5
ม่านฝันรวบรวมความกล้าพาน้องชายตัวดีมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ ความใจดีสู้เสือที่แม้จะรู้จักชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่ของตระกูลทรัพย์อนันต์มาบ้างนั้น พังทลายลงเมื่อมายืนอยู่หน้ารั้วคฤหาสน์ที่แสนจะยิ่งใหญ่
“ไงพี่ ยังจะอยากเข้าไปอยู่มั้ย” ม่านหมอกผู้ที่ยังทำตัวนิ่ง ไม่ได้กลัวแต่ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบใคร แต่สังเกตอาการประหม่าของพี่สาวได้ชัด
“ต้องเข้าไปสิ แกดูให้หน่อยว่าฉันดูดีพอหรือยัง” ม่านฝันลงทุนไปหายืมชุดป้าข้างบ้านมาใส่ เพื่อให้ตัวเองดูน่าเชื่อถือ ดูเป็นผู้ใหญ่ที่จะมาหารือกับบิดาของไอยรา ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเขามาก่อน
พยายามจะค้นหาให้หน้าหนังสือพิมพ์หรือตามอินเตอร์เน็ตก็ช่างหายาก เขาดูลึกลับสมกับที่เขาลือกันว่า ธุรกิจท่าเรือของเขา แอบขนส่งสิ่งผิดกฎหมายข้ามประเทศเข้ามาด้วย
“พี่ไม่ได้ส่องกระจกก่อนออกจากบ้านเหรอ” น้องชายมองพี่สาวหัวจรดเท้า ตั้งแต่เสื้อสีแดงลูกไม้ที่คนแก่ชอบใส่ไปทำบุญ รับกับสิ้นผ้าไหมตัวเก่าของแม่ที่ยังดูดีอยู่ แต่งหน้าแต่งตัวราวกับจะไปงานบุญเสียยิ่งกว่ามาเจรจาแบบผู้หลักผู้ใหญ่
ผิวพรรณที่ไม่เรียบเนียนของเธอนั้น นำพาให้โบกแป้งเข้าไปก็ยิ่งดูเทาอมเขียว จนดูแทบจะไม่ได้
“ไอ้หมอก!” ทำท่าฮึดฮัดใส่น้องชาย ก่อนรวมพลังใหม่ เชิดใบหน้าขึ้นอย่างพร้อมที่จะเดินต่อ โชคดีที่เธอดูซูบไม่ใช่คนอ้วนเผละ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วมาใส่ชุดแบบนี้คงจะน่าตลกเข้าไปกันใหญ่
ม่านหมอกขี้คร้านที่จะต่อล้อต่อเถียงด้วย เดินตามพี่สาวเข้าไปในประตูรั้วที่เปิดออกอัตโนมัตินั้นอย่างใจเย็น
“มากันแล้วครับนาย” หนุ่มใหญ่ผู้ที่กำลังเปิดดูอะไรไปเรื่อยในกล่องสะสมส่วนตัว ไม่ได้มีทีท่าว่าจะขยับหรือเคลื่อนไหว
ไอยราสารภาพความจริงกับเขาเรื่องที่เธอตั้งครรภ์ เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนไม่ยอมพูดคุยกับบุตรสาว นั่งซึมแต่สะท้อนแววตาปวดร้าว เอาแต่ดื่มเหล้าจนไอยราไม่สบายใจ
‘คุณพ่อจะโกรธหรือจะต่อว่าน้องไอซ์ยังไงก็ได้ แต่คุณพ่ออย่าเฉยชาใส่น้องไอซ์เลยนะคะ’ หยาดน้ำตาของบุตรสาวที่เขาฟูมฟักมาเป็นอย่างดี ราดรดจิตใจอันบอบช้ำของผู้เป็นพ่อให้สั่นสะท้านราวกับเป็นน้ำฝน หาใช่น้ำตาไม่
‘น้องไอซ์ผิดน้องไอซ์มันเลว น้องไอซ์มันไม่สมควรที่จะเกิดเป็นลูกของคุณพ่อด้วยซ้ำ’ ไม่ว่าสาวน้อยจะพร่ำออกมาแค่ไหน แววตามั่นคงก็ยังคงนิ่ง...แม้จะส่งความรวดร้าวแววใสตัดผ่านออกมาเป็นระยะก็ตาม
เอกสิทธิ์พูดไม่ออก แม้กระทั่งบุตรสาวจะบอกว่าฝ่ายชายยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง และยินดีที่จะทำให้ถูกต้องตามประเพณีและนัดว่าญาติผู้ใหญ่ทางนั้นจะเข้ามาคุยในวันนี้
‘ตายแล้ว ตาเถร! หนูไอซ์เนี่ยนะท้อง! เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ เลย’ พอเขาบอกเรื่องนี้กับมารดาผู้ที่อยู่ที่บ้านหลังเก่าเรือนไทย ตามประสาคนชอบความสงบว่าอย่างไม่ค่อยชอบใจ เพราะไม่ค่อยจะปลื้มหลานคนนี้นัก
อาจจะส่งผลมาจากที่ไม่ค่อยปลื้มมารดาของเธอสักเท่าไหร่
เรื่องนี้เกิดขึ้นในชีวิตเขาซ้ำสอง...ครั้งนั้นไปทำผู้หญิงท้อง ครั้งนี้มีคนมาทำบุตรสาวตัวเองท้อง
จะเรียกว่าเวรกรรมหรืออย่างไร
“รอสักครู่นะคะพี่ม่าน พอดีคุณพ่อติดคุยงานนิดหน่อยน่ะค่ะ” ไอยราจำต้องแก้ต่างไปก่อนอย่างนั้น หลังจากที่แขกได้มานั่งรอกันสักพักใหญ่ เธอพยายามส่งยิ้มให้ม่านหมอกแต่เขาก็ไม่แม้แต่จะยอมมองหน้า
“ไม่เป็นไรจ้ะพี่รอได้” ว่าอย่างโล่งใจ เพราะรู้สึกว่าได้เตรียมตัวหายใจต่ออีกหน่อย
“คุณพ่อ! คุณพ่อมาพอดีเลยค่ะ” ไอยารารีบวิ่งไปหมายจะเกาะแขน หากแต่ความเฉยชาที่หล่อหลอมขึ้นมาเป็นร่างสูงใหญ่นั้น กลับทำเอาเธอชะงักและไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้อง
ม่านฝันรีบเชิดใบหน้าทำตัวให้ดูสูงวัย ดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เพื่อที่เขาจะไม่ได้ดูถูกตนได้...แต่พอหันไปมองตามที่ไอยราว่า
พัดที่อุตส่าห์ถือมาเสริมบารมีก็แทบจะร่วงหลุดออกจากมือ...
ร่างสูงใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยความทรงพลัง มีใบหน้าคมคร้ามเรียวยาวได้สัดส่วนลงตัว รับกับโหนกแก้มนูนขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง จมูกโด่งเป็นสันตั้งตระหง่านรับความคมกริบจากดวงตานิ่ง
ริมฝีปากหนาหยักได้รูปปิดสนิทอย่างน่าค้นหา
ใจเจ้ากรรมของสาวโสดผู้ไม่เคยหวั่นใจให้ชายคนไหนมาเนิ่นนาน พลันเต้นแรงขึ้น...จนตัวเองก็ยังแทบจะได้ยินเสียงจังหวะของมัน
กล้ามเนื้อที่ประกอบขึ้นตามโครงร่างทรงพลังนั่น ช่างบ่งบอกถึงความแข็งแรงและดูแลตัวเองเป็นอย่างดีของเขา
“จะมองอีกนานมั้ย” แววตาใสของคนที่เหมือนต้องมนตร์สะกด กะพริบเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่รู้ตัว
“พี่ม่าน” ม่านหมอกสะกิดพี่สาวแรงๆ ให้ตื่นจากภวังค์ เพราะรู้นิสัยพี่สาวตัวเองดีว่า...เห็นคนหล่อไม่เคยจะเก็บอาการได้
“ฮะ...อะไรเหรอวะไอ้หมอก” ตอนนี้ใบหน้าเทาอมเขียวของเธอเข้มมากขึ้น เพราะฤทธิ์ความร้อนจากใบหน้าที่เห่อแดงจากภายใน
ยิ่งต้องมานั่งมองหน้าเขาใกล้ๆ ใจของเธอก็แทบจะขาดลงรอนๆ
“มีธุระอะไรก็ว่ามา” เอกสิทธิ์ทำเหมือนไม่รับไม่รู้ ไม่รับทราบวันนี้ใครจะมาคุยเรื่องอะไร
“เอ่อ ดิฉันว่าดิฉันแจ้งผ่านทางน้องไอซ์มาแล้วนะคะ ว่าดิฉันจะมาคุยกับคุณเรื่องอะไร”
“ก็คุยมาสิ จะให้ตัดริบบิ้นก่อนเหรอถึงจะพูดได้” ม่านฝันเม้มริมปากตัวเองเข้า อยากจะยกเล็บเท้าขึ้นตะปบหน้าเขาสักสองสามที
หล่อดี...แต่ปากไม่ผ่าน!
(เล็บเท้าที่หมายถึงเท้าแมวนะยะ ฉันเปลี่ยนตัวเองเป็นแมว!)
“ฉันจะมาสู่ขอน้องไอซ์ให้กับน้องชายของฉันตามประเพณี แสดงความรับผิดชอบอย่างถูกต้อง” เอกสิทธิ์ยังคงไม่แสดงอารมณ์อะไร ตวัดสายตามามองยังเด็กหนุ่มที่อายุอานามน่าจะมากกว่าบุตรสาวของตน แต่ทีท่าไม่มีความเป็นผู้นำหรือจะดูแลใครได้แต่อย่างใด
“ความรับผิดชอบงั้นเหรอ มันรู้จักด้วยเหรอคำคำนั้นน่ะ” ม่านหมอกผู้ที่ตลอดชีวิตไม่เคยจะกลัวใคร หลบสายตาอันทรงพลังของเอกสิทธิ์อัตโนมัติ เอามือแตะหลังพี่สาวเชิงขอความช่วยเหลือ
“ฉันยอมรับนะว่าน้องชายฉันอาจจะยังไม่มีความรับผิดชอบ แต่ต่อไปนี้เขาจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง” ว่าอย่างมุ่งมั่น...ในขณะที่เจ้าตัวยังหวาดหวั่นและไม่เคยรับปากว่าจะทำได้
“คุณยอมรับ แล้วมันยอมรับด้วยรึเปล่า”
“รับสิ เร็วสิหมอก...บอกเขาไปว่าแกจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น” ม่านหมอกแสดงออกว่าลังเล มองสายตาผู้เป็นใหญ่อย่างกลัวๆ กล้าๆ
บอดี้การ์ดผู้ยืนตระหง่านอยู่ทั่วทุกทิศ มองมาที่เขาราวกับพร้อมที่จะยิงทุกเมื่อ
“กับพวกสักแต่พูดแล้วทำไม่ได้ ฉันยิงสถานเดียวนะ” เท่านั้นแหละเด็กหนุ่มไม่รู้จักโตหุบปากฉับไว กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ขยับตัวเข้าไปใกล้พี่สาวอัตโนมัติ
“ยิงเลยเหรอ บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะคุณ จะมายิงกันง่ายๆ ได้ยังไง!” ม่านฝันว่าอย่างตกใจ เอามือทาบอกกอดน้องชายตัวเองแน่น
“มั่นใจอย่างนั้นจริงๆ เหรอ เรื่องที่บ้านเมืองมีขื่อมีแปน่ะ” สายตาคมตวัดกลับมาสบกับสาวใหญ่ผู้หวาดหวั่นอีกหน
ครานี้เธอเชื่อเขาเลย...ว่าขื่อแปก็ไม่น่าจะทำอะไรเขาได้!
“ไม่มั่นใจหรอก แต่ว่าอย่าให้ถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลยนะ คุยกันดีดีก็ได้”
“คุณพ่อคะ...”
“พ่อไม่ได้คุยกับไอซ์” น้ำเสียงเขาดูเข้มและดุขึ้น จนม่านฝันรู้สึกสงสารเด็กสาวผู้เปราะบางขึ้นมา
“ว่ายังไง ที่ไม่กล้าพูดเพราะแกคิดว่าจะทำอย่างที่พูดไม่ได้งั้นเหรอ”
“ความรับผิดชอบเนี่ย แค่จัดงานแต่งงานเพื่อไม่ให้อายคนอื่นเรื่องท้อง แค่นั้นไม่ได้เหรอครับ”
ปัง! เสียงปืนที่ออกมาจากกระบอกของคนมือไว นั่งนิ่งหากแต่ไม่รู้ว่าหยิบปืนมาตอนไหน ทำเอาแจกันแตกและหล่นกระจาย
“คำถามแกไม่เข้าหูเท่าไหร่น่ะ ฉันก็เลยต้องยิงปืนกลบ”
ม่านฝันที่รู้สึกเหมือนตัวเองได้ตายไปแล้ว ลูบคลำน้องชายไปมา เชิงไม่แน่ใจว่าน้องได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่
“แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ ผมไม่ได้รักลูกสาวคุณนี่” แม้จะกลัวแค่ไหนแต่คนอย่างม่านหมอก พูดตามสิ่งที่ตัวเองคิดเสมอ จนม่านฝันต้องรีบเอาตัวเองบังน้องชายตัวเองไว้ เพราะกลัวว่าลูกกระสุนจะลั่นซ้ำสอง
และเกรงว่าปลายทางของกระสุนจะไม่ใช่แค่แจกันดอกไม้!
“คุณเลี้ยงมันมายังไงเนี่ย หน้าตัวเมียชิบหาย” ผู้เป็นใหญ่ยืนขึ้นจนเต็มความสูง มุ่งหน้ามายังสองพี่น้องที่กอดกันกลมโดยที่น้องชายกอดพี่สาวเอาไว้เพื่อให้บังกระสุนให้ตน
“ฉันขอโทษคุณ ให้อภัยไอ้หมอกมันเถอะนะ ฉันผิดเอง ฉันเลี้ยงมันมาไม่ดีเอง ฉันขอโทษ ฉันเลี้ยงมันมาคนเดียว เลี้ยงมันมาอย่างตามใจ มันก็เลยเสียคนน่ะคุณ ฉันขอโทษนะ!” ผู้หญิงบุคลิกดูตลก ว่าด้วยแววตาใสสั่น ยกมือไหว้เขาอย่างงันงก แบบไม่ห่วงศักดิ์ศรีตัวเองเลยสักนิด
“หลบไป ผมไม่อยากทำร้ายผู้หญิง”
“ไม่! ถ้าคุณจะทำร้าย...ก็ทำร้ายฉันแทนสิ!” แววตามุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว มีความกล้าหาญชาญชัยเกินหญิง จนคนที่สืบประวัติเธอมาไม่น้อย ทราบแก่ใจ
‘พี่สาวเขาเป็นคนพันธุ์แกร่ง สู้ชนมาทุกทิศทางอย่างน่าทึ่งครับนาย เจ๊ที่เป็นเจ้าหนี้ของเธอบอกมาแบบนั้น’
“คิดว่าตัวเองจะปกป้องมันไปได้ตลอดชีวิตหรือยังไง” ถามเสียงเรียบเหมือนถามออกมาจากใจจริงๆ จนหญิงสาวสะดุดราวกับไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน
“ฉันไม่รู้หรอกว่าจะปกป้องน้องชายตัวเองไปได้ตลอดชีวิตหรือเปล่า แต่ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่...ฉันก็จะทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องน้องชายฉัน”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ ถ้าวันหนึ่งเธอตายไป มันจะอยู่ยังไง” ช่างเป็นคำพูดเท่ห์ๆ ที่น่าคิดตามจนแววตามุ่งมั่นของม่านฝันอ่อนแสง
“ฉันยอมรับว่าที่ผ่านมาฉันเลี้ยงมันมาแบบผิดๆ และฉันจะปรับปรุงการเลี้ยงดูมันใหม่ แต่วินาทีนี้ฉันยอมให้มันตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้จริงๆ” แววตาใสหลั่งหยาดน้ำไหลรินออกมาเชิงขอร้อง จนดวงตาเรียบเฉยมีแววสะดุด
“ถ้าอยากจะปรับปรุงการเลี้ยงดูมันจริง ก็หลบไป”
“คุณสัญญาก่อนสิว่าจะไม่ฆ่าน้องชายฉันน่ะ”
“หลบไป!” เสียงตวาดของผู้เป็นใหญ่ดังก้อง ไอยราจะวิ่งเข้ามาแต่ถูกลูกน้องของเขากันเอาไว้เสียก่อน
ม่านฝันสบตากับเขาด้วยสายตาขอร้อง ก่อนค่อยๆ ผละถอยราวกับเชื่อว่า...ผู้ชายคนนี้ได้รับปากตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว
“พี่ม่าน ช่วยผมด้วย!”
“กะใช้ชีวิตหลบหลังพี่สาวไปตลอดเลยรึยังไง” เอกสิทธิ์แค่นเสียง พร้อมเล็งปลายกระบอกปืนไปยังคนตรงหน้า
“นี่คุณอย่านะ! อย่ายิงน้องชายฉันนะ!” คนที่ผละออกไปคิดว่าตัวเองคิดผิด จะวิ่งเข้ามาห้ามเขาแต่ก็ถูกเหล่าบอดี้การ์ดกันตัวเอาไว้อย่างรู้งาน
พวั๊ะ!!
เสียงด้ามปืนกระทบใบหน้าเนียนๆ ของหนุ่มเต็มวัย กลิ่นคาวเลือดและรสชาติของมันบ่าไหลให้คนสั่นงันงกได้ลิ้มรส
“มึงไม่ได้รักลูกกู แล้วมึงย่ำยีเขาทำไม!”
“ก็เขามาให้ผมเอง...อ๊ะ!” หมัดที่สองถูกตบเข้าอีกครั้ง
“มึงมั่นใจนะ ว่าเขาไปให้มึงเองหรือมึงให้ความหวังเขาก่อน” ไอยราตาวาวขึ้นอย่างประหลาดใจ แสดงว่าบิดารู้เรื่องนี้มาตลอดอย่างนั้นสินะ
“ผมขอโทษ...ผมขอโทษ! ผมผิดไปแล้วครับ” ว่าทั้งๆ ที่เลือดกลบปาก
“พอได้แล้ว พอเถอะ! พอ!” ม่านฝันร่ำไห้ใจแทบขาดเมื่อเห็นเลือดน้องชายตัวเองกองใหญ่
“เอามันไปซ้อม” ว่าพร้อมเดินจากไป ราวกับไม่มีความรู้สึก ม่านฝันกรีดร้องมองตามน้องชายตัวเองถูกลากออกไปด้วยความรู้สึกใจแทบขาด
“ปล่อยไอซ์เดี๋ยวนี้นะคะ ปล่อยไอซ์!”
“ไอ้หมอก!!”
