เรื่องบังเอิญ
บนเครื่องบิน
“อ้าวน้องอริส วันนี้มาคนเดียวหรอจ๊ะ”
“ใช่ค่ะพี่ออม วันนี้มีงานที่เชียงใหม่เลยต้องบินแต่เช้าเลย”
เสียงของแอร์โฮสเตสสาวที่ยืนต้อนรับผู้โดยสารหน้าประตูทางเข้าของเครื่องบินเอ่ยทักทาย หญิงสาวด้วยท่าทางสนิทสนม ก่อนที่ทั้งสองจะพักเบรกการสนทนาเอาไว้ เพราะอาจจะทำให้การจราจรติดขัดไปมากกว่านี้
แต่ทว่าการทักทายและการสนทนาของทั้งสองกลับหนีไม่พ้นสายตาของเซทท์ที่เอาแต่จับจ้องมองหญิงสาวอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนที่แผ่นหลังของอริสจะลับหายไปในฝูงชนอีกครั้ง
“คุณเซทท์สนใจเธอใช่ไหมครับ?”
“มองออกขนาดนั้นเลยหรอพี่คิม?”
“เด็กอนุบาลยังมองออกเลยครับ จ้องซะขนาดนั้น”
“ไปสืบประวัติเธอมาให้ผมก่อนนะครับ?”
ถึงแม้อริสจะถูกใจเซทท์มากแค่ไหน แต่เขาจะไม่มีทางเอาเด็กที่ไม่รู้ประวัติหัวนอนปลายเท้ามาเป็นคู่นอนแน่ๆ อย่างน้อยเขาต้องได้รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหนเสียก่อน ก็ยังดีกว่า
สนามแข่งรถ
ในสนามแข่งรถยนต์เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งหญิงและชาย ที่สนใจในความเร็ว ต่างจับจองหาที่นั่งบนสแตนด์เชียร์เพื่อรอดูการแข่งขัน ซึ่งนอกจากการแข่งรถแล้วยังมีบูธกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบูธเปิดตัวอุปกรณ์แต่งรถใหม่ๆ
รวมถึงเปิดตัวรถแข่งรุ่นใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยพริตตี้สาวสวยทั่วทั้งงาน และอริสเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ประจำอยู่ที่บูธเปิดตัวรถแข่งรุ่นใหม่ ทั้งรถและพริตตี้ตัวท็อปของประเทศจึงทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจและดึงความสนใจจากผู้คนมากมายได้เป็นอย่างดี
“พี่อริส วันนี้มาแทนพี่น้อยหน่าหรอคะ?”
“ใช่จ๊ะน้องเมย์ พี่น้อยหน่าติดธุระให้พี่มาแทนน่ะ”
“ดีจัง มีคนสวยๆ แบบพี่มาทำงานด้วยรู้สึกสนุกดี หนุ่มๆ จ้องกันตาเป็นมันแล้ว”
“เกินไปแล้ว”
สองสาวยังคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยที่อริสไม่ได้สังเกตเห็นสายตาเฉียบคมของใครบางคนที่นั่งจ้องมองเธออยู่บนห้องกระจกโซน VIP ของสนามแข่งรถ
“เห้ย!!บังเอิญไปไหมเนี่ย เจอเธออีกแล้วครับคุณเซทท์”
คิมหันต์มัวแต่พูดพร่ำเพรื่อเรื่องอื่นๆ โดยไม่ทันสังเกตว่าผู้เป็นนายนั่งจ้องเธอตาเขม็งก่อนหน้าเขาอีก
“เรื่องที่ผมให้พี่ไปจัดการได้เรื่องหรือยังครับ?”
เสียงทุ้มต่ำของเซทท์เปล่งออกมาเบาๆ เพื่อกระตุ้นให้เลขาหาข้อมูลมาให้เร็วที่สุด โดยที่สายตาคู่คมยังคงจับจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าบูธรถแต่งรุ่นใหม่ไม่วางตา
“อ่อ ผมไปสืบประวัติเธอมาได้นิดหน่อยครับ”
มือหนายื่นไอแพคสีขาวส่งให้ผู้เป็นนายอย่างรู้งาน ก่อนที่เซทท์จะรีบเอื้อมมือเรียวยาวมารับแล้วเบนสายตาออกจากเธอลงมามองข้อมูลในไอแพค
“อายุ 28 ปี อาชีพพริตตี้?”
เรียวปากหนายังคงบ่นพึมพำกับประวัติของอริส พลางเบี่ยงเบนสายตามองลงไปยังพื้นล่างเป็นระยะ ใบหน้าคมคายของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความใคร่และต้องการเธอมาครอบครองก่อนที่จะตกไปเป็นของเล่นของคนอื่นเสียก่อน
“คุณเซทท์ครับ ดูผู้ชายกลุ่มนั้นสิครับมองเธอตาเป็นมันเลย”
“เป็นทั้งพริตตี้ และก็ขายทั้งตัวขนาดนี้ไม่แปลกหรอที่ผู้ชายจะสนใจเยอะ”
ในครั้งแรกที่เจอกันเซทท์นังไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่เมื่อได้ยินทุกประโยคที่เธอพูดอยู่ที่สนามบินของเช้าวันนี้ และยิ่งมาเจอเธอทำงานแบบนี้ด้วย ยิ่งทำให้เขาปักใจเชื่อทันทีว่าอริสจะเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อเงิน
“คุณเซทท์คิดว่าเธอขายตัวจริงๆ หรอครับ?”
“ผู้หญิงที่ทำงานแบบนี้ ถ้าไม่ชอบเม็ดเงินที่ได้จากการเอาตัวเข้าแลกจะกล้าเข้ามาทำไมละพี่คิม คอยดูเถอะแค่เห็นอำนาจของเงิน ยัยเด็กนี้ก็แทบจะหมอบกราบคลานเข่าเข้าหาผมแล้ว”
รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าหล่อคมคายด้วยความพอใจ ความคิดของเขาแปรเปลี่ยนเป็นคำพูดที่มีแต่คำดูถูกเหยียดหยามอริส โดยไม่ได้รู้ความจริงเลยด้วยซ้ำว่าเธอทำมันจริงๆ หรือเปล่า เขาเห็นแค่ภายนอกก็คิดเองเออเองเสียก่อนแล้ว
