ตอนที่4อำนาจมืด
ศักดิ์รีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดถ่ายแชะๆจนถึงเตียงพอเห็นเลือดบนเตียงก็ใจหวิว รู้สึกไม่พอใจและโกรธจัด เขาเดินไปที่ร่างสูง
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง เนี้ยะเหรอนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ผู้คนนับหน้าถือตา สาวๆพากันหลงใหล คุณมันโจร โจรชัดๆ คุณจบไม่สวยแน่ คุณมายด์ซัน ทวีจิรไพศาส” ชื่อที่ศักดิ์เรียกทำให้คนตัวเล็กที่เอาแต่ร้องไห้เริ่มนึกย้อน แล้วเธอก็คุ้นทันทีที่เพื่อนเคยเอามาให้ดู
“ไม่จริงใช่มั้ยศักดิ์” คนตัวเล็กไม่อยากเชื่อว่าหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีจะทำกับเธอได้ถึงขนาดนี้
“ ไม่ต้องกลัวหนึ่ง พวกเราจะแฉความเลวของผู้ชายคนนี้เอง”
“ไม่ได้นะศักดิ์ ถ้าแฉ ไอ้หนึ่งเสียหายแน่ ที่โรงเรียนก็ต้องรู้” ขณะที่เพื่อนสองคนช่วยกันคิด
มายซันด์เองก็เครียดไม่แพ้กัน เขาก็จะไม่ยอมเสียชื่อเสียงและให้คนในครอบครัวรู้เรื่องแน่นอน ไม่อย่างงั้นชีวิตของเขาจบสิ้นแน่ๆ โดยเฉพาะผู้มีอำนาจสูงสุดในตระกูลทวีจิรไพศาส คุณย่าลักคณา หญิงชราที่เป็นคนก่อตั้งบริษัทอลาโน่เซนให้เป็นที่รู้จักและมีสาขามากมายจนติดท้อปอันดับเศรษฐีในประเทศไทยอันดับต้นๆ ทันใดนั้นนั้นร่างสูงก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวแววตาและสีหน้าดุดัน
“ จะอะไรก็แล้วแต่เรื่องที่เกิดขึ้นฉันยังไม่แน่ใจ ว่าฉันได้ทำลงไปจริงๆหรือเปล่า หรือเพื่อนเธออยากจะจับฉัน แล้วทำเป็นไม่รู้จัก ฉันยังต้องคิดเรื่องนี้ หึ!แจ้งความเหรอ ก็ลองดู ดูสิว่าอำนาจเงินมันทำอะไรได้บ้าง ฉันมีเวลาไม่มาก นี่นามบัตรฉตกลงสงบศึกเมื่อไหร่ก็โทรมา ฉันต้องไปก่อน” ซันวางนามบัตรไว้ที่โต๊ะ แล้วเดินไปที่ประตู ยังไม่ทันได้ออกไปร่างสมส่วนก็เดินเข้ามาด้วยแววตาโมโห นางปะทะกับร่างสูง แล้วมองเขาอย่างงุนงง
“คุณเป็นใคร” นางกวาดสายตามองทั่วห้องเห็นลูกสาวและเพื่อนลูกสาวอยู่ครบ
“แม่!!” หนึ่งตกใจเบิกตาโตพอๆกับเพื่อน จังหวะนั้นบุ๋มก็พูดขึ้นมาถึงสถานะการณ์
“คุณน้า ผู้ชายคนนี้ข่มขืนหนึ่ง”
“อะไรนะ!! ข่มขืน ฉันจะเป็นลม” นางเข่าอ่อนแล้วทรุดกายทันที ศักดิ์รีบไปประคองร่างแม่เพื่อนไว้แล้วพามานั่งที่เก้าอี้
“คุณน้า!!คุณน้า!!”ศักดิ์รีบยกมือพัดโบก หนึ่งหยุดร้องไห้แล้วรีบมาดูแม่ทันที
“แม่!! แม่!!” เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายหนักกว่าเดิม จนกระทั่งซันเดินออกไปจากห้อง เขาทิ้งเพียงนามบัตรวางไว้
พิศมัยฟื้นจากการหมดสติ และคอ่ยๆเรียบเรียงคำพูดจากบุ๋มที่เล่าให้ฟัง นางรู้สึกเสียใจเหมือนกับว่าหัวใจนางสลาย แล้วจึงลากตัวลูกสาวกลับบ้านทันทีเพื่อสอบถามและทำโทษลูกสาวที่โกหกนางแถมยังแอบหนีเที่ยวจนเกิดเรื่อง ทันทีที่ถึงบ้าน นางกระชากลูกเข้าไปในห้อง มองด้วยสายตาของความเจ็บปวด
" หนึ่งแกทำแบบนี้กับแม่ได้ยังไง !! รู้ไปถึงไหนอายเค้าไปถึงนั้น "
" หนึ่งไม่ได้ทำอะไรนะแม่ "
" แม่ดูรูปกับไอ้บุ๋มมันหมดแล้ว เกิดท้องขึ้นมาจะทำยังไง ถ้าพ่อแกรู้ตายแน่ๆ"
" แม่ๆ หนึ่งขอโทษนะ หนึ่งไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หนึ่งขอโทษ " หนึ่งก้มลงกราบมารดาพร้อมกับน้ำตาไหลพรากเช่นเดียวกันกับนาง ทั้งสงสารทั้งเสียใจ
" ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันชื่ออะไร หน้าตาก็ดี ทำไมมันถึงได้เลวแบบนี้ แม่จะเอามันเข้าคุก "
" เขาชื่อมายด์ซัน ทวีจิรไพศาล”
"เล่นกับใครไม่เล่น แม่จะจัดการเอง บังอาจมาทำลูกฉันได้ จะใหญ่มาจากไหน คนอย่างพิศมัยไม่สนหรอกโว้ย ตระกูลดังซะด้วยรวยแต่รังแกคนจน พรุ่งนี้แกไปกับแม่ บุกไปที่ทำงานเอาเรื่องให้ถึงที่สุด "
เช้าวันรุ่งขึ้นนางพิศมัยพร้อมกับดวงหฤทัยเดินทางไปที่บริษัทอลาโน่เซนด้วยความกระวนกระวายใจ นางกับลูกขึ้นลิฟต์บุกตรงไปยังห้องผู้บริหารชั้นบนสุดโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านห้ามปรามของเลขาส่วนตัวหน้าห้องหรือแม้แต่ผู้รักษาความปลอดภัย นางขึ้นถึงชั้นบนสุดจนได้ จนเลขาส่วนตัวต้องส่งเสียงผ่านอินเตอร์คอมเข้าไปแจ้งให้ผู้บริหารทราบโดยเร็ว และคำตอบที่เลขาได้รับคือให้สองแม่ลูกเข้าไปข้างในและห้ามรบกวน นางลากลูกสาวผลักดันเข้าไปในห้องพร้อมกับนาง มายด์ซันวางปากกาสีทองบนเอกสารสำคัญแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ผายมือเป็นการเชื้อเชิญให้สองแม่ลูกนั่งลง
" สวัสดีครับ คุณพิศมัย ผมคงทักทายถูกถ้าเลขาผมแจ้งไม่ผิด สรุปได้แล้วใช่ไม่ครับว่าต้องการค่าเสียหายเท่าไหร่ ถึงได้มาพบผมถึงที่นี่ "
" ใช่ค่ะ ในฐานะคนเป็นแม่ ฉันรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณทำอนาจารแล้วจะใช้เงินฟาดหัวมันง่ายไปหน่อย"
" ผมแค่รับผิดชอบอย่างสมเหตุสมผล "
" ฉัน พิศมัยแม่ของไอ้หนึ่ง ไม่ได้ต้องการเงินที่สมเหตุสมผลของคุณ แต่ต้องการให้คุณแต่งงานกับลูกสาวของฉัน ยังไงซะหลานฉันก็ต้องมีพ่อ เป็นถึงคนดังซะด้วยสิ "พิศมัยเน้นย้ำแววตาแข็งกร้าว
" อะไรนะแม่ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ไหนแม่บอกจะมาเอาเรื่องเค้าไง” หนึ่งรีบทักท้วง ไม่อยากเชื่อหูที่ได้ยิน เพราะตอนอยู่ที่บ้านแม่ของเธอไม่ได้พูดแบบนี้ ขณะเดียวกันร่างสูงก็ตกใจไม่น้อย จากค่าเสียหายกลายเป็นแต่งงาน เขารู้สึกถึงความร้ายกาจของสองแม่ลูก
“หึ แต่งงาน ไม่ตลกไปหน่อยเหรอครับคุณพิศมัย ผมว่าคุณเรียกค่าเสียหายง่ายกว่าหรือคุณจะกลับไปแจ้งความก็ได้ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างแจ้งความกับเงิน อะไรจะมีอำนาจมากกว่ากัน”ซันพรายยิ้มอย่างผู้ชนะ เขาเดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้แล้วหมุนด้วยท่าทางสบายใจ สายตาคมกริบมองร่างบางอย่างไม่แยแส~คิดจะจับฉัน มันไม่ง่ายนักหรอก ที่แท้ก็ลูกไม้ตื้นๆ~เขาคิดในใจแล้วกลับมาสนใจเอกสารตรงหน้า
พิศมัยรู้สึกหน้าร้อนผ่าว รู้สึกถึงอำนาจมืดจากร่างสูงภายใต้ใบหน้าอันหล่อเหลา นางก็ยิ่งแค้นเคือง นางจะไม่ยอมเสียเปรียบ
“ถ้าอย่างงั้นฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน แล้วฉันจะกลับมาใหม่ อ่อ อย่าคิดนะว่าเงินของคุณมีอำนาจคนเดียว ฉัน อีพิศมัยไม่ยอมเสียเปรียบหรอกโว้ย ไปหนึ่งกลับ” นางคว้าแขนลูกสาวเดินออกจากห้องด้วยความโมโห ในใจเดือดพร่าน ยังไงนางก็ต้องได้เปรียบต่อให้ต้องยอมรับคนในตระกูลทวีจิระไพศาสมาเป็นลูกเขยเพราะนางมองเห็นบ่อเงินบ่อทองมากกว่าแค่เงินก้อนโตๆก้อนเดียว อีกทั้งชื่อเสียงผู้คนนับหน้าถือตาในฐานะแม่ยาย และทันทีที่สองแม่ลูกเดินออกไปจากห้องทำงานของเขา ซันลุกยืนเต็มความสูงราวๆร้อยแปดสิบห้า เขาเดินวนอยู่ภายในห้องทำงาน คิดว่าวิธิที่จะทำให้สองแม่ลูกเลิกยุ่งกับเขาและรับเงินให้มันจบๆไป
“แต่งงาน ไม่มีทาง ร้ายนักนะยัยตัวแสบคิดจะจับฉัน ลูกไม้ตื้นๆ”
พิศมัยถึงบ้านหน้าตาขึงขัง นางอยากจะเอาชนะไอ้หนุ่มหน้าหล่อแต่นิสัยติดลบให้รู้สำนึก ว่าอย่ามาดูถูกนางกับลูก พิศมัยมองลูกสาว
“คอยดูนะไอ้หนึ่ง แม่จะเอามายด์ซันนั่นมาเป็นลูกเขยให้ได้ แม่จะให้มันยกมือไหว้แม่เช้าเย็นเลยคอยดู แหม มันร้ายนัก หน้าตาก็ดี นี่มันซาตานชัดๆ”
“แม่รู้แบบนี้แล้วจะให้หนึ่งไปยุ่งกับเค้าทำไมอีก ไปแจ้งความเถอะ”
“แจ้งความเหรอ แจ้งมันแจ้งได้ แต่ถามหน่อยมันรวยขนาดนั้น แกคิดว่าเรื่องของแกจะจับมันเข้าคุกได้หรือไง เสียชื่อเสียงแป้บเดียวคนก็ลืม แต่ถ้าเกิดแกท้องขึ้นมาจะทำยังไง ไปเอาออกหรือไง ถึงแม่จะเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องแต่แม่สงสารเด็ก ไม่รู้ล่ะหลานข้าต้องมีพ่อ และพ่อมันก็รวยซะด้วย”
“แม่หนึ่งว่า”
“ว่าอะไร”
“เปล่า”
“ไป ไปหาพ่อแกกัน แม่จะไปตาก” นางลุกยืนเตรียมเก็บของ
“แม่จะไปทำไม"
“ไปหาป้าแกไง ป้าแกก็รวย แถมผัวป้าแกนะก็ใหญ่ไม่ใช่เล่น เอาสิว่ะ”
วันต่อมาในตลาด พิศมัยกับลูกถึงอาคารพานิชย์สามชั้นร้านขายของชำชั้น ชัยกำลังเก็บข้าวเก็บของเพื่อปิดร้าน
" พ่อ!! สวัสดีค่ะ หนึ่งคิดถึงพ่อที่สุดในโลกเลย "
" อ้าวยัยหนึ่ง ทำไมมาซะมืดค่ำ กินอะไรมาหรือยังลูก " ชัยยิ้มกว้าง กอดร่างบางไว้ด้วยความรัก
" ยังเลยค่ะ แต่ว่าเอ่อ หนึ่งไม่ได้มาคนเดียว "
" มากับศักดิ์เหรอ งั้นก็เรียกศักดิ์มากินข้าวด้วยกัน "
" เปล่าค่ะ หนึ่งมากับแม่ "
" ใช่ !!มากับฉัน ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย " พิศมัยเดินไปนั่งที่เก้าอี้ด้วยสีหน้าวิตกกังวลและร้อนอกร้อนใจ
" มีอะไร ถึงได้มาเหยียบที่นี่ เธอน่าจะละอายใจบ้างนะพิศมัย " ชัยพูดเสียงเข้ม
