15
“คุณชายไม่ได้เป็นอย่างที่คุณว่านะคะ” บัวบูชาที่ยืนฟังอยู่ตั้งนานก็เริ่มเดือดดาลขึ้นมาบ้าง ....หล่อนมิอาจทนนิ่งเฉยให้คนอื่นหมิ่นเกียรติคุณชายปฐวีที่แสนดีของหล่อน ถึงแม้เขาจะปากร้ายไปหน่อยก็เถอะ
“แหม...เด็กเมื่อวานซืนอย่างหล่อนจะรู้อะไร พอเขาเอาใจเข้าหน่อยก็เข้าข้างปกป้องไม่ลืมหูลืมตา”
“ฉันรู้ดีเชียวค่ะ ก็คนนอนห้องเดียวกันนี่คะ...หุหุ...” บัวบูชาทำเป็นป้องปากหัวเราะอย่างเอียงอายยอกย้อนกลับไปบ้าง
“จริงด้วยค่ะ ทีนี้พวกเหลือบไรใต้เตียงคงตาสว่างสักทีสินะ” นพมาศสนับสนุน หล่อนล่ะสะใจจริง ๆ เห็นหงิม ๆ อย่างนี้ไม่คิดว่าจะกล้าต่อปากต่อคำกับผู้หญิงร้าย ๆ อย่างนวลจันทร์
“หน้าด้าน ! พูดเรื่องแบบนี้ได้ไม่อายปาก” นวลจันทร์จ้องหน้าบัวบูชาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“อย่าว่าตัวเองอย่างนั้นสิคะ คุณเองเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ฉันก็แค่อธิบายแก้ไขความเข้าใจผิดเท่านั้นเองค่ะ” บัวบูชายิ้มกริ่ม.....เรื่องปะทะ คารมหล่อนไม่หวั่นอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่คุณหนูหรือถูกเลี้ยงดูราวกับไข่ใน หิน ชีวิตที่ต้องดิ้นรนทำให้หล่อนรู้จักปกป้องตัวเองแต่ไม่เคยระรานใคร
“เริ่ดค่ะเริ่ด.....” นพมาศยกนิ้วให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ทำให้ฝ่ายที่เข้ามาหาเรื่องก่อน เดินกระฟัดกระเฟียดหนีไป
“หนูพูดเกินไปหรือเปล่าคะ พี่มาศ” บัวบูชายิ้มแหย ๆ เกรงว่าถ้าเรื่องถึงหูคุณชายอาจจะโดนตำหนิเอาได้
“ไม่เลยค่ะน้องบัวเราแค่ปกป้องตัวเอง คนแบบนี้ต้องโดนซะบ้าง สมน้ำหน้า......” นพมาศยังสะใจไม่หาย นวลจันทร์ชอบทำตัวสูงส่งแล้วกดคนอื่นให้ต่ำทั้งที่หล่อนมีดีแค่พ่อรวย นอกนั้นก็ไม่เห็นจะมีดีอะไรนอกจากแต่งตัวสวย ๆ เป็นข่าวควงกับคนดัง ๆ ไปวัน ๆ ไม่เห็นจะมีใครจริงจังกับหล่อนสักคน.....
บัวบูชากลับเข้ามาในห้องทำงานหรูหราอีกครั้งหลังจากขอตัวแยกออกไปทำธุระส่วนตัว ขณะที่นพมาศเลขาคนเก่งได้กลับมารายงานเจ้านายก่อน และกำลังเดินสวนออกไปในตอนที่หล่อนกำลังเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“จะไปแล้วหรือคะพี่มาศ”
“จ้ะ...พี่ล่ะอิจฉาน้องบัวจริง ๆ”
เลขาคนเก่งก้มลงมากระซิบกระซาบกับคนที่อ่อนวัยกว่า ก่อนจะ ขยิบตาให้อย่างล้อเลียน ทำเอาสาวน้อยพวงแก้มแดงปลั่ง จากที่รู้จักกันในเวลาสั้น ๆ ก็พอจะรู้ความหมายของคุณเลขาที่มากไปด้วยความมั่นใจ
หญิงสาวเข้ามานั่งลงอย่างเรียบร้อยเข่าชิดตัวตรงสองมือประสานไว้บนตัก เมื่อเห็นคนตัวโตกำลังนั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอย่างเคร่งเครียด ความจริงหล่อนอยากจะทอดตัวลงนอนพักหลังจากถูกพี่มาศลากเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ ลองชุดนั้นชุดนี้จนเหนื่อย พอได้มานั่งเย็น ๆ ก็เริ่มจะง่วงแต่ก็ฝืนเก็บอาการเมื่อสำนึกได้ว่าหล่อนเพิ่งจะกลับจากใช้เงินอย่างสบายมือในขณะที่คนหาเงินกำลังนั่งหลังขดหลังแข็งจึงต้องฝืนตัวเองเอาไว้ไม่ให้ดูเป็นการเอาเปรียบจนเกินไป
“เป็นอะไร ทำไมต้องทำท่าเหมือนอยู่ต่อหน้าเจ้าหนี้แบบนั้นหึ...” ในจังหวะหนึ่งที่คุณชายหนุ่มเงยหน้าจากงานตรงหน้าก็ต้องแปลกใจที่เห็นเมียตัวน้อยนั่งโงนเงนแต่ก็พยายามฝืนเอาไว้จนน่าขำจึงได้เอ่ยถามออกไป
บัวบูชาที่แม้จะนั่งตัวตรงแต่ดวงตาก็เริ่มปรือปรอยสติใกล้จะหลุดลอยการรับรู้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ถึงกับสะดุ้ง
“ห๊ะ !.....หนูต้องใช้หนี้ด้วยหรือคะคุณชาย...ไม่นะหนูไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าจนหางม้าที่รวบไว้แกว่งไปแกว่งมาหล่อนยืดตัวขึ้นดวงตาเบิกกว้าง เมื่อนึกถึงราคาของทั้งหมดที่ซื้อมา ใครจะไปนึกว่าจะต้องจ่ายเอง รู้อย่างนี้ไม่ซื้อหรอก.....
“ไม่มีเงินจ่าย แล้วจะจ่ายเป็นอะไรดีล่ะ” คุณชายปฐวีนึกสนุก ยิ่งเห็นหน้าตาเหรอหราของคนที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดก็ยิ่งขำ เขาลุกออกจากโต๊ะทำงานเดินมานั่งลงข้าง ๆ บนโซฟาตัวเดียวกับหญิงสาวพลางวางแขนพาดยาวไปตามพนักพิง มองเผิน ๆ ก็เหมือนกำลังโอบกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน
“คุณชายหลอกหนู รู้งี้ไม่เถียงกับคุณหน้าขาวให้เจ็บคอหรอก” บัวบูชาเผลอบ่นเสียงดังไปหน่อยแถมยังแอบค้อนให้อีก
“หึหึ...ทำดีหวังผล ฉันยกหนี้ให้ก็ได้” คุณชายอมยิ้มเขารู้เรื่องทั้งหมดจากนพมาศแล้ว รู้สึกดีใจที่บัวบูชาเข้มแข็งกว่าที่คิดไว้
“จริงนะคะ พูดแล้วห้ามคืนคำด้วย” ประสบการณ์สอนให้หล่อนรอบคอบขึ้นมาอีกนิด จึงต้องเน้นย้ำเพื่อความมั่นใจ
“หลอกง่ายชะมัด” คุณชายหนุ่มตะแคงข้างเข้าหา พลางคีบจมูกเชิดรั้นนั่นอย่างมันขี้ยว
“โอ้ยยยยย...คุณชายขา.....หนูเจ็บ” เสียงร้องโอดโอยกลบเกลื่อนอาการสะเทิ้นเขินอายมากกว่าความเจ็บที่มีเพียงน้อยนิด ในระยะประชิดเช่นนี้หัวใจเจ้ากรรมดันเต้นโครมครามจนเกรงว่าคนข้าง ๆ จะได้ยิน ขนาดนอนกอดมาสองคืนแล้วก็ยังไม่ชินอยู่ดี
“ฉันบอกตอนไหนว่าเธอเป็นหนี้ มันเป็นหน้าที่ของสามีอยู่แล้วที่ต้องดูแลภรรยาตามควร”
แม้จะโล่งใจแต่ก็แอบใจฝ่อพิกล...หล่อนหลงลืมชั่วขณะ เผลอคาดหวังลม ๆ แล้ง ๆ ช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย......หญิงสาวพยายามตอกย้ำกับตัวเองซ้ำ ๆ ถึงความเป็นจริงที่หม่อมเนื้อทองพร่ำสอน ท่านบอกอยู่เสมอว่าวันหนึ่งคุณชายก็ต้องมีภรรยาที่สมหน้าสมตาพาออกสังคมได้ไม่อายใคร ส่วนตัวหล่อน ถ้าทำตัวดีก็คงไม่ถูกทิ้งขว้างหรอก คงได้อยู่สุขสบายไปทั้งชาติหรือจะกลับไปอยู่กับหม่อมท่านก็ยินดี สำหรับคนต่ำต้อยเช่นหล่อนเท่านี้ก็ควรจะพอใจกับอนาคตที่มั่นคงแล้วมิใช่หรือ
“เจ็บจริง ๆ หรือ” คุณชายยื่นหน้าเข้ามาดูใกล้ ๆ เมื่อจู่ ๆ หนูบัวของเขาก็ทำหน้าเศร้า
“เปล่าค่ะ” หญิงสาวก้มหน้างุด เมื่อได้ฟังน้ำเสียงแสดงความห่วงใย น้ำตาก็พาลจะไหลขึ้นมาดื้อ ๆ
