ตอนที่ 2 รริสา..
@บ้านเศษอนันต์
สวัสดีค่ะหนูชื่อรสาค่ะเดี๋ยวมารายงานตัวนะคะแต่ขออนุญาตตามหาพี่ชายแป๊ปค่ะ....
"อ้ายคิมมีไหน อ้ายออกมาบ่ะเดี๋ยวนี้เลยนะ" เธอตามเรียกหาพี่ชายจนสุดเสียงก็ไม่เสียงตอบรับกลับมา
"รสาลูกเรียกพี่คิมเขาทำไหมค่ะ" ลิซ่าคุณแม่วัยสี่สิบปีเงยหน้าขึ้นมามองร่างระหงของของเด็กวัย 16ปี
ด้วยที่กำลังโมโหทำเธอลืมตัว "อิ่แม่หันอ้ายคิมก่อเจ้า" ดีนะที่ยังมีหางเสียงอยู่..
"แม่ถามว่าถามหาพี่ทำไหมค่ะ" ลิซ่าเองเข้าใจว่าลูกกำลังหัวร้อนพยายามเอาน้ำเย็นลูบแถมตัวเธอเป็นคนที่สอนให้ลูกพูดภาษาเหนือพูดคำเมืองเพราะมันเป็นเอกลักษณ์
เหมือนรู้ตัวเลยลดเสียงลง "บอกน้องก่อนเจ้า" "__"
"อยู่หลังบ้านค่ะ"
"กำเดียวน้องจะมาเล่าฮื่อฟังเน้อเจ้า" (สักครู่หนูจะมาเล่าให้ฟังนะคะ) ตัวเธอเดินออกไปราวกับพายุประมาณกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาพี่ชายที่อยู่ด้านหลังบ้านตามที่แม่บอก..
"อ้ายคิมเอาของน้องไปซ่อนก่า"(พี่คิมเอาของน้องไปซ่อนหรอคะ) แค่เห็นหลังพี่ชายก็ตะเบ็งเสียงถาม
"พูดอะไรของน้องรสา" อยู่ดีๆผมก็โดนข้อหาซ่อนของงงไหมล่ะครับ..
"บ่ะต้องมาจุ๊เลย" (ไม่ต้องมาโกหกเลย) ยืนกอดอกหน้างอคอหักกับคำตามที่ไม่ตรงใจ..
"รสาอยู่ๆก็ไม่ยอมบอกอะไรแล้วมาโยนความผิดให้พี่แล้วก็ไม่บอกว่าอะไรหายแล้วจะเอาคำตอบแบบไหนครับ" ส่วนตัวพี่ชายก็พูดด้วยเหตุผลพยายามเย็นที่สุด
"หั้นน้องมารีของรสาก่อเจ้า" (เห็นน้องมารีขอรสาไหมคะ)
"อะไรคือน้องมารี..?"
"ตุ๊กตะตาแมวขาวที่อิ่แม่ซื้อซื้อน้องเจ้า" (ตุ๊กตาแมวสีขาวที่คุณแม่ซื้อให้น้องค่ะ)
"สีขาวหรอ" ชายหนุ่มในวัย 17 ปีนั่งครุ่นคิดนึกคิดถึงตุ๊กตาแมวสีขาวตัวเขาเองก็ไม่ได้ชอบตุ๊กตาจะรู้จักป่ะวะ..
"รสาลูกหนูหาตัวนี้อยู่ใช่ไหมครับ" ภาคินัยเดินออกมาแล้วโชว์ตุ๊กตาแมวสีขาวที่เก็บได้ในห้องทำงาน
"ห๊ก..หยังอยู่ต้วยอิ่ป้อนิ" (อ้าวทำไมถึงอยู่คุณพ่อได้นิ)
"ป๊าไม่ได้หยิบไปแต่ มันอยูในห้องทำงานป๊า"
"นั่นไงเมื่อวานน้องเข้าไปปริ้นรูปในห้องป๊าไม่ใช่เหรอ" เขาจำได้แล้วก็เมื่อวานน้องสาวหาที่ปริ้นรูปเพราะเครื่องปริ้นในห้องของน้องมันพังผมก็เลยให้ไปปริ้นในห้องทำงานป๊า..
"อ๋อ..แม่นแล้ว สุมาเต๊อเจ้าอ้ายบ่าวสุดหล่อของน้อง" (ใช่แล้วขอโทษนะคะพี่ชายสุดหล่อของน้อง) ก็รู้ตัวว่าผิดอ้อนพี่ทันที
"อย่ามาตบหัวแล้วลูบหลังไปเลยจะอ่านหนังสือหล่ะ" ตัววาคิมเองออกมาหาที่นั่งอ่านหนังสือเงียบๆแต่กลับโดน..
"หนังสือยังกะเจ้า"
"สักเรื่องไหมครับรริสา"
"ห๊ก .ว่าน้องเสือกอี้"
"พูดตรงไหน"
"ความหมายมันก็คือกันบ่อ"
"เลิกคิดแล้วก็ไปเอาแมวเน่าๆนั้นเลย อายุ16แล้วติดแมวเน่าอีก"
"ห้ามว่าแมวน้อง" พร้อมกับสะบัดตูดเดินไปหาปะป๊าสุดหล่อของเธอทันที
พาร์ทวาคิม
เอาจริงๆป่ะเกิดเป็นพี่ชายของรสาไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยเหนื่อยชิบ ชอบโวยวายแล้ว 1 โมเมเก่งแล้ว 1 อีกเยอะอย่าให้พูดใครเอาเป็นเมียวะ..
พาร์ทรสา
ขออนุญาตแนะนำตัวอีกครั้งค่ะหนูชื่อรสาค่ะ ชื่อจริงนางสาวรริสา อภินันทวรรณ์ (ลูฟท์) หนูเป็นลูกครึ่ง ไทย-จีน-สเปนค่ะ เป็นเป็นลูกสาวคนเล็กของอดีตอัยการชื่อดังภาคินัยกับแม่ลิซ่า มาดามอลิส เจ้าของธุรกิจค้าขายและส่งออกอัญมณี ภายใต้บริษัทอลิซไดมอนด์
หนูเป็นลูกครึ่งที่พูดคำเมืองค่ะชอบพูดที่สุดเวลาพูดกับใครที่รู้จักจะสื่อภาษาเหนือตลอดเพราะมันน่ารักค่ะ
ตอนนี้หนูเรียนอยู่ม 4 เปิดเทอมก็จะขึ้นม.5แล้วสาวนพี่ชายหนูจะขึ้นม.6 แล้วค่ะ มาตามเรื่องของหนูต่อเลยเนอะ..
พอรู้ว่าตุ๊กตาอยู่ที่พ่อเธอก็เดินเข้าหาพ่อทันที "ขอบคุณเจ้าป้อ"
"ไม่เป็นไรครับแต่ทำไมขี้ลืมอย่างนี้"
"ก่อน้องจำบ่ะได้อ่ะ อ้ายคิมชอบแกล้งน้อง" (ก็หนูจำไม่ได้พี่คิมชอบแกล้งหนูนี้)
"คราวหน้าคราวหลังควรถามก่อนไหมลูก"
'เจ้า เต้อหน้าจะตั๊กก่อนเจ้า" (ค่ะครั้งหน้าจะถามก่อนค่ะ)
"เอาไปเอาไปซักด้วยนะเพราะว่ามอมแมมมากเลย"
"มันเมินหละลอ" (มันนานมากแล้วค่ะ,)
"เอาตัวใหม่ไหมครับ"
"บ่อค่ะ ฮักตัวนี้เจ้า" (ไม่ค่ะรักตัวนี้)
"ป่ะไปทานอาหารว่างกันหม่ามี๊รอแล้ว"
"เจ้าป้อ" แล้วสองพ่อลูกก็เดินเข้ามาด้านในบ้านเห็นร่างบางที่คุ้นตากำลังจัดเตรียมอาหารว่างบนโต๊ะ"
"แม่ฮื้อน้องจ๋วยก่อเจ้า" (คุณแม่ให้น้องช่วยไหมคะ)
"ไม่ต้องค่ะมานั่งได้แล้ว" ลิซ่าเงยหน้าไปมองลูกสาวที่อุ้มตุ๊กตาแมวสีขาวตัวที่เธอเคยซื้อให้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
"โห้ อย่าบอกนะว่าเป็นสาเหตุที่โวยวายเมื่อกี้"
"แม่นนะเจ้า"
"รสา ขาหนูโตแล้วนะลูกเวลาหาของไม่เจอให้ถามก่อนนะคะไม่ใช่โวยวายแบบนี้มันไม่น่ารักเลย"
"ฮู้แล้วเจ้าแม่" (รู้แล้วค่ะแม่) พร้อมเดินเข้าหาแม่แล้วกอดมารดาบังเกิดเกล้าทันที
"อ้อนแม่เอาอะไรอีกล่ะ"
"จุ้น"
ใครกันแน่จุ้น"
"ไม่เอาครับพี่คิมอย่าทะเลาะกันม๊าขอร้อง"
ผมแค่แอบหมั่นไส้คนอะไรโตขนาดนี้ยังจะอ้อนแม่อยู่ได้ "ครับม๊า"
"ว่าไงเราตั้งใจจะเรียนต่อคณะอะไร"
"ยังไม่รู้เลยครับ"
"ทานของว่างเสร็จขึ้นไปคุยกับป๊าที่ห้องนะครับมีเรื่องจะปรึกษานิดนึง"
"หือน้องไปต้วยก่อเจ้า" (ให้น้องไปด้วยไหมคะ)
"ไม่ต้องครับป้ามีเรื่องจะคุยกับพี่คิม"
ลิซ่าที่ก้มหน้าจัดของอยู่รู้เลยว่าสามีจะคุยเรื่องอะไรถึงเรื่องนั้นจะเป็นไอเดียของเธอพอใกล้เวลาเธอก็ใจหายกลัวลูกจะปฏิเสธแต่ถ้าลูกชายรับก็ถือว่าดีอยู่แต่ก็ยังใจหายอยู่ดี
"พี่คิณหนูว่า"
"มันถึงเวลาแล้วครับเราต้องพูด"
"สำคัญขนาดนั้นเลยหรอครับ"
"มากครับ"
"เรื่องหยังเจ้าทำไมน้องบ่ะฮู้อยู่คนเดียว" (เรื่องอะไรคะทำไมน้องไม่รู้อยู่คนเดียว) ตัวเธอนั่งมองพ่อแม่คุยกันในเรื่องของพี่ชาย
"รสาขามันเป็นเรื่องของผู้ชายค่ะลูก" มันไม่ใช่ความลับแต่ตอนนี้ยังไม่ได้คำตอบจากวาคิมก็พูดอะไรไม่ได้เหมือนกันเพราะทุกอย่างมันเตรียมการไว้แล้วขึ้นอยู่กับว่าลูกชายของเธอจะรับไหมแค่นั้นเอง
"เจ้า"
"ไม่น้อยใจนะคะรอให้มันเป็นเอกฉันท์ก่อนครอบครัวเราไม่มีความลับต่อกันเข้าใจไหม"
"เข้าใจ๋เจ้าแม่" (เข้าใจค่ะแม่) พร้อมกับกอดแม่อีกครั้ง (เรื่องราวตอนนี้คือวาคิมยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกทาบทามให้เป็นมาเฟียรุ่นต่อไปแต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องยอมรับเองไม่มีใครบังคับ)
@1ปีผ่าน
หลังจากที่วาคิมรู้ว่าตัวเองต้องรับตำแหน่งเขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะรับ ไม่เพราะว่าเหตุผลอันใดก็ตามแต่สิ่งที่เขาอยากรับไว้เพียงเพื่อแสดงให้รู้ว่าเขามีความกตัญญูต่อบุพการี อยากที่จะเรียนคณะบริหารเขาเลยเรียนสายมาเรียนคณะเศรษฐศาสตร์แทน
ปีนี้หนูอิงสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์แถมยังมีเพื่อนสนิทของหนูอิงมาเรียนต่อคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ คนหนึ่งมาตามหัวใจแต่อีกคนมาเพราะพ่อขอร้องให้มาเป็นคู่..
การมาของเขาครั้งนี้เขาไม่รู้เลยว่าเขาจะมาตกหลุมรักสาวน้อยหน้าฝรั่งแต่พูดเมืองเข้าอย่างจัง..
@มหาวิทยาลัย
พาร์ทหนูอิง
เชื่อไหมว่าชีวิตเธอเหมือนถูกมัดมือชกเผลอแป๊บเดียวจะคู่กัดกลายเป็นแฟนเฉยเลยแถมไม่พอวันนี้เพื่อนๆพากลับมาหาเธอที่คณะ...
ถือว่าโอกาสดีที่จะได้สนิทชิดเชื้อกันวาคิมตอนแรกตั้งใจจะมาชวนเพื่อนสาวกับพี่ชายแต่ดันมาเจอคนหมู่เยอะก็เลยชวนทุกคนไปทานหมูกระทะที่บ้าน
"ไหนๆก็รู้จักกันแล้วไปทานหมูกระทะบ้านเราดีกว่า" วาคิมเอยขึ้นมา
"แต่ว่า" เสียงของฟ้ากับแก้ม
"ไม่มีแต่ไปเถอะป้านอาคิณอยู่แค่นี้เอง"
"แต่เราต้องเข้าหอก่อน 22:00 น นะ"
"เดี๋ยวเรามาส่งไม่ต้องกลัว
"เอ้าๆอยู่กันตั้งหลายคนชวนแค่สองสาวเองหรอครับ"
"ถ้าไม่ชวนจะไปไหมล่ะ"
"อ้าวหนูอิงพูดแบบนี้หมายความว่าไง"
"ก็หมายความตามนั้นเลย" อิงธารารู้ดีว่าชวนไป สองคนก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้วก็เลยไม่ขยันขยอเหมือน สองสาวนี้เฉยๆ
"อย่ามาลีลาขึ้นรถ"
"ไปครับไปเยอะๆสนุกดี"
"ต้องบอกอาคิณไหมคิม"
"ป๊าไม่ว่าหรอกยิ่งเยอะยิ่งสนุกรสายิ่งชอบจะได้พูดเจี๋ยวแจ้วเป็นนกขุนทองงานนี้แหละ"
"รสายังเด็กอยู่หรอตัวเอง" ฟ้าใสถาม
"รสาเป็นรุ่นน้องเราแค่ปีเดียวเอง" หนูอิงกันไปบอกเพื่อนสาว
"ทำไมคิมว่าน้องอย่างนี้" แก้มบุ๋มถาม
"ไปถึงก็รู้ว่าเป็นอย่างที่คิมพูดไหม"
"ป่ะขึ้นรถกันได้แล้วเดี๋ยวให้ผู้ใหญ่รอ" เจ้าคุณที่มาทีหลังเป็นผู้ออกความคิดที่จะพาพวกเพื่อนๆของแฟนของเขาไปให้คุณอารู้จัก
@บ้านเศษอนันต์
รถหรู 2 คันที่วิ่งออกจากมหาวิทยาลัยที่พาเพื่อนของหนูเองทั้งที่อยู่กรุงเทพฯและเชียงใหม่มายังบ้านของคอากงดิษฐ์ ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีรถ 2 คันก็เลี้ยวเข้าสู่รั้วบ้านและวิ่งเข้ามาจอดที่จอดทันที...
