บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

เช้าวันต่อมามุกปรินทร์ตัดสินใจที่จะลาออกจากงาน เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวดินแดนทะเลทรายที่ประเทศซามาร์ จากนั้นค่อยแวะไปพักอยู่กับพี่ชายจนกว่าจะสบายใจ หรือจนกว่าความรู้สึกจะดีขึ้น ในเวลาที่อ่อนแอเช่นนี้เธออยากได้กำลังใจและอ้อมกอดจากใครสักคน และคงหนีไม่พ้นปริภัทรพี่ชายของเธอ

ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอต้องการ ถือเป็นความโชคดีที่เธอกับเจ้าของบริษัทสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว ทำให้เธอสามารถออกจากงานได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าสามสิบวัน

มุกปรินทร์เดินทางมาถึงซามาร์ในค่ำวันเดียวกัน และติดต่อขอซื้อทัวร์เพื่อเดินทางท่องเที่ยวในดินแดนทะเลทราย สองวันแรกการเดินทางท่องเที่ยวผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จนเข้าสู่วันที่สามขณะที่คณะทัวร์แวะพักผ่อนอยู่นั้น ได้มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

มีชายฉกรรจ์หน้าตาเหี้ยมโหดกลุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นกองโจร พวกมันมาดักปล้นพร้อมอาวุธครบมือ ทุกคนต่างก็ตกใจและพยายามหนีเอาตัวรอดไปคนละทิศคนละทาง มุกปรินทร์เองก็เช่นกัน เธอวิ่งออกมาจากกลุ่มด้วยความกลัวจับขั้วหัวใจ มีชายสองคนวิ่งไล่ตามเธอมาอย่างไม่ลดละ

จังหวะที่สะดุดล้มลงทำให้ไอ้พวกนั้นจับตัวได้ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่แรงของผู้หญิงบวกกับความตกใจทำให้แทบจะคุมสติไม่อยู่ ถึงกระนั้นก็ไม่เคยยอมแพ้ เธอจึงต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดเท่าที่จะทำได้

มุกปรินทร์กรีดร้องพร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือ ทั้งที่รู้ดีว่าไม่ค่อยจะมีใครเดินทางผ่านไปมาท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุแห่งนี้มากนัก แต่ก็ยังหวังว่าจะมีใครสักคนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอ

“ปล่อยฉันนะไอ้พวกเลว ฉันบอกให้ปล่อย”

หญิงสาวดิ้นรนต่อสู้ทั้งเตะ ถีบ และกัด ทำทุกวิถีทางที่จะนำพาให้เธอรอดพ้นจากสถานการณ์นี้

“ฤทธิ์เยอะนักนะ อยากเจ็บตัวนักใช่ไหม”

โจรถ่อยตบหน้าเธออย่างแรงถึงสองครั้ง มุกปรินทร์สัมผัสได้ถึงเลือดที่มุมปาก แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เมื่อพวกมันเห็นว่าเธอยังไม่หยุดที่จะดิ้นรนมันจึงบีบคอเธอสุดแรงจนเธอแทบจะขาดอากาศหายใจ ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้มีดจี้ไปที่ลำคอของเธอ

“อยู่เฉยๆ แล้วมาสนุกร่วมกันดีกว่า หรือถ้าเจ้าคิดว่าชีวิตของเจ้ามันไม่มีค่าก็ดิ้นรนขัดขืนต่อไป ข้าจะได้ปาดคอเจ้าให้ตายคามือ”

ความโหดเหี้ยมที่สอดแทรกมาในคำพูด และมีดสั้นที่จ่ออยู่ที่คอของเธอนั้นมากพอที่จะทำให้มุกปรินทร์ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ น้ำตาของเธอไหลลงมาอาบแก้มอย่างไม่ขาดสาย มาคอสเงื้อมีดในมือขึ้นสูงทำท่าคล้ายจะจ้วงแทงเพื่อข่มขวัญอีกฝ่าย สายตาของมันบอกกับเธอว่ามันไม่ได้ล้อเล่น

“จะให้ฉันยอมเป็นของเล่นของพวกแก อย่าหวังเลยไอ้พวกชั่ว อยากฆ่าก็ฆ่าฉันเลยสิ จะรออะไร”

“อยากตายนักใช่ไหม ได้ เดี๋ยวจัดให้ อยากได้กี่แผลล่ะ” มาคอสพูดพร้อมกับตวัดมีดไปมาตรงหน้าเธอ

ในช่วงนาทีชีวิตนั้นได้มีเสียงของใครคนหนึ่งที่บังเอิญผ่านมาเห็นเหตุการณ์ดังขึ้น

“เอามือโสโครกของพวกเจ้าออกไปจากตัวผู้หญิงคนนี้นะไอ้พวกถ่อย”

พวกมันปล่อยมือจากเธอก่อนจะหันมากระชากเสียงถาม

“แกเป็นใคร แส่ไม่เข้าเรื่องแบบนี้คงต้องสั่งสอนกันบ้าง”

และแล้วการต่อสู้อย่างดุเดือดได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นระหว่างสองโจรถ่อยกับชายหนุ่มนิรนามที่บังเอิญก้าวเข้ามาช่วยเหลือเธอในช่วงเวลาที่คับขัน

ในขณะที่การีมกำลังจัดการกับลูกน้องของมาคอสจนล้มคว่ำนอนหมดสติไปนั้น มาคอสก็ใช้จังหวะนี้เงื้อมีดในมือจ้วงแทงเขาจากทางด้านหลัง โชคดีที่มุกปรินทร์ส่งเสียงเตือน ทำให้คมมีดปาดโดนเข้าที่แขนของเขาแทน เขาต่อสู้กับมันจนสามารถล้มมันได้อีกคน จากนั้นก็หันมาบอกให้เธอช่วยเขามัดไอ้สองตัวนี้ไว้ก่อนที่มันจะได้สติ

การีมเข้ามาช่วยพยุงเธอและพาเธอหนีด้วยความระมัดระวังจนกระทั่งหนีพ้นพวกมันมาได้ เขาพาเธอเดินมาไกลแค่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้ รู้แต่ว่าร่างกายของเธอเหนื่อยล้าจนแทบจะยืนไม่อยู่ ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะก้าวเดิน

แต่ก็ไม่ปริปากบ่นและเดินตามเขาไปโดยไม่ลดละ การีมสังเกตเห็นอาการของหญิงสาวจึงได้เอ่ยถาม

“ไหวไหมคุณ”

“ไหวค่ะ”

“ท่าทางคุณมันไม่ได้บอกแบบนั้น ดูเหมือนว่าคุณจะไปต่อไม่ไหว อดทนอีกนิดนะ อีกไม่นานเราก็จะถึงโอเอซิสแล้ว ถึงที่นั่นแล้วเราค่อยพัก”

มุกปรินทร์กัดฟันอดทนเดินตามเขาไปโดยไม่หยุดพัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel