บทนำ 2
เสียงไก่ขันจากบ้านใกล้เรือนเคียงทำให้คนที่นอนหลับบนเตียงนุ่มต้องพลิกกายเพื่อหยิบหมอนข้างกายมาปิดหูเอาไว้ แต่มือหลับคว้าได้เส้นผมของใครบางคนที่ไม่ควรอยู่ในห้องของเขาเลย ตอนแรกคิดจะนอนต่อแต่เริ่มได้สติ มือจับไปที่ปลายเส้นผมแล้วค่อยไล่มายังใบหน้าโดยไม่ยอมลืมตามอง
ผู้หญิง...ทำไมมีผู้หญิงมานอนข้างกัน
“อื้อ หือ อะไรวะ...” พึมพำเสียงเบาไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ของตัวเอง
แสงอรุณ เวทย์วินธาหนุ่มโสดที่มาใช้ชีวิตรับราชการเป็นปศุสัตว์อำเภอเพื่อปลีกจากความวุ่นวายในเมืองหลวง นอกจากทำงานอันเป็นที่รักก็มีเพียงการดื่มเหล้ากับเพื่อนร่วมงานที่ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ตื่นเช้ามาพร้อมกับความปวดหัวในบางวันและสดชื่นในบางคราว แต่ไม่เคยมีครั้งไหนทำให้เขาประหลาดใจได้เท่าครั้งนี้มาก่อน
ตัดสินใจลืมตาแล้วพบผู้หญิงนอนหันหน้ามาทางตน ทำเอาร่างหนาถึงกับสะดุ้งรีบลุกอย่างรวดเร็ว แต่เห็นว่าตนสวมเพียงบ็อกเซอร์จึงรีบหาผ้าแถวนั้นมาคลุมช่วงล่างเอาไว้ จ้องเธอด้วยแววตาตระหนกโดยที่ฝ่ายหญิงก็หยัดกายลุกนั่งบนเตียง จับผ้าห่มเอาไว้แน่นพร้อมกับแววตาที่หม่นลง
“เฮ้ย!! เธอ เธอมาอยู่ที่นี่ ที่นี่...ห้องกูนี่หว่า เธอมาอยู่ห้องของฉันได้ยังไง แล้วทำไมสภาพ สภาพของเรา มันอะไรวะเนี่ย!” มองรอบห้องก็เห็นว่าเป็นห้องนอนของตัวเองที่บ้านเช่า เริ่มก้มดูร่างกายของเขาที่ไร้อาภรณ์ ยังดีที่สวมกางเกงชั้นในเอาไว้ไม่ใช่เปลือยกาย
“เมื่อคืนคุณชวนฉันมาที่บ้านแล้วก็...ทำ ทำอย่างนั้น...ตลอดทั้งคืนค่ะ” เล่าจบก็ก้มหน้าแสร้งทำไหล่สั่นให้คนมองสับสนมากกว่าเดิม
“ไม่จริง! ฉันทำเธอเหรอ” คำพูดของคนแปลกหน้าเล่นเอาเขาถึงกับนิ่งงันไปชั่วขณะ
จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนกลับมาถึงบ้านได้อย่างไร รู้เพียงขับมอเตอร์ไซค์ไปดื่มกับเพื่อนร่วมงาน แล้วเขาก็เมามากจนอยากกลับบ้านแต่ทุกคนยังติดลมไม่มีใครอยากกลับ จึงคิดขับรถกลับมาเองคนเดียว นั่นคือความทรงจำครั้งสุดท้ายก่อนพบว่าตื่นมามีผู้หญิงนอนข้างกาย
แต่หน้าเธอค่อนข้างคุ้นพอสมควร เหมือนเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนเพียงแค่เขาจำไม่ได้...
“ค่ะ” ไม่คิดเลยว่าหญิงสาวจะตอบเช่นนี้
ภาพตรงหน้าเหมือนดูละครไม่มีผิด เขารู้ดีว่าถึงตัวเองจะเมาแค่ไหนแต่ก็ไม่มีทางล่วงเกินผู้หญิงเป็นอันขาด ยืนตัวไม่ตรงแล้วจะทำอะไรเจ้าหล่อนได้ล่ะ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นถุงยางอนามัยใช้แล้วที่ถูกทิ้งในถังขยะ
ดวงตาคมบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ก็ยังไม่คิดจะยอมรับความจริง ส่ายหน้าอย่างเชื่องช้ายังมั่นใจในตัวเองว่าไม่มีทางทำอะไรกับเธอแน่นอน
“ฉันเมาจะทำได้ยังไง เธอเองก็สมยอมใช่ไหม” ตั้งข้อสันนิษฐานแล้วยังให้หญิงสาวเป็นผู้รับผิดชอบร่วม เธอยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้จนร่างหนาทำตัวไม่ถูก ทรุดนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ติดผนังพลางถอนหายใจเสียงหนัก ยกมือขึ้นกุมขมับที่ปวดจี๊ดขึ้นมาเพียงแค่คิดว่าตนเองล่วงเกินผู้หญิงซึ่งไม่รู้ที่มากที่ไปชัดเจน
“คือว่าฉันไม่มีทางเลือกอื่น คุณเอาแต่กอดฉันเอาไว้...ตอนนี้ฉันเป็นของคุณแล้ว”
หล่อนคิดจะลุกลงจากเตียงแต่เขารีบยกมือห้าม พร้อมส่ายหน้าไม่เชื่อกับสิ่งที่เธอบอก คิดว่าอย่างไรตนก็คงไม่ได้ทำลงไปหรอก
พ่อสอนความเป็นสุภาพบุรุษไม่เคยล่วงเกินหญิงในยามเมาหรือตอนหล่อนไม่เต็มใจ แล้วเขาจะทำลงได้อย่างไร
ถึงจะคิดเช่นนั้นแต่หลักฐานอย่างถุงยางอนามัยใช้แล้วก็ค่อนข้างชัดเจนพอสมควร แล้วแบบนี้เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร
“ไม่ ไม่จริง” พึมพำเสียงเบาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“ช่วยรับผิดชอบฉันด้วยนะคะ”
คนที่อยู่บนเตียงจึงอาศัยจังหวะนี้รีบกดดันเพื่อหาทางเอาตัวรอดเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ต้องใช้มารยาหญิงให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง กลืนความอายทั้งหมดลงคอแล้วเริ่มทวงถามถึงการรับผิดชอบ
ทั้งที่ความจริงเรื่องเมื่อคืน...เขาคือผู้มีพระคุณของเธอด้วยซ้ำ!
“รับผิดชอบอะไรกัน ก็แค่คืนเดียวอย่าคิดอะไรมากเลย ถือว่าเป็นวันไนท์แสตนด์ประสบการณ์ใหม่ในชีวิต ฉันพูดตามตรงว่าเธอไม่ใช่สเปกฉันและเราก็ควรลืมเรื่องนี้ไปซะ” ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจเสียงเบาแล้วเริ่มคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
แต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกสักที จึงตัดปัญหาด้วยการให้เลิกแล้วต่อกัน อย่างไรเขากับเธอก็คงไม่ได้วนเวียนกลับมาพบกันอีกหรอก คิดเช่นนั้นก็รีบบอกเธอซึ่งดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แววตาของเธอแฝงไว้ด้วยความต้องการบางอย่างที่เขาไม่ทราบว่ามันคืออะไร
รู้เพียงตนไม่อยากพบความยุ่งยากอีกแล้ว ถึงได้มาใช้ชีวิตแสนเรียบง่ายในชนบท ปลีกวิเวกจากความวุ่นวายทุกอย่าง ไม่คิดว่าตัวเองยังต้องมาเจอกับเรื่องน่ารำคาญใจเช่นนี้อีก
“แต่นี่มันครั้งแรกของฉัน” ก้มหน้าพลางบอกเสียงอ่อน น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลเป็นสายจนคนมองถึงกับตกตะลึง เผลออุทานเสียงดังอย่างลืมตัว
“ครั้งแรก!” นัยน์ตาเบิกกว้างไม่ค่อยเชื่อกับคำพูดของเธอเท่าไหร่
ดูแล้วอายุอานามก็ไม่ใช่น้อย จะไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาก่อนเลยเหรอ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันพลางยกมือเกาศีรษะเมื่อเจอโจทย์หินเข้าให้แล้ว
“คุณพรากพรหมจรรย์ฉันไป จะไม่รับผิดชอบจริงเหรอคะ” เธอคิดจะลุกจากเตียงเพื่อถามเขา กลับถูกอีกฝ่ายเดินถอยหนีทันที ก่อนทั้งสองจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงของบุคคลที่สามดังอยู่ด้านล่าง
“พี่แสง! ตื่นยังพี่!” เสียงคุ้นเคยที่เขาทราบว่าใคร แต่มันใช่เวลามาต้อนรับแขกหรือไงล่ะ!
“พี่แสงครับ!!” อีกฝ่ายยังเรียกไม่หยุด และเชื่อว่าต้องขึ้นมาบนชั้นสองอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ จึงคิดจะพาหญิงสาวไปซ่อนในห้องน้ำ ทว่าทำได้เพียงแค่จับไหล่บางประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก พบกับเพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่ายืนยิ้มแฉ่ง เท่านั้นไม่พอยังมีรุ่นพี่อีกสองสามคนยืนอยู่ด้านหลัง
มองเขากับเธอตาเป็นประกายแล้วรีบปิดประตูห้องลงดังเดิม...พร้อมกับความเข้าใจผิดอันใหญ่หลวง
“เหวอ! ขอโทษครับพี่!” เสียงเดินลงบันไดทำให้เขารู้ว่าได้เกิดเรื่องขึ้นกับตนแล้ว
“มันอะไรวะเนี่ย!” ยกมือยีศีรษะด้วยความหงุดหงิด ถอนหายใจเสียงดังพร้อมจ้องเธออย่างเอาเรื่อง ก้าวถอยเว้นระยะห่างระหว่างพวกเราเอาไว้ชัดเจน
“เธอต้องการอะไรถึงจะจบเรื่องนี้” เรื่องเกิดขึ้นแล้วและดูเหมือนฝ่ายหญิงจะไม่ยอมจบง่ายๆ จึงได้ทวงถามเพื่อจะได้เลิกแล้วต่อกัน โดยไม่คิดเลยว่าราคาที่ต้องจ่ายมันจะแพงขนาดนี้
“ทะเบียนสมรสค่ะ ฉันต้องการแต่งงานกับคุณ” ดวงตากลมแวววาวหลังพูดจบ ต่างจากเขาที่เผยอปากค้างเป็นที่เรียบร้อย สมองขาวโพลนชั่วขณะแล้วตะโกนลั่นห้องด้วยความโมโห ไม่คิดว่าเธอจะมาไม้นี้
“ฝันเอาเถอะ!!”
คิดว่าเขาเป็นหมูในอวยแล้วจะจับง่ายหรือไง
ไม่มีทาง!
