เจอกันครั้งแรก

“นายครับ!! ของล็อตนี้มีปัญหาเรื่องด่านตรวจ จำเป็นต้องเลื่อนวันส่งใหม่อีกครั้งครับ”

“แล้วลูกค้าว่ายังไงบ้าง?”

“ลูกค้ายอมรอล็อตใหม่ได้ แต่ไม่เกินสัปดาห์นี้ครับ”

“อืม ฝากจัดการให้เรียบร้อยด้วยนะพี่เอก”

“ครับนาย”

มือถือถูกว่างลงบนโต๊ะด้วยความเหนื่อยล้าสมอง แต่ทว่าชายหนุ่มยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรออก เลขาส่วนตัวก็พุ่งเข้ามาในห้องด้วยความรวดเร็ว

“งานแข่งรถที่เชียงใหม่ คุณเซทท์จะไปกี่วันครับ?”

เสียงเรียบของเลขาคนสนิทเอ่ยถามออกมาด้วยความคับข้องใจ ก่อนจะปรายตามองไปยังชายหนุ่มที่มีอายุเพียง 34 ปี ขึ้นแท่นผู้กำกับการกองปราบฯ ของสน.แห่งหนึ่งใจกลางกรุง ความฉลาด ดุดัน และเก่งของเขาทำให้ไม่มีใครกล้าต่อต้านเขาเลยแม้แต่คนเดียว

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งกาย และทรงผมที่ดูเหมือนคนทั่วไป ไม่เป็นจุดสนใจของคนร้ายที่มองเห็นเขาเวลาลงสนามปฏิบัติหน้าที่จริง ทุกปฏิบัติการที่เขาได้รับมอบหมาย เซทท์สามารถทำได้ดีมาตลอด ถึงแม้มันจะเป็นแค่ฉากบังหน้าก็ตาม

เพราะเบื้องหลังของหน้าที่ตำรวจใครเล่าจะรู้ว่าเขาคือเจ้าพ่อค้าขายอาวุธสงคราม เจ้าพ่อบอนกาสิโนและสิ่งผิดกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เพราะเส้นสายที่เป็นถึงลูกชายเพียงคนเดียวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้สิทธิพิเศษต่างๆ เหนือคนอื่นๆ อยู่เสมอ

“วันเดียวก็พอ”

ชายหนุ่มปล่อยเสียงทุ้มต่ำออกมาด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะปรายตามองหน้าของเลขา โดยไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้

“ได้ครับผมจะจัดการจองโรงแรมและหาเด็กไว้รอ”

คิมหันต์เลขาที่ทำงานอยู่เบื้องหลังของธุรกิจสายเทาควบคู่กับตระกูลมานานมากกว่า 7 ปี รู้ทันผู้เป็นนายที่อายุน้อยกว่าตนเองเกือบสองเท่าเป็นอย่างดี ว่าเขาต้องการอะไร ก่อนจะม้วนตัวถอยหลังเดินออกจากประตูไป ปล่อยให้คนร่างสูงโปร่ง นั่งอัดควันบุหรี่เข้าสู่ปอดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เพียงลำพัง

สนามบิน

“คุณเซทท์ครับ ให้ผมเอากระเป๋าไปรอที่เคาน์เตอร์ก่อนมั้ยครับ?”

“ไม่ต้องพี่คิม อย่างทำให้เป็นจุดสนใจ”

เซทท์รีบยกมือขึ้นห้ามเลขาส่วนตัวก่อนจะเดินนำเข้าไปในสนามบินอย่างคุ้นเคย เพื่อตรงไปนั่งรอที่ทางออกก่อนขึ้นเครื่องบิน

“คุณเซทท์ครับ ทำไมไม่ให้ผมจองไฟท์พิเศษให้ละครับ?”

“ผมอยากลองนั่งไฟท์ธรรมดาแบบนี้ดูบ้าง เราจะได้เห็นการเดินทางแบบคนทั่วๆ ไปว่าเขาเดินทางกันยังไง เผื่อวันหนึ่งต้องตามจับคนร้ายจะได้รู้ทันไว้ก่อนไงครับ”

“ครับ ผมไม่เคยแปลกใจเลยว่าทำไมคนอายุน้อยแบบคุณเซทท์ถึงได้ขึ้นแท่นยศสูงขนาดนี้ เพราะคุณฉลาดแบบนี้เอง”

“เกินไปพี่คิม ไม่ขนาดนั้นหรอก”

สองเจ้านายกับลูกน้องยังคงยืนสนทนากันด้วยเสียงเบาที่สุดระหว่างต่อแถวเพื่อขึ้นเครื่อง

“อุ้ย!!”

โครม!!

ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้เดินขึ้นเครื่อง ชายชราที่ยืนอยู่ข้างหน้าเซทท์เซล้มไถลถอยหลังมากระเเทกเขาที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ตัวเซทท์ไถลไปชนกับตัวของอริสที่ยืนอยู่ข้างหลังล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ย!!”

“ขอโทษครับ ผมไม่ทัน…”

เพียงแค่สบตากลมโตของเธอทำให้หัวใจทั้งดวงของเซทท์เต้นสั่นระรัวราวกับถูกทุบตีด้วยไม้กลองชุดเป็นพันด้าม ลำตัวที่เคยแข็งแกร่งในคราแรกแข็งทื่อเป็นตอ ฝ่ามือทั้งสองข้างเย็นเฉียบดั่งถูกแช่ไว้ในน้ำแข็ง เหมือนทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าหยุดเคลื่อนไหว เขารู้สึกถึงผีเสื้อนับล้านตัวบินวนอยู่ภายในท้องโดยไม่เคยเป็นมาก่อนอย่างน่าประหลาดใจ

“คุณเซทท์ครับ!!”

เสียงของเลขาคิมหันต์ดังขันเบาๆ ข้างๆ ใบหู คิมหันต์พยายามกระตุกแขนเซทท์แรงๆ เพื่อให้เขารู้สึกตัวและตื่นจากภวังค์ได้สักที เพราะสายตาของผู้เป็นนายดูหื่นกระหายอย่างลืมตัว จนมันดูน่าเกลียดและเสียงมารยาทมากๆ ต่อหน้าหญิงสาวหน้าตาดี ทรวดทรงสุดเซ็กซี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าในตอนนี้เอามากๆ

“เอ่อ..เมื่อกี้ผมไม่ได้ตั้งใจ ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

อริสเองที่โดนสายตาของเซทท์แทะโลมอยู่สักพัก เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี จึงได้แต่ตอบออกไปแค่นั้น ก่อนจะเดินเลี่ยงชายหนุ่มสองคน เพื่อต่อแถวขึ้นเครื่องใหม่อีกครั้ง แต่ก็ไม่วายหันมามองหน้าเซทท์ที่ยังคงจ้องเธออยู่เช่นกัน

“ฮัลโหลค่ะ พี่น้อยหน่า”

“เมื่อวานงานดีมาก ใหญ่มากๆ ด้วยค่ะ”

“ใช่ๆ เนี่ยยังปวดตามตัวไม่หายเลย ลูกค้าหลายคนมาก”

ฯลฯ

ในขณะที่เธอเดินอยู่ทางเชื่อม อริสหยิบมือถือขึ้นมา เนื่องจากมีใครบางคนโทรเข้ามา หญิงสาวรีบกดรับสาย และพูดคุยกับหญิงสาวรุ่นพี่ถึงเรื่องภายในงานที่เธอพึ่งไปมาเมื่อวาน แต่คำพูดของเธอกลับดูล่อแหลมซะเหลือเกิน เมื่อคนอย่างคุณตำรวจยศใหญ่ได้ยินเข้า เซทท์จึงได้แต่ปักใจเชื่อคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นแน่ๆ แต่ด้วยความสวยของเธอมันช่างโดดเด่นชัดเจนจนเขาเองมีความต้องการทำแบบนั้นกับเธอเช่นกันกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่พบเจอ