บท
ตั้งค่า

๑ คนน่ารังเกียจ 2

“ใช่ เงินฉันน้อยเธอไม่ควรมาเอาฉันหรอก ไปคบกับเสี่ยรวยมีฐานะดีกว่า ฉันยินดีไปเซ็นใบหย่าให้ตอนนี้เลย ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะเสียใจเพราะฉันจะดีใจมาก” เน้นประโยคท้ายพร้อมยิ้มกว้างให้เธอรู้ว่าเขาจะดีใจแค่ไหนหากหลุดพ้นจากหญิงสาวได้

“ดูสิ มันไม่ได้รักใคร่ชอบพอเอ็งสักนิด ไปหาเสี่ยอาธรไม่ดีกว่าเหรอ” แม่เลี้ยงเห็นอย่างนั้นก็วางตะหลิวแล้วหันไปบอกลูกสาวทันที ไม่ชอบหน้าลูกเขยตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ตอนนี้ก็ยิ่งไม่ชอบมากกว่าเดิม

ทำราวกับว่าลูกสาวคนสวยของตนไปขอแต่งงานอย่างนั้นล่ะ

ถึงจะไม่ค่อยแสดงความรักต่อหอมนวลแต่ก็มีความหวังดีแก่ลูกเลี้ยงเสมอ อย่างน้อยถ้าจะหาสามีถึงไม่รวยก็ขอให้รักกันหน่อยจะไม่ดีกว่าเหรอ แต่ท่าทีของชายหนุ่มดูจะไม่แยแสภรรยาเลยสักนิด เห็นแล้วก็นึกโมโหจนต้องแสดงความเห็นบ้าง แต่หอมนวลกลับส่ายหน้าจนคอแทบหลุด

แค่ได้ยินชื่อของชายผู้นั้นก็นึกสะอิดสะเอียนแล้ว ไม่มีทางที่จะยอมไปเป็นหนึ่งในนางบำเรอเป็นอันขาด ขอเลือกทางเดินของตัวเองดีกว่า

แม้จะเป็นการทำร้ายแสงอรุณทางอ้อม ที่ต้องแต่งงานกับหญิงที่ไม่ได้รักก็ตาม

เธอกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไปแล้ว...

“หอมแต่งงานแล้วแม่ หอมตั้งใจจะมีผัวเดียวตลอดไป ไม่คิดจะหาใครมาแทนที่พี่แสง” กอดแขนหนาเอาไว้จนเขาตั้งตัวไม่ทัน เผลอมองเสี้ยวหน้าหวานด้านข้างเห็นถึงแววตาฉายความมั่นใจของเธอก็พูดไม่ออก

ไม่ถามกันสักคำว่าอยากแต่งด้วยหรือเปล่า คิดเองเออเองไปหมดทุกอย่าง!

“อีโง่!” ทำได้แค่บอกอย่างหงุดหงิด

ค่อยหันมาทำอาหารเพื่อเสิร์ฟลูกค้า โดยที่ร่างสูงค่อยแกะมือของเธอออกจากแขนตัวเอง อยากกลับบ้านไปพักผ่อนจะแย่อยู่แล้ว อย่างไรวันนี้ก็ลางานเขาจะนอนให้เต็มที่ไปเลย เพียงแค่ยังสลัดตัวปัญหาข้างกายไม่ได้

ไม่รู้ว่าจะเกาะติดอะไรนักหนา!

ถ้าเธออยู่เมืองหลวงและทราบสถานะครอบครัวของเขาคงคิดว่าอีกฝ่ายหมายจะจับตนเพราะความรวย แต่ตอนนี้ที่เขาเป็นแค่ข้าราชการกินเงินเดือนไม่กี่หมื่นก็นึกสงสัยว่าเธอมีเหตุผลอะไรถึงอยากแต่งงานกับตน

