บท
ตั้งค่า

๑ ผู้มีพระคุณ 1

ผู้มีพระคุณ

การใช้ชีวิตอยู่บ้านหลังใหญ่ที่หรูหราแต่กลับเต็มไปด้วยความอ้างว้างแสนหดหู่ บ้านทั้งมีเพียงสามีภรรยาอาศัยด้วยกันสองคน ฝ่ายชายทำงานหามรุ่มหามค่ำด้วยกิจการกำลังรุ่ง เงินมหาศาลเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งยังใช้หนี้ทั้งหมดที่กู้ยืมมาจนหมด เริ่มจะสร้างบริษัทเล็กที่ทำเตียงนอนยางพาราจากยางที่เหลือ

เขาทำเพื่อเจาะตลาดชนชั้นกลางที่พอมีกำลังซื้อ ดูเหมือนว่ากิจการไปได้สวย ถึงกำไรจะไม่มากแต่ก็ไม่ได้ขาดทุน คิดจะพัฒนาให้ดีกว่านี้แต่คนยังไม่เพียงพอจึงเปิดรับสมัคร มีคนแห่มาสมัครจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลทำงานไม่ได้พัก

เธอพอจะทราบงานของเขาพอคร่าว เพราะฟังจากคุณผู้หญิงที่เล่าจนหมดเปลือก

อนิล เวทย์วินธาถือเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง อายุยี่สิบหกปีเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศก็ต้องมาจัดการงานศพของบิดาและขึ้นดูแลธุรกิจที่ล้มไม่เป็นท่า กอบกู้จนกลับมามีชื่อเสียง ผงาดยิ่งกว่าเดิมจนสามารถส่งออกต่างประเทศได้

ขณะเดียวกันก็แต่งงานกับรัตนาวรา เปรมอนันต์บุตรสาวคนเล็กของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล กลายเป็นข่าวใหญ่โตมีคนมาร่วมแสดงความยินดีนับพัน ถือเป็นงานใหญ่ของยุคก็ว่าได้

แต่ใครบ้างจะรู้ว่าเบื้องหลังรอยยิ้ม เต็มไปด้วยความรอยร้าวที่นับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

“ทำให้มันดีหน่อยสิ!” คนที่เพิ่งถูกซื้อขาดให้มาอยู่ในบ้านเวทย์วินธาถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอถูกคุณผู้หญิงของบ้านเรียกใช้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำไม่ได้ไปไหน นั่งปรนนิบัติอยู่ข้างกายไม่มีห่าง ฟังคนเมาพร่ำเพ้อถึงเรื่องในอดีต แทบจะรู้หมดทุกเรื่องของรัตนาวราด้วยซ้ำ ถึงจะไม่ต้องการทราบก็ตาม

เพิ่งรู้ว่าชีวิตคนรวยก็ทุกข์กับเขาเป็นเหมือนกัน เธอนึกว่ามีเงินแล้วจะมีความสุขเสียอีก

“ขอ ขอโทษค่ะ...หนูจะตั้งใจมากกว่านี้” รีบวางขวดไวน์ลงแล้วควานหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำหมักที่เปื้อนโต๊ะจนกลับมาสะอาดอีกครั้ง

พร่ำขอโทษด้วยความกังวล แล้วรีบรินไวน์ใส่แก้วให้อีกฝ่าย คราวก่อนรินจนเต็มแก้วถูกน้ำราดศีรษะจนจำขึ้นใจ คราวนี้จึงรินให้อยู่ในปริมาณพอเหมาะ พลันถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ตัวเองไม่ได้ทำผิดพลาด

“ค่าตัวถูกกว่าสุนัขที่ฉันเคยซื้อซะอีก หัดทำตัวให้มีประโยชน์สมกับเงินที่ฉันเสียไปหน่อยสิ” คุณผู้หญิงยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม เอื้อมมือไปลูบศีรษะมนคล้ายกำลังล้อเล่นกับสุนัขตัวโปรดของตน หล่อนทำได้เพียงก้มหน้านั่งนิ่ง ยอมอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีปากเสียง

“ค่ะ” ทำได้เพียงตอบรับเสียงเบา

มาอยู่บ้านหลังนี้ได้เกือบหนึ่งสัปดาห์ เริ่มปรับตัวได้แต่ก็ยังคิดถึงมารดาของตนเสมอ หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อจากแม่เลยสักครั้ง ท่านทำเหมือนตายจากกันไปแล้ว

ราตรี สีแสงลาดชื่อที่ท่านตั้งให้เพราะเกิดตอนกลางคืน เป็นคนมืดมนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนตั้งแต่เด็ก เธอเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ช่วงมอต้นเคยมีแฟนเพราะฝ่ายชายมาจีบและขยันซื้อของมาให้ตลอด ยอมคบด้วยเห็นว่าเขาเป็นคนดี

แต่เกือบจะเสียตัวให้ฝ่ายชาย โชคดีที่มีภารโรงเดินผ่านเลยช่วยไว้ได้ทัน จากนั้นข่าวก็แพร่กระจายไปว่าเธอกับชายผู้นั้นมีความสัมพันธ์ในห้องเรียน ใส่สีตีไข่จนเกิดเรื่องราวใหญ่โตต้องเรียกผู้ปกครอง

ทนความอับอายไม่ไหวจึงออกจากโรงเรียนมาเรียนที่ใหม่ ถูกพ่อแม่ด่าทอด้อยค่ากลายเป็นคนหวาดกลัวผู้ชายไปโดยปริยาย เพื่อนก็ตีตัวออกห่าง จากนั้นเป็นต้นมาก็เล่นคนเดียวมาตลอด มีหนังสือเป็นเพื่อนไม่ให้ตัวเองเหงา

ทว่าหญิงสาวรู้ดีว่าเธอยังคงอยากมีความรัก ต้องการผู้ชายที่มีความเป็นผู้นำ อ่อนโยนและเข้าอกเข้าใจตน คนที่มาเติมเต็มในส่วนที่หล่อนขาด เพียงแต่ยังไม่มีคนแบบนั้นเข้ามา

“ดื่มหน่อยไหม” จากที่นั่งเฝ้าอีกฝ่าย กลับถูกชวนในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะลอง จึงรีบส่ายหน้าแล้วหาเหตุผลที่ฟังขึ้นมาปฏิเสธเจ้านายของตัวเอง ถึงจะกลัวถูกดุก็ตาม

“ไม่ ไม่ค่ะ หนูดื่มไม่เก่งแล้วอายุก็ยังไม่ถึงด้วย” ยิ้มในหน้าแล้วก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตา รู้ดีว่าต้องโดนเซ้าซี้เป็นแน่ รัตนาวราเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง เธออยู่กับอีกฝ่ายไม่กี่วันก็รับรู้นิสัยในข้อนี้เป็นอย่างดี

แต่จะให้ปฏิเสธได้อย่างไร หล่อนเป็นแค่ลูกจ้างเท่านั้น…

“บ้านนี้ไม่มีตำรวจหรอกน่า สักหน่อยสิ...ฉันไม่มีเพื่อนดื่มสักคนมันเหงานี่น่า” พยายามยื่นแก้วไวน์ไปตรงหน้า แล้วคะยั้นคะยอไม่เลิกรา สาวน้อยที่ยังเป็นเพียงผู้เยาว์ยังคงส่ายหน้าไม่ยอมรับเครื่องดื่ม

หล่อนเห็นอย่างนั้นจากที่แย้มยิ้มก็กลับมาทำหน้าบึ้งเหมือนเดิม แววตาเอาเรื่องจนนึกกลัว ลอบกลืนน้ำลายหนืดลงคอพลางขยับห่างแต่ถูกดึงแขนให้เข้ามาใกล้

“ดื่ม!” ตะโกนเสียงดัง

ทำให้เธอนึกกลัวว่าจะถูกรังแกมากกว่านี้ จำต้องพยักหน้าขึ้นลงเหมือนตุ๊กตาสปริง รับแก้วไวน์มาถือเอาไว้พลางดื่มรวดเดียวจนหมดด้วยใบหน้าเหยเก

“ค่ะ ค่ะ ดื่ม ดื่มแล้ว” รสชาติไม่เห็นอร่อยเหมือนน้ำอัดลมเลย คุณผู้หญิงดื่มเข้าไปได้อย่างไรเยอะขนาดนี้

เธอคิดในใจอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ทำเพียงนั่งนิ่งแล้วสูดลมหายใจเข้าพลางยกมือพักหน้าตัวเองเมื่อรู้สึกร้อนไปทั่วใบหน้า

“หึหึ โธ่เด็กน้อย ไวน์เขาต้องค่อยจิบให้รู้รสชาติสิ จะดื่มรวดเดียวเหมือนขวดล่ะร้อยได้ยังไงล่ะ ขวดนี้สามีของฉันซื้อมาแสนกว่าเลยนะ ต้องค่อยดื่มไปทีล่ะนิด...เข้าใจไหม” ลูบศีรษะมนเมื่อเห็นแก้มนวลเริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย

เล่าเรื่องความเป็นมาของขวดไวน์ให้ฟัง สามีซื้อมาเก็บไว้ในห้องเก็บไวน์หลายขวด แต่ตอนนี้มันเริ่มหมดไปเมื่อหล่อนไปหยิบมาดื่มทุกครั้งที่รู้สึกเครียด อยากออกไปจากบ้านหลังใหญ่ที่เหมือนสถานที่กักกัน ไม่ได้ต้องการอยู่ที่นี่สักนิด

แต่เพราะออกไปไม่ได้ จึงจำต้องอยู่ไปก่อน แล้วทำทุกอย่างให้เขาทนไม่ไหวแล้วเป็นฝ่ายขอหย่าเอง ซึ่งเธอคิดว่าช่วงเวลานั้นคงอยู่ไม่ไกลแล้ว

“ค่ะคุณลิลลี่” เพิ่งดื่มเป็นครั้งแรกอีกทั้งยังเต็มไปด้วยความกังวล จึงไม่ได้สนใจวิธีและเธอก็ไม่รู้ว่ามันต้องดื่มยังไง แค่เอาเข้าปากก็น่าจะพอไม่ใช่เหรอ

กระนั้นหล่อนก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นอย่างดี อารมณ์ของรัตนาวราไม่ค่อยมั่นคง ทางที่ดีคือต้องตามใจหมดทุกอย่าง นั่นคือสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากการอยู่บ้านหลังนี้

“รู้ไหม...พ่อฉันบังคับให้แต่งกับไอ้คนไร้หัวใจเพราะต้องการเงินสนับสนุนในการลงสมัครสส. ตอนนี้ทุกคนสมหวังหมดเลย มีความสุขได้สิ่งที่ต้องการ แต่ยกเว้นฉัน...คนที่ไม่เคยมีความสุขเลย ไม่มี ไม่มีเลยสักวัน!!” รินไวน์ใส่แก้วแล้วเริ่มร่ายยาวถึงความอัดอั้นตันใจ

ครอบครัวที่ผลักไสลูกสาวคนเล็กให้มาแต่งงานกับชายแปลกหน้า เพื่อจะได้บรรลุความต้องการของตนเอง เขาก็ยอมตอบตกลงไม่ใช่เพราะรักแต่เพียงต้องการตอบแทนบุญคุณ พวกเราไม่เคยยิ้มให้กันด้วยความจริงใจเลยสักครั้ง

มีเพียงความเกลียดชัง…

ยกเว้นยามอยู่ต่อหน้าคนอื่นในงานสังคมที่ต้องเข้าร่วม พวกเราเล่นละครเป็นคู่รักได้อย่างแนบเนียน แต่เมื่อขึ้นมาบนรถก็นั่งห่างกันและไม่มีบทสนทนาสักประโยค

นี่ไม่ใช่การแต่งงานที่เธอต้องการ ไม่ใช่ความรักที่หญิงสาวตามหาเลยด้วยซ้ำ หล่อนอยากเป็นอิสระแล้วไปอยู่กับคนที่ตัวเองรักสักที แต่ที่ติดอยู่ตอนนี้ก็เพราะทรัพย์สินซึ่งตกลงกันไม่ลงตัวสักที

เหลือบสายตามองผู้หญิงที่นั่งพับเพียบบนพื้น ความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาให้ต้องอมยิ้ม หากหล่อนทำสำเร็จตามแผนก็จะหลุดพ้นจากนรกขุมนี้สักที คนอื่นจะเป็นอย่างไรตนไม่สนใจ

ขอเพียงเป็นอิสระก็พอแล้ว…

หากให้ราตรีนอนกับสามีแล้วยื่นฟ้องที่เขามีชู้ คงได้ทรัพย์สินในส่วนของตนไม่น้อยเลยทีเดียว

“ดื่ม ดื่มสิ นิ่งทำไมล่ะ” คราวนี้ไม่ใช่ยื่นแก้ว กลับยื่นขวดไวน์ให้หญิงสาวจนเจ้าตัวลนลานรับมาถือเอาไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel