บท
ตั้งค่า

6

“โอ๊ย เบาๆ หน่อยสิพี่ม่าน ผมเจ็บนะ” ม่านฝันมองหน้าอันเละเทะของน้องชายด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เป็นห่วงก็เป็นห่วง เป็นลมไปไม่รู้กี่รอบ แต่ความโกรธก็ยังคงกรุ่นอยู่

สิ่งที่หนุ่มใหญ่ผู้ปากร้ายพูดไว้ ดูเหมือนจะไม่ได้ผิด ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เก็บเอามาคิด...ว่าตัวเองมีส่วนผิดกับเรื่องนี้แค่ไหน

“รู้จักเจ็บ แล้วก็ต้องรู้จักจำด้วย”

“อย่าซ้ำเติมได้ป่ะ ผมเจ็บหนักขนาดนี้” อันที่จริงถึงม่านหมอกจะเป็นอย่างนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สำนึก เพียงแต่คนอย่างเขามันแสดงออกได้ไม่ดี ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรให้พี่สาวสบายใจได้

“ฉันก็ยอมรับว่าทางเราผิด แต่เขาเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้นเขาควรจะหาทางออกที่ดีกว่านี้สิ ไม่ใช่เอาแต่ใช้กำลัง” ภาพทรงพลังของเอกสิทธิ์ยังติดตาติดใจเธออยู่ไม่หาย

เขาดูน่ากลัวไปพร้อมๆ กับทรงเสน่ห์

แม้จะกลัวจนต้องหลับตาปี๋...ก็ยังหลับไม่ลงเพราะไม่อาจละสายตาไปจากเรือนร่างของเขาได้

หยุดเพ้อเจ้อก่อน!

“แล้วน้องไอซ์เขาติดต่อมาบ้างรึเปล่า”

“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้ดูเลยพี่” ว่าพร้อมล้วงโทรศัพท์ของตัวเองออกมา โชคดีที่พวกบอดี้การ์ดล้วงออกให้ก่อนจะกระทืบ เหมือนแสดงน้ำใจเล็กๆ

ไม่อย่างนั้นเขาก็คงติดต่อสื่อสารกับใครไม่ได้ไปพักใหญ่

“ไหน เดี๋ยวฉันดูเอง...” แต่พอเห็นข้อความเยอะแยะไปหมดที่ส่งมา ก็ต้องสะดุดกึกใหญ่...ไม่มีข้อความจากไอยราเลยสักข้อความ แต่เป็นข้อความจากสาวๆ คนอื่นที่ม่านหมอกคุยด้วยอยู่

“ไอ้หมอก ไหนบอกว่าจะเลิกคุยกับผู้หญิงไปทั่วแล้วไง!”

“ก็เลิกคุยแล้ว แต่เขาไม่เลิกกันเอง” ว่าเสียงอ่อย ไม่กล้าสบตาพี่สาว

“ทำไมไม่บล็อกไปให้จบๆ”

“บล็อกแล้ว แต่เขาก็หาวิธีทักมากันอีกจนได้” ม่านหมอกไม่ได้โกหก คนอย่างเขาถูกผู้หญิงคอยตามเป็นปกติ เพราะเขาไม่เคยที่จะจริงจังกับใคร ไม่เคยแบบไม่คิดมาก่อนด้วย

“เหมือนหล่อเนอะ! เดี๋ยวฉันจัดการให้ อยากจะรู้นักว่าจะอยากทักกันมาอีกมั้ย”

“เฮ้ยพี่ ไม่เอาอย่ายุ่ง”

“ถ้าฉันไม่ยุ่งตั้งแต่ตอนนี้ ฉันได้ยุ่งวุ่นวายภายหลังแน่!” แล้วม่านหมอกก็พยายามยื้อแย่งโทรศัพท์จากพี่สาว

แต่แล้วก็มีเสียงกริ่งประตูหน้าบ้านดังขึ้นมาเสียก่อน

“พี่ม่านเอาโทรศัพท์คืนผมมา” ม่านฝันรีบเดินไปดูหน้าบ้านว่าใครมา ช่วงนี้เธอยุ่งวุ่นวายจนไม่ได้ติดต่อใครมาสักพักใหญ่ แม้แต่สองสาวเพื่อนรักเธอก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้ด้วย

เพราะว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของเธอโดยตรง เธอต้องรักษาความลับตามสิทธิ์ของเจ้าตัวทั้งสอง ทั้งของไอยราและทั้งของม่านหมอก

ตราบใดที่เรื่องนี้ยังไม่มีบทสรุปเธอก็จะไม่มีวันยอมบอกใครแน่ๆ

“น้องไอซ์” ภาพเด็กสาวผู้ยืนร่ำไห้ราวกับหวาดกลัวอะไรสักอย่าง ทำให้เธอต้องรีบเปิดประตูบ้านรับเข้ามาก่อน โดยไม่สนใจว่าเธอจะหนีอะไรมาก็ตาม

“พี่ม่านคะ ช่วยน้องไอซ์ด้วยค่ะ” ทันทีที่เข้ามาในรั้วบ้านหลังเล็กได้ ไอยราก็โผเข้ากอดม่านฝัน เด็กสาวตัวสั่นเทาระคนตื่นเต้น

“เข้าไปคุยกันในบ้านก่อนนะ ใจเย็นๆ ลูก” แล้วม่านฝันก็รีบมองไปรอบบ้าน เพราะไม่รู้ว่ามีใครตามมาบ้างหรือเปล่า คนระดับเอกสิทธิ์ไม่น่าจะปล่อยให้บุตรสาวออกจากกรงสีทองมาได้ง่ายขนาดนี้

ไอยราเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้สองคนพี่น้องฟังทั้งน้ำตา เพราะเธอแอบได้ยินเอกสิทธิ์บอกว่าให้เธอเอาเด็กออก

“นี่เขาใจดำกว่าที่พี่คิดไว้อีกนะ!”

“ปกติถึงคุณพ่อจะดูโหดแค่ไหน คุณพ่อก็ไม่เคยใจร้ายพอที่จะฆ่าคนบริสุทธิ์นะคะ” ไอยราว่าอย่างมั่นใจ เธอเองก็ไม่เชื่อหูเหมือนกันในสิ่งที่ได้ยินมา

‘เอาออกซะก็จะได้จบๆ ไม่ต้องมาสร้างปัญหายุ่งยากใจให้ภายหลัง’ เธอไม่รู้หรอกว่าบิดาคุยโทรศัพท์กับใครแต่แน่นอนว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้

“น้อยไป พี่เกือบตายไม่เห็นเหรอ” ม่านหมอกว่าในขณะที่ถือลูกประคบ ประคบแผลให้ตัวเองอยู่

“เงียบไปเลยนะแกน่ะ แกไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ไง” ต่อว่าน้องชายแล้วก็หันกลับไปมองหน้าเด็กสาวที่ยังคงแต่งตัวเหมือนเป็นตุ๊กตา

บางทีเด็กผู้ไร้เดียงสาก็น่าเห็นใจ เธอไม่น่ามาหลงรักผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องอะไรแบบม่านหมอก เธอเป็นเหมือนดอกฟ้า...ไอ้หมอกของเธอต่างหาก ที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับไอยราเลยสักนิด

“แล้วจะเอายังไงต่อไป ทำไมเราไม่ไปคุยกับคุณพ่อเขาให้รู้เรื่อง”

“พี่ม่านก็เห็นแล้วนี่คะว่าคุณพ่อเป็นยังไง พี่ม่านไปหาถึงบ้านท่านยังคุยไม่รู้เรื่องเลยค่ะ น้องไอซ์ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ก็เลยรีบหนีออกมาน่ะค่ะ” ม่านฝันถอนหายใจเฮือกใหญ่ เข้าใจไอยราก็เข้าใจ แต่การทำแบบนี้ก็รังแต่จะทำให้คนมหาโหดนั่น โหดร้ายหนักกว่าเดิม

“จากที่พ่อเธอแค่ซ้อมพี่ คราวนี้ได้ยิงจนพรุนไปหมดแน่”

“เอ๊ะไอ้หมอกนี่ ปากไม่เป็นมงคลเลยนะแก!” รีบปรามน้องชายอย่างนึกขยาด เสียงปืนที่เขายิงแจกันยังดังก้องในหู

“ก็มันจริงนี่พี่ พ่อเขาให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะ อย่าเรื่องมาก”

“ไอ้หมอก!” แทบจะเอาลูกประคบยัดปากน้องชาย ห่วงใยความรู้สึกเด็กสาว

“น้องไอซ์ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่หมอกลำบากใจ น้องไอซ์ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ ค่ะ”

“ไม่ต้องไปคิดมากหรอกน้องไอซ์ ไอ้หมอกมันก็ปากหมาไปอย่างนั้นแหละ ใจเย็นๆ เดี๋ยวพี่จะช่วยน้องไอซ์คิดหาทางออกเรื่องนี้เองนะ” ว่าแล้วก็คว้าเด็กสาวผู้น่ารักเข้ามากอด ซึ่งรายนั้นก็โผเข้าอย่างรู้สึกโหยหา คนอ่อนแออย่างไอยราโหยหาการปกป้องและความอบอุ่นมาเสมอ

ตั้งแต่จำความได้...เอกสิทธิ์แทบจะไม่เคยกอดหรือแสดงความรักอย่างที่พ่อทั่วไปเขามีต่อบุตรสาว

ให้ได้ทุกอย่างที่เป็นสิ่งของเงินทอง แสดงความรักแบบเว้นระยะห่าง จนบางทีเธอก็ยังแอบสงสัย...ว่าเธอใช่ลูกสาวแท้ๆ ของพ่อหรือเปล่า

“ไม่กินอะไรเลย เดี๋ยวก็เป็นลมหรอก” ม่านฝันออกไปขายของตลาดนัดและปล่อยให้เด็กสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง โดยสั่งให้ม่านหมอกอยู่ดูแลไอยรา ห้ามทิ้งไปไหน

แม้จะไม่เต็มใจแต่เขาสร้างเรื่องใหญ่เอาไว้ขนาดนี้ เขาก็ไม่กล้าที่จะขัดพี่สาว

“น้องไอซ์กินไม่ลงจริงๆ ค่ะ ช่วงนี้ก็รู้สึกว่าแพ้ท้องด้วย” คนเบื่อความยุ่งยากเมินหน้าหนีเล็กน้อย อันที่จริงคนกลัวการผูกมัดอย่างเขาก็แทบอยากจะอาเจียนออกมา ตั้งแต่รู้ว่าจะต้องรับผิดชอบ

“แล้วอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยล่ะ จะได้หาให้ ไม่กินเลยเดี๋ยววุ่นวายอีก” ไอยราแอบอมยิ้มเล็กน้อย เพราะว่าม่านหมอกเป็นคนแบบนี้แหละ แม้จะดูเลวแต่เขาก็มีน้ำใจ ห่วงใยแบบท่าทีแข็งกร้าว

เธอใจสั่นทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้...รู้สึกไม่เป็นตัวเองทุกทีที่ได้สบตาที่เหมือนจะเฉไฉว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย

“ขอบคุณนะคะ แต่น้องไอซ์ยังไม่ทานอะไรดีกว่าค่ะ”

“ดื้อ”

“ด้าน” รีบเติมคำตามต่อไปในทันที เพราะเขากลัวว่าเธอจะหลงใหลได้ปลื้ม คิดว่าเขาพูดคำน่ารักเข้าใส่

พวกผู้หญิงยิ่งขี้มโนอยู่

“พี่ม่านทานอิ่มรึยังคะ เดี๋ยวน้องไอซ์เอาจานไปล้างให้นะคะ”

“ไม่ต้อง เดี๋ยวก็ทำจานแตกหรอก นั่งพักผ่อนไป” เขาว่าพร้อมลุกเอาจานไปเก็บและจัดการล้างทั้งที่ไม่เคยทำด้วยตัวเองมาก่อน

ปกติเขาจะต้องทิ้งไว้ให้เป็นภาระพี่สาว จัดการให้

ไอยราสำหรับเขาก็ดูน่ารักดี...แต่แค่น่ารักไง เขาไม่ได้คิดที่อยากจะจริงจังกับใครขนาดนั้น

“ที่น้องไอซ์หนีคุณพ่อมา ไม่ใช่ว่าน้องไอซ์อยากจะให้พี่หมอกรับผิดชอบอะไรหรอกนะคะ” เธอตัดสินใจพูดออกไป หลังจากที่เขาล้างจานเก็บเข้าที่เรียบร้อยแล้ว

“แล้วหนีมาที่นี่ทำไม ทำไมไม่หนีไปที่อื่น” คนปากเสียอย่างม่านหมอก คงพูดอะไรที่มันดีกว่านี้ไม่ได้

“น้องไอซ์ไม่มีที่ไปจริงๆ ค่ะ” เขาถอนหายใจอย่างอึดอัด หรี่ตามองคนน่าสงสารแบบไม่เต็มตา

เขายอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คนดีเด่อะไร มีข้อเสียมากมาย และอีกข้อเสียหนึ่งที่เขามีก็คือ...ขี้ใจอ่อน

เขาไม่รู้ว่าไอ้เรื่องพวกนี้มันถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้หรือไม่ แต่เขาพยายามเหลือเกินที่จะไม่เป็นคนอย่างม่านฝัน ผู้เข้มแข็งแทบตายแต่กลับมักใจอ่อน

ไม่ใช่แค่กับเขาหรอก...คนทั้งโลกก็น่าจะได้ ไม่มีใครที่มาขอความช่วยเหลือจากม่านฝันแล้วจะผิดหวัง

และแทนที่เขาจะทำตัวให้ดีตอบแทนพี่สาว แต่กลับเปล่า เขายังไม่อาจทำตัวดีได้ ก็คงจะเหมือนกับคนทั่วไปที่รู้ว่าอะไรดี แต่ก็ยังไม่ทำนั่นแหละ

“แล้วหนีมาทำไมนะ ถ้าไม่อยากให้พี่รับผิดชอบ” อันนี้เขาอยากรู้จริงๆ จนต้องยอมย้อนกลับไปเอ่ยถาม

“น้องไอซ์ไม่อยากเสียลูกไปน่ะค่ะ”

“ตัวแค่นี้ คิดว่าตัวเองจะเลี้ยงลูกไหวรึยังไง” ใบหน้าอ่อนเยาว์สะดุดเล็กน้อย ระบายยิ้มจางๆ ออกมา

“ไม่ไหวก็ต้องไหวสิคะ ยังไงก็ต้องไหว” ม่านหมอกสะดุดไปพักใหญ่ เขาไม่เคยเห็นแววตามุ่งมั่นจากคนที่เหมือนจะเปราะบางที่สุดมาก่อน

ผู้หญิงเข้มแข็งกว่าผู้ชาย ไม่ใช่คำที่พูดเอาไว้ผิดเลย

“เลี้ยงคนเดียวก็ไหวอยู่เหรอ” ไอยรารีบพยักหน้าแบบไม่ลังเล

“น้องไอซ์รู้ค่ะว่าพี่หมอกไม่ได้รักน้องไอซ์ น้องไอซ์ก็เลยไม่อยากจะบังคับจิตใจพี่หมอก”

“ก็แน่ล่ะ ถึงมาบังคับก็บังคับไม่ได้หรอก” คนขวางโลกก็พูดไปอีกทาง แสดงจุดยืนว่าตัวเองเลวอย่างสมบูรณ์แบบ...เพื่อที่เธอจะได้ไม่มีความหวัง

“ค่ะ น้องไอซ์ทราบค่ะ” แม้จะเจ็บปวดแค่ไหน แต่เธอก็คงจะต้องยอมรับความจริงให้ได้ และไม่เรียกร้องอะไรจากเขาอีกแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel