บท
ตั้งค่า

7

ไอยรามาพักอยู่ที่บ้านของสองพี่น้องมาร่วมสองสามวัน แต่ก็ยังไม่ได้มีทีท่าว่าบิดาของเธอจะบุกมาที่บ้านหรือส่งลูกน้องมาสอดแนม

ม่านฝันสั่งห้ามไม่ให้คนสองคนออกไปไหน เพราะเธอยังไม่ไว้ใจว่าทั้งคู่จะปลอดภัยหรือเปล่า

“เราจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดีนะ” ครุ่นคิดขณะที่จัดเตรียมข้าวของสำหรับขายตอนเย็น ใส่บนรถกระบะมือสองราคาถูก เอาไว้พอขนของได้

ตอนนี้ม่านฝันไม่อยากจะลงทุนใหญ่ เพราะอยากจะเก็บเงินเอาใช้ในตอนสำคัญ

อีกอย่างเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอไม่อยากจะจุดธูปบอกพ่อกับแม่ กลัวว่าวิญญาณของท่านจะไม่สบายใจ

“จะทำอะไร”

“น้องไอซ์อยากช่วยทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ น่ะค่ะ”

“เมื่อวานเพิ่งจะทำหม้อระเบิด ไว้ชีวิตกระทะไว้เถอะ ถอยออกมา” เสียงบทสนทนาของคนสองคน ทำเอาม่านฝันต้องเดินไปแอบดู ไม่แน่ใจว่าม่านหมอกจะว่าอะไรที่มันกระทบกระเทือนใจไอยราอีกหรือเปล่า

“อย่าเอาปมเดิมมาซ้ำเติมสิคะ น้องไอซ์ไม่ทำพลาดเป็นครั้งที่สองหรอกค่ะ”

“รอยน้ำมันที่แขนยังไม่หายดีเลยนะ อย่าซ่าไม่เข้าเรื่อง เก็บเนื้อเก็บตัวไปเถอะ” ม่านฝันแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง คนอย่างม่านหมอกน่ะหรือที่จะพูดอะไรอย่างนี้ออกมาได้

เหมือนจะว่า...แต่มันแอบห่วงกันชัดๆ นี่หว่า

“ขี้เกียจหายาให้ทา อย่าสร้างแต่ภาระ ขอล่ะ” ทำเป็นว่าอย่างเหนื่อยใจ พร้อมดึงแขนผู้หญิงบอบบางมานั่งบนโซฟาหน้าทีวี แล้วเดินเข้าครัวไป เชิงจะจัดการสิ่งที่เธอจะทำให้ต่อ

ไอยราผู้ตั้งใจว่าจะตัดใจจากผู้ชายคนนี้ แอบเผลอไผลได้ปลื้มจนต้องลอบยิ้ม มีหรือที่คนอย่างม่านฝันจะมองไม่ออก เธอยิ้มตามพร้อมส่ายหัว เห็นทีว่าเรื่องนี้ต้องไปเค้นเอาคำตอบให้กระจ่างซะแล้ว

แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ขยับเคลื่อนไหว เสียงรถยนต์เบากริบก็ดังแล่นเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน จนเธอต้องหันไปมองอย่างระแวดระวังทันที

“ใครมากัน” สองเท้าไวกว่าความคิด รีบวิ่งแจ้นไปหน้าบ้าน ส่งสัญญาณให้ไอยรารีบหาที่หลบทันที

“คะ...คุณ” เมื่อรถตู้คันใหญ่สีดำได้เปิดออก ร่างสูงตระหง่านที่ติดตาม่านฝันอยู่ทุกเมื่อเชื่อตื่นก็พลันปรากฏต่อหน้า

ผู้แต่งตัวอยู่บ้านแบบธรรมดาสุดๆ ด้วยเสื้อยืดกางเกงขาสั้นกรอมเข่าตกใจเล็กน้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากลูบผมยุ่งยับเยินที่มัดรวบเอาไว้แบบลวกๆ ให้เข้าที่

แม้จะไม่ช่วยอะไร แต่ก็น่าจะช่วยเรียกความมั่นใจของตัวเองมาได้บ้าง

ไม่เลย...ไม่ได้เลย!

“คุณมาทำอะไรที่นี่” เอกสิทธิ์ไม่ยอมตอบ กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณบ้าน มองแทบจะทะลุเข้าไปในตัวบ้านที่ประตูหน้าต่างปิดสนิท แทบจะมองไม่เห็นภายใน

“เวลาคุณไปบ้านผม ผมให้คุณยืนอยู่หน้ารั้วแล้วผมมายืนคุยแบบนี้รึเปล่า” ม่านฝันหน้าม้านขึ้น เขากำลังตำหนิเธออย่างจงใจอยู่ชัดๆ

“บ้านฉันหลังเล็ก ตัวสูงขนาดคุณเนี่ยเข้าไปไม่ได้หรอก ติดประตู” แม้จะรู้ตัวว่าแถได้แบบหน้าด้านๆ แต่ถ้าแลกกับการทำให้เขาเข้าไปในบ้านเธอไม่ได้ มันก็คุ้มแสนคุ้ม!

“ผมไม่ได้กระดูกคอเสื่อม ก้มได้”

“แต่กระดูกข้อเข่าคุณอาจจะเสื่อมก็ได้นะ ย่อแล้วปวดเข่า แค่ก้มคงเข้าไปไม่ได้ ต้องย่อเลยแหละคุณ” ดวงตาคมดุเข้มขึ้นเชิงรำคาญ ตำหนิในความแถต่ออย่างหน้าด้านๆ ที่พอเขายอมเล่นด้วยหน่อยก็เอาใหญ่

“น้องไอซ์อยู่ที่นี่ใช่มั้ย” คนวิ่งออกมาจากภายในรั้วบ้าน เบรกจนหน้าแทบคว่ำ ก่อนกลบเกลื่อนพิรุธเป็นการใหญ่

“ทำไมคุณถามแบบนั้น อย่าบอกนะว่าน้องไอซ์หนีออกจากบ้าน!” ม่านฝันทำเป็นตกใจจนเขาต้องมองเธอตาขวาง

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง”

“ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลยคุณน่ะ คุณไปทำอะไร ลูกถึงได้หนีออกจากบ้านมาแบบนั้น แล้วหายไปกี่วัน ทำไมเพิ่งออกตามหา!” แม้จะรู้ตัวว่าได้เผลอหลุดปาก แต่นักสู้เอาหัวดุนแบบเธอ เรื่องแถแค่นี้เธอโชกโชนมานักต่อนัก

“เขาเล่าว่ายังไงบ้างล่ะ”

“เขาก็บอกว่า...” กัดริมฝีปากตัวเองจนเลือกแทบซิบ แถเก่งก็จริงแต่ความปากไวก็นำความชิบหายมาให้ตัวเองได้อยู่เนืองๆ

“ถ้าโกหกอีกที จะไม่ให้โอกาสได้พูดต่อไปอีกแล้วนะ” คนที่มั่นใจในตัวเองว่าตัวเองไม่สวยแน่ๆ และปลอดภัยจากความบ้ากามของพวกผู้ชายได้เสมอ เชิดใบหน้าขึ้นราวกับท้าทาย

“ทำไม คุณจะจูจุ๊บฉันให้ใจขาดตายเหรอ”

“อืม...จูจุ๊บด้วยไอ้นี่ไง” ปลายกระบอกลูกตะกั่วดำเมื่อมถูกยกขึ้นมา จนใจม่านฝันหล่นวูบ

“ฉันล้อเล่นน่าคุณ ใจเย็น ค่อยพูดค่อยจากันดีกว่านะ”

จูบด้วยปากอาจจะไม่ถึงกับตาย...แต่จูบด้วยไอ้นี่นัดเดียวน่าจะจอด!

“คุณนั่นแหละ จะพูดจากันดีดีได้รึยัง”

“เออ! ยอมพูดแล้วก็ได้ แต่ไม่พูดตรงนี้นะ เมื่อยขา!” แล้วเธอก็ฉวยโอกาสเดินขึ้นไปบนรถตู้ของเขาที่เปิดประตูทิ้งไว้อยู่ เชิงนำให้เขาตามไป

คนหน้านิ่งถอนหายใจเชิงเบื่อหน่ายเล็กน้อย ตวัดสายตาตามเธอไปและลอบเห็นว่าลูกน้องของตนกำลังแอบลอบยิ้มเชิงขำ

สายตาคมดุตวัดปลาบเข้าให้...

มันจะขำอะไรกัน

จะไม่ให้พวกเขาขำได้ยังไง นานๆ จะได้มาเห็นเจ้านายลงให้ใครสักคนได้ ปกติเขาคงไม่ยอมให้ใครมายียวนตัวเองได้หลายประโยคขนาดนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel