ตอนที่ 3 ความลับที่หอมหวาน
ตอนที่ 3
ความลับที่หอมหวาน
เสียงรองเท้าส้นเล็กกระทบกับพื้นลามิเนตมันวาวของสำนักงานในช่วงสายของวันใหม่ ดังก้องกังวานอยู่ในห้วงความคิดของ นาวี ไม่ใช่เพราะเสียงนั้นแหลมบาดหู หรือเพราะเขารู้สึกรำคาญใจ หากแต่เป็นเพราะเขารู้ดีว่าเป็นเสียงของใครเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาอย่างแผ่วเบานั้นคือสัญญาณที่กระตุ้นทุกโสตประสาทของเขาให้ตื่นตัว
ไยไหม เดินตรงไปยังโต๊ะทำงานตัวเล็กมุมห้องของเธออย่างเช่นทุกวัน ร่างอรชรในชุดเดรสเข้ารูป สีขาวละมุนตา ดูเรียบร้อยและอ่อนหวาน ทว่าเมื่อเธอนั่งลง ริมชายกระโปรงที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยก็เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนจนทำให้ใจของนาวีร้อนวาบอย่างไม่อาจห้าม เขาพยายามไม่มอง พยายามทำเหมือนไม่สนใจ พยายามทำตัวเป็นเจ้านายที่ดีและเป็นมืออาชีพ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกภาพ ทุกรายละเอียดเกี่ยวกับเธอ ต่างก็สลักลึกอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างชัดเจน
เขายังจำได้ถึงทุกส่วนโค้งเว้าของเรือนร่างเธอทุกสัมผัสที่ร้อนผ่าว... เสียงครางแผ่วเบาของเธอในรุ่งเช้าที่เพิ่งผ่านพ้นไป... แม้กระทั่งกลิ่นสบู่หอมจางๆ ที่ติดปลายผมของเธอในยามที่เขากอดเธอไว้แน่น
นาวีกำปากกาในมือแน่น เคาะมันเบาๆ กับโต๊ะทำงานเพื่อดึงสติกลับมาจากการรบกวนของภาพหลอนแห่งความทรงจำ แต่เมื่อเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาก็แทบอยากจะลุกจากเก้าอี้ทำงานแล้วพุ่งเข้าไปกอดเธอเสียเดี๋ยวนั้น
ข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอส่งตรงมาจากเธอ
“ไหมซื้อขนมมาฝากไว้ในลิ้นชักโต๊ะคุณค่ะ แต่เอาจริงๆ ไม่อยากให้กินขนมเท่าไหร่... อยากให้กินไหมมากกว่า”
ชายหนุ่มสะดุ้งเงียบๆ ในใจ รอยยิ้มมุมปากที่ยากจะสังเกตเห็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมสัน ไยไหม.รู้จักยั่วแล้ว และเขากำลังจะบ้า... กำลังจะบ้าคลั่งไปกับความรู้สึกที่เธอมอบให้
หลังเลิกงาน สำนักงานกฎหมายขนาดใหญ่กลับสู่ความเงียบสงัดอีกครั้ง พนักงานคนอื่นๆ ทยอยกลับกันไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงแสงไฟดวงเดียวที่ยังคงส่องสว่างอยู่ในห้องทำงานของเขา และเสียงฝีเท้าเบาๆ ที่คุ้นเคยกำลังก้าวเข้ามาใกล้... เป็นเสียงที่เขาจำได้ขึ้นใจ
“คุณนาวี... ไหมลืมโทรศัพท์ค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อไยไหมปรากฏกายอยู่ตรงหน้าประตูห้อง
“อยู่ที่โต๊ะ” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พยายามเก็บซ่อนความตื่นเต้นที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจ
หญิงสาวเดินเข้ามาในห้อง ตรงไปที่โต๊ะทำงานของเธอ หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ขึ้นมา แล้วกำลังจะหันหลังเดินออกไป
“เดี๋ยว” เสียงทุ้มต่ำของเขาดึงรั้งเธอไว้ ทำให้เธอชะงักฝีเท้า
“คะ?” ไยไหมหันกลับมา ดวงตากลมโตวาวใสสะท้อนแสงไฟสว่างไสวภายในห้อง แววตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และไร้เดียงสา ทว่าก็แฝงไปด้วยประกายบางอย่างที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกโหยหา
นาวีลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานอย่างช้าๆ แล้วก้าวเดินเข้ามาหาเธอ ร่างสูงใหญ่ของเขาบดบังร่างบอบบางของเธออย่างง่ายดาย ทำให้เธอดูตัวเล็กและเปราะบางในสายตาเขา
“วันนี้... เธอตั้งใจใส่กระโปรงสั้นแบบนี้มารึเปล่า” เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ ทว่าสายตาที่จับจ้องกลับเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะซ่อนเร้น
“ไหม... เปล่านะคะ...” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย ใบหน้าหวานเริ่มปรากฏร่องรอยของความประหม่า แต่สายตากลับไม่ยอมหลบเลี่ยงจากดวงตาคมกริบของเขาแม้แต่วินาทีเดียว
“โกหกเก่งขึ้นนะ หนูไยไหม”
มือหนาของเขายกขึ้นลูบไล้ไปตามต้นแขนเรียวเล็กของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนลงไปที่เอวคอดกิ่ว แล้วออกแรงดึงให้ร่างของเธอแนบชิดกับเขามากขึ้น ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องลึกเข้าไปในแววตาหวานใสของเธอ ราวกับจะอ่านทุกความคิดที่ซ่อนอยู่ในใจเธอ
นาวีดันร่างบอบบางของเธอให้ถอยหลังไปช้าๆ จนแผ่นหลังของไยไหมชนเข้ากับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของเขาอย่างแรง เสียงแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะกระเด็นหล่นกระทบพื้นห้องดังโครมคราม แต่ไม่มีใครสนใจ
มือหนาของเขายกขาเรียวสวยของเธอขึ้นข้างหนึ่งพาดบนขอบโต๊ะทำงานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับดันกระโปรงของเธอขึ้นสูงจนเผยให้เห็นขอบลูกไม้สีครีมของชุดชั้นในที่เขาเคยถอดมันออกเมื่อคืนก่อน... ภาพนั้นยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ดิบในตัวเขาให้ลุกโชน
“ยังกล้าใส่มาให้ฉันเห็นอีกเหรอ” เขาเอ่ยเสียงพร่าพรึง ดวงตาคมกริบจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธออย่างไม่วางตา
“ไหมไม่ได้ตั้งใจ...” เสียงเธอเบาหวิว แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความอายระคนความกลัว และความตื่นเต้นที่ยากจะเก็บซ่อน
“ไม่ตั้งใจ... แต่ทำให้ฉันคิดถึงเธอทั้งวัน” เขาพึมพำ ก่อนจะก้มลงประทับจูบซอกคอหอมกรุ่นของเธออย่างหนักหน่วงด้วยความหิวโหย
ไยไหมสะดุ้งเฮือก ร้องครางเบาๆ เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาไล้ลงไปถึงเนินอกอิ่ม มือหนาของเขาไม่รอช้า ถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดผ่องใสที่เขาแทบอยากจะจมดิ่งลงไปทั้งร่าง
เขาช้อนตัวเธอขึ้นให้นั่งบนโต๊ะทำงาน ปล่อยให้เรียวขาขาวเนียนทั้งสองข้างห้อยลงมาอย่างเป็นอิสระ มือข้างหนึ่งประคองแผ่นหลังของเธอไว้แน่น อีกข้างโอบรัดสะโพกกลมกลึงของเธอให้แนบแน่นกับร่างกายของเขามากที่สุด นาวีขยับสะโพกเบียดชิดกับร่างกายของเธออย่างช้าๆ ทุกจังหวะที่เขาขยับเข้าไปลึกขึ้น ไยไหมก็ร้องครางกระเส่าออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ไยไหมโน้มตัวเข้ากอดเขาแน่น ซบใบหน้าลงกับไหล่กว้างของเขา ปลายนิ้วเรียวยาวของเธอจิกฝังลงบนไหล่เขาอย่างลืมตัว
เสียงเนื้อกระทบเนื้อเบาๆ ผสานกับเสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ และเสียงจูบที่ดูดกลืนความรู้สึกของกันและกัน ดังก้องอยู่ในห้องที่เงียบสงัดเกินไป
“คุณนาวี... มันจะ... อื้อ... ได้ยินออกไปข้างนอกนะคะ...” เธอเอ่ยกระซิบเสียงขาดห้วงด้วยความกังวล
“งั้นก็ร้องเบาๆ แต่ไม่ต้องกลั้นเสียงนะ ฉันอยากได้ยินทุกเสียงจากเธอ” เขากระซิบตอบเสียงพร่า พลางปลายนิ้วร้อนๆ ของเขาแตะลงบนใบหูของเธออย่างยั่วเย้า ทำเอาเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ชายหนุ่มจูบเธอทุกจุดที่เธออ่อนแอที่สุด... ทุกสัมผัสที่เขามอบให้ ล้วนทำให้เธอหลอมละลายไปกับความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา และเธอก็ปล่อยให้เขาทำอย่างเต็มใจ... ด้วยหัวใจที่มอบให้เขาไปแล้ว
เมื่อทุกอย่างสงบลง... แต่ความลับกำลังจะถูกเปิดเผย
เมื่อบทเพลงรักอันร้อนแรงใต้แสงไฟในสำนักงานสงบลง นาวีไม่พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่รวบร่างเล็กบอบบางของเธอเข้ามากอดแน่นไว้ในอ้อมแขนที่แสนอบอุ่นหลังจบเกมรักแสนหวานที่ทำให้เขาคลั่งไคล้ เขาซุกใบหน้าลงกลางเส้นผมหอมกรุ่นของเธอ สูดดมกลิ่นหอมจางๆ อย่างโหยหา ราวกับจะเก็บเกี่ยวทุกความรู้สึกไว้ในใจ
“ไหมเป็นของฉันแล้ว... อย่าทำให้ใครคิดว่าเขามีสิทธิ์จะได้เธออีก เข้าใจไหม” เขาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความเป็นเจ้าของและความหวงแหน
เธอพยักหน้ารับช้าๆ ซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขาอย่างเต็มใจ
แต่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า... เสียงฝีเท้าของใครบางคนได้หยุดยืนอยู่หน้าห้องทำงานของพวกเขา... ใครคนนั้นไม่ได้เดินจากไปด้วยใจที่ว่างเปล่า... และความลับที่หอมหวานในคืนนี้... อาจไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