ความหล่อของเขาอย่างนั้นหรือ...ดูจะไร้สาระเกินไปหน่อยหรือเปล่า

“ค่าดองล่ะ” ขณะที่ขบคิดถึงเหตุผลที่หอมนวลอยากแต่งงานกับเขา ก็ต้องสะดุ้งที่นางรมณีเดินเข้ามาหา พร้อมถามเรื่องที่ตนไม่ค่อยเข้าใจ

“ค่าดอง...อะไร ค่าอะไร” อาจจะเป็นภาษาถิ่นที่ตนไม่สันทัด จึงได้ถามย้ำอีกรอบทำให้แม่ค้าจำต้องถอนหายใจเสียงดังด้วยความหงุดหงิด แค่เห็นหน้าลูกเขยก็เหมือนความดันจะขึ้นแล้ว

สามีของนางเพิ่งเสียไปได้ไม่นาน เงินค่าจัดงานศพก็ไปหยิบยืมคนอื่นมาบ้างจนกลายเป็นหนี้ หอมนวลแต่งงานก็ดีเหมือนกันเผื่อได้เงินไปใช้หนี้ หวังเพียงคนตรงหน้าจะมีเงินถุงเงินถังพอให้ตนได้ถลุงบ้าง

“สินสอดน่ะสินสอด!!” พอรู้ความหมายก็ถามกลับไม่แยแส

“ต้องให้ด้วยเหรอ” คิดว่าแค่จดทะเบียนสมรสก็น่าจะพอ

เพราะในความคิดของเขาไม่มีฝ่ายใดเสียหายสักหน่อย ถึงเราสองคนจะมีค่ำคืนแสนหวานด้วยกัน แต่ก็มีความสุขทั้งสองไม่ใช่เหรอ เขาไม่ได้บังคับเธอเสียหน่อย

ยอมเท่านี้ก็ดีมากแค่ไหนแล้ว ยังจะต้องการอะไรอีก...

“อ้าวคุณ! คิดจะเอาลูกฉันไปนอนกกฟรีๆ หรือไง กว่าจะเลี้ยงมันให้โตมาขนาดนี้ได้ใช้เงินไม่ใช่น้อยเลยนะ ต้องมีสินสอดแล้วก็จัดงานแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว เชิญคนสักยี่สิบสามสิบก็ได้ไม่เอาเชิญเยอะหรอก” เสียงดังจนร่างบางนึกอับอาย รีบเข้าไปกอดแขนแม่เลี้ยงเอาไว้เพื่อให้ลดเสียงเบาลงอีกสักหน่อย

หล่อนไม่คิดว่าเขาจะจะจัดงานแต่งอยู่แล้ว เพราะจดทะเบียนสมรสก็เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เพียงแค่อยากให้ชายหนุ่มมอบสินสอดเล็กน้อยแก่มารดาของตน แล้วเมื่อไหร่ที่เธอหาเงินได้จะพยายามใช้คืนเขาให้ครบทุกบาททุกสตางค์

“ไม่มี” ตอบอย่างเฉยชา

เรื่องอะไรเขาต้องให้สินสอดกับผู้หญิงที่ไม่คิดจะจริงจังด้วยล่ะ อย่างไรก็ไม่ได้คิดจะอยู่ทำงานที่นี่ถาวร เพียงแค่สอบติดและถูกเรียกทำงานพอดี จึงได้ขอบิดามาพักผ่อนชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานก็จะกลับไปสานต่อธุรกิจครอบครัวเหมือนเดิม

ทิ้งชีวิตแสนบัดซบในถิ่นชนบทไว้เบื้องหลัง…

รวมทั้งเธอด้วยที่เขาจะทิ้ง!

“อะไรนะ! ไม่มีเลยเหรอ!” นางรมณีตกใจเป็นอย่างมาก ถึงกับหันมองลูกสาวของตัวเองที่ทำหน้าจืดเจื่อน ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรเช่นเดียวกัน ถึงแสงอรุณจะมีเงินก็คงไม่ให้ค่าสินสอดเพราะเรื่องของเราไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก

มันเป็นแค่การเอาตัวรอดของเธอ...

“ใช่ ไม่มีเลยสักบาท” พยักหน้าพลางเน้นย้ำ

“บ้าหรือเปล่า! เป็นข้าราชการแต่ไม่มีเงินสักบาท โอ๊ย บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเอาคนจน” โวยวายหอมนวลจนเธอต้องหันมองสามีในนามของตัวเอง ขยับเข้าหาแล้วเอ่ยกับเขาเสียงเบา กลัวว่าถ้าไม่มีเงินให้มารดาที่เลี้ยงดูตนมากว่ายี่สิบปีจะไม่ได้ออกจากบ้านหลังนี้

“พี่ไม่มีเงินเลยเหรอ แค่พันสองพันก็ได้นะ...” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันที มองหน้าภรรยาไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่

ที่เธอแต่งงานกับเขาก็เพราะต้องการเงินนี่เอง...ความจริงถูกไขกระจ่างแล้ว

หล่อนก็ไม่ได้ต่างจากหญิงคนอื่นที่มองเงินเป็นเรื่องสำคัญที่สุด!

“อยากได้ฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ยกมือกอดอกแล้วหันมาถมคนตัวเล็กกว่า เธอทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนสายตากดดันคาดคั้นจากร่างสูง ความจริงก็พอจะทราบว่าเขาไม่ใช่คนร่ำรวยมีเงินทอง แต่ก็ไม่อยากถูกมารดารั้งเอาไว้ที่นี่เหมือนกัน

อยู่เป็นคนใช้ที่นี่มานานแล้ว อยากออกไปใช้ชีวิตและหาเงินของตัวเองบ้าง ค่าน้ำค่าไฟค่าวัตถุดิบทำอาหารหล่อนเป็นคนจ่ายเองหมด การไปอยู่กับเขาเหมือนจะเป็นเส้นทางใหม่ ซึ่งไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ต้องยอมรับเพราะเป็นคนเลือกเอง

“มันก็ควรให้บ้างไม่ใช่เหรอ ยังไงเราสองคนก็เป็นผัวเมียกันแล้ว พี่เองก็น่าจะให้สินสอดแม่หอมหน่อย” สองแม่ลูกจ้องเขานิ่งจนชายหนุ่มนึกรำคาญ จึงได้ตัดสินใจจะหยิบเช็คออกมากลับต้องชะงัก กลัวฐานะของตัวเองเปิดเผยแล้วทำให้โดนขูดรีดมากกว่าเดิม

จำได้ว่าในกระเป๋ามีเงินสดเพราะจะนำไปให้รุ่นน้องในสำนักงานยืม แต่ตอนนี้คงต้องจ่ายค่าสินสอดไปก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ออกจากที่นี่เป็นแน่

“ห้าหมื่น! หวังว่าคงจะพอใจแล้วห้ามมายุ่งเกี่ยวกันอีก ผมมีให้ได้เท่านี้แหละ” ยื่นเงินไปตรงหน้าเป็นปึกแต่จำนวนไม่ได้เยอะอย่างที่นางหวังเอาไว้ แต่อย่างไรก็พอจ่ายหนี้ที่หยิบยืมมาจัดงานศพให้สามีได้บ้าง

เสียดายความสวยของหอมนวล น่าจะได้สามีรวยแท้ๆ กลับมาต้องใจคนหล่อแต่รูปเสียได้ ชีวิตต่อจากนี้คงลำบากน่าดู

“พ่อแม่ทำงานอะไรถึงได้จนขนาดนี้” ถามอย่างตรงไปตรงมาทำเอาเขาชะงักครู่หนึ่ง ตั้งแต่มาทำงานที่นี่ก็ไม่มีใครถามถึงคนในครอบครัวเขามาก่อน นางเป็นคนแรกที่ถามด้วยซ้ำ จึงไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ จะไม่ยอมพูดความจริงเป็นอันขาด...

“แม่เป็นแม่บ้าน พ่อขายยางมีปัญหาหรือเปล่า” บอกสถานะของบุพการีแล้วก็ได้แต่ขอโทษในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel