม

หัวใจเต้นแรงขึ้นจนต้องบอกตัวเองให้สงบจิตใจ เกิดอะไรขึ้นกับตนถึงได้เป็นแบบนี้

ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามา อีกไม่นานก็เลิกรากันไปแล้ว...

ระหว่างที่สามีไม่อยู่เธอใช้วันหยุดให้เป็นประโยชน์คือไปร้านซักอบทำงานหารายได้พิเศษ มีรุ่นพี่อีกคนที่ทำงานด้วยกัน แต่ละวันจึงไม่เหงามากนัก ได้พูดคุยเรื่องต่างๆ อีกทั้งเจ้าของร้านก็มาร่วมวงด้วย ไหนจะเอาอาหารมาให้กินอีก

เธอแทบไม่ได้ใช้เงินของตัวเองเลย เหมือนว่าชีวิตของหญิงสาวกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ หวังว่าต่อจากนี้จะมีแต่เรื่องดีเกิดขึ้น

“ขยันจังเลยนะ ไหนบอกว่าแต่งงานแล้วทำไมสามียังให้ออกมาทำงานอีกล่ะ” ป้าเจ้าของร้านเอ่ยทักทาย ขณะที่เธอกำลังพับผ้าให้ลูกค้าอย่างขยันขันแข็ง ชายหนุ่มไปเมืองหลวงเมื่อวันก่อนคาดว่าอาจจะกลับวันนี้เพราะพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ต้องไปทำงาน

เขาคงไม่ได้ลางานหรอกใช่ไหม...

“หาเงินช่วยกันค่ะ เขาก็ไม่ค่อยมีเงินเลยไม่อยากรบกวน” แค่เงินค่าสินสอดที่เขาเสียไปก็มากจนเธอหาใช้คืนไม่ได้แล้ว เงินเดือนของชายหนุ่มก็ไม่มากถึงจะเป็นข้าราชการก็เพิ่งบรรจุได้ไม่นาน จึงนึกกังวลเรื่องค่ากินอยู่แทนเขา

“ก็จริง จะให้เขาหาคนเดียวได้ยังไง เราเองก็มีมือมีเท้าหาเงินใช้เองได้เหมือนกัน ตอนแรกพี่ก็กลัวว่าหอมจะลาออกจากร้าน ดีแล้วที่ยังมีเพื่อนทำงาน" เพื่อนในที่ทำงานเอ่ยด้วยความดีใจเพราะยังมีคนช่วยยามงานล้นมือ

“อยู่ด้วยกันอีกนานค่ะ” นั่งพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุข

ถึงเวลาเลิกงานก็ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ความรู้สึกยามมาถึงบ้านไม่เหมือนทุกครั้ง เขาไม่อยู่เธอเองก็ห่อเหี่ยวไปด้วย คิดถึงชายหนุ่มสุดหัวใจไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมาสักที ไม่มีเวลาชัดเจนแต่ก็หวังว่าคืนนี้จะได้ยินเสียงรถของสามี

“ตอนไหนพี่จะกลับมานะ” พึมพำกับตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า กระทั่งได้ยินเสียงรถยนต์ที่คุ้นเคยจึงเบิกตากว้างด้วยความดีใจ ลุกไปเปิดประตูพลางตะโกนเสียงดังด้วยความคิดถึงล้นเปี่ยม

“พี่แสงกลับมาแล้ว!” ยิ้มกว้างรอจังหวะที่เขาจะเปิดประตูลงมา

แต่กลับพบว่าเบาะคนขับมีผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งแทนที่สามีของตน รอยยิ้มของเธอจึงค่อยเลือนหายไป แทนที่ด้วยคำถามว่าคนตรงหน้าเป็นใคร แต่ก็รีบยกมือไหว้เพราะดูแล้วว่าจะอายุมากกว่า

“สวัสดีค่ะ...” ทักทายเหมือนปกติ ทั้งที่ใจหล่นวูบไปกองแทบเท้า

“สวัสดีค่ะ พี่ชื่อหมวยนะเป็นเพื่อนกับแสง”

รับไหว้ทันทีแล้วทักทายผู้หญิงตรงหน้าที่พอจะทราบเรื่องทุกอย่างจากแสงอรุณระหว่างทางมาที่นี่

แต่ดูหน้าตาของหญิงสาวไร้พิษสง เหมือนชายหนุ่มจะพูดไปเองต่างจากความจริง คิดหันไปถามเขาแต่กลับโดนขัดเสียก่อน

“แฟนต่างหาก!”

ผู้หญิงสองคนหันมองเขาเป็นตาเดียว มีเพียงชายหนุ่มที่ยิ้มกว้างแล้วโอบไหล่ของคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนเอาไว้แน่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel