ตอนที่ 2 เช้านี้...เธอยังเป็นของฉัน
ตอนที่ 2
เช้านี้...เธอยังเป็นของฉัน
เสียงนาฬิกาดิจิทัลบนหัวเตียงส่งเสียงปลุกแผ่วเบา เป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ที่กำลังคืบคลานเข้ามา แสงอาทิตย์อ่อนละมุนค่อยๆ เล็ดลอดผ่านผ้าม่านโปร่งสีขาวนวล สาดส่องไออุ่นอ่อนโยนเข้าสู่ห้องนอนสุดหรูหราที่ยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของสบู่และความรักจากค่ำคืนที่ผ่านมา
ร่างบอบบางที่นอนแนบชิดอยู่ข้างกายชายหนุ่มค่อยๆ ขยับตัวอย่างเชื่องช้า เปลือกตาบางกระพริบถี่ๆ สองสามครั้ง ก่อนที่ดวงตากลมโตจะค่อยๆ เปิดออกเผยให้เห็นความสับสนเล็กน้อยบนใบหน้าหวาน เมื่อรับรู้ได้ถึงความจริงที่ว่าเธอ... ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
เสื้อผ้าที่เคยสวมใส่เมื่อคืนถูกถอดทิ้งไว้กองรวมกันที่ปลายเตียง หมอนเนื้อนุ่มผืนหนึ่งร่วงหล่นลงไปกองอยู่บนพื้นพรม และที่สำคัญที่สุดคือ แขนแกร่ง ของใครบางคนกำลังโอบกอดรัดเธอไว้แน่นจากด้านหลัง ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเป่ารดต้นคอของเธออย่างสม่ำเสมอ
“อื้อ... คุณนาวี...” เสียงแผ่วหวานเล็ดลอดจากริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อของเธอ พลางขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหันไปเผชิญหน้ากับเขา
“อย่าเพิ่งลุก... ยังไม่เช้าเท่าไหร่เลย” เสียงทุ้มต่ำของเขากระซิบอยู่ข้างหู พร้อมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นราวกับกลัวว่าเธอจะหลีกหนีไปไหน
“แต่ไหมต้องรีบไปฝึกงาน...” ไยไหมพยายามเอ่ยปฏิเสธ แต่เสียงของเธออ่อนลงเมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างกายของเขาที่แผ่ซ่านเข้ามาโอบล้อม
“ให้ฉัน 'ฝึก' เธอก่อนอีกสักรอบ... แล้วค่อยไป” เขาเอ่ยเสียงพร่าพรึง มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธออย่างอ้อยอิ่ง สัมผัสที่แสนคุ้นเคยจากเมื่อคืนกลับมาปลุกเร้าความรู้สึกร้อนผ่าวในกายเธออีกครั้ง
เพียงพริบตา ร่างบอบบางของไยไหมก็ถูกพลิกให้นอนหงาย ใต้ผ้าห่มผืนบางที่แทบจะปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอไว้ไม่มิด แสงสีทองของดวงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาอาบไล้ผิวเนื้อนวลผ่องให้เปล่งประกายงดงาม นาวีก้มลงประทับจูบริมฝีปากอิ่มของเธออย่างแผ่วเบา ราวกับคนที่กำลังเสพติด
ความหวานละมุนลิ้นนั้น ลิ้นร้อนของเขาสอดแทรกเข้ามาควานหาความหวานล้ำลึกเข้าไปในโพรงปากอิ่ม จนไยไหมครางแผ่วๆ ในลำคอด้วยความพึงพอใจ
มือหนาของเขาลูบไล้จากต้นขาเรียวสวยขึ้นมาจนถึงสะโพกกลมกลึง ก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วใต้แผ่นหลังของเธอเพื่อยกตัวเธอขึ้นให้แนบชิดกับร่างกายของเขามากยิ่งขึ้น ความร้อนจากกายของเขาแผ่ซ่านเข้ามาโอบล้อมกายเธอไว้จนรู้สึกได้ถึงความร้อนระอุที่พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
“ไหม... เมื่อคืนเธอน่ารักมาก... แต่เช้านี้... ฉันจะทำให้เธอ 'ละลาย' กว่านั้นอีก” เขาเอ่ยกระซิบเสียงพร่า ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาหวานใสของเธออย่างไม่วางตา ราวกับจะสะกดทุกความรู้สึกของเธอไว้
หญิงสาวหน้าแดงจัด ซบใบหน้าลงกับอกแกร่งของเขา พยายามจะเบือนหน้าหนีจากสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนานั้น
แต่แล้วนาวีก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอหลีกหนีไปง่ายๆ เขาเชยคางเธอขึ้นมา จูบซับลงบนไหล่มนเนียน ก่อนจะไล้ลงมาประทับจูบซ้ำๆ ลงตรงเนินอกอิ่มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับกระซิบคำพูดแหบพร่าข้างหูเธอไม่หยุดหย่อน
“เธอรู้ไหมว่าเธอมีผลกับฉันแค่ไหน... มันมากเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้...”
นาวีค่อยๆ ใช้มือข้างหนึ่งโอบรัดแผ่นหลังของเธอขึ้นช้าๆ ให้เธอลุกขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัวเขาอย่างมั่นคง ใต้ผ้าห่มผืนบาง ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดกันจนแทบไม่เหลือช่องว่างใดๆ มืออีกข้างของเขาโอบรัดสะโพกกลมกลึงของเธอไว้แน่น ขณะที่สายตาคมกริบของเขากลับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอจนไยไหมแทบจะหายใจไม่ออก
“ไหม... คุมจังหวะเองนะ”
เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมกับที่เขาหนุนแผ่นหลังของเธอไว้ ให้เธอรู้ว่าเธอคือคนเดียวที่เขาเชื่อใจที่จะมอบการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างให้ ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้เป็นผู้กำหนดจังหวะแห่งรักในครั้งแรกทำให้เธอรู้สึกเขินอาย แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เธอเองก็อธิบายไม่ถูก
เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ดังระงมไปทั่วห้อง เสียงของเตียงที่ไหวเอนตามจังหวะช้าๆ และเสียงเนื้อกระทบกันอย่างแผ่วเบา ผสมผสานเป็นบทเพลงแห่งรักที่แสนเร่าร้อน ราวกับทั้งสองกำลังเต้นรำกันในท่วงท่าที่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจและดื่มด่ำไปกับมัน
“เรียกชื่อฉันอีก... ให้เหมือนเมื่อคืน...” เขาเอ่ยกระซิบแนบซอกคอเธอ กลิ่นกายหอมกรุ่นของเขาทำให้เธอรู้สึกมึนงง
“คุณนาวี... ค่ะ... อื้อ...” เสียงครางหวานปนหายใจแรงของเธอเรียกให้เขายิ่งตอบสนองด้วยการกระแทกสะโพกของเขาให้แน่นขึ้นอีกครั้ง ไยไหมแทบจะทรุดตัวลงกอดเขาแน่นด้วยความรู้สึกวูบวาบที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง พร้อมกับความร้อนระอุที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ภายในไม่ยอมดับลง
หลังจากบทเพลงรักอันแสนเร่าร้อนสิ้นสุดลง ทั้งสองร่างก็นั่งซบกันอยู่บนเตียง ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวที่คลุมกายไว้ ไยไหมซุกใบหน้าอยู่บนไหล่กว้างของเขา สูดดมกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของนาวี ขณะที่เขาลูบไล้ปลายนิ้วไปตามแผ่นหลังเนียนละเอียดของเธออย่างแผ่วเบา เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและทะนุถนอม
“ไหม...” เขาเรียกชื่อเธอแผ่วเบา เสียงทุ้มนุ่มบ่งบอกถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
“คะ...” ไยไหมตอบรับด้วยเสียงอู้อี้
“เธอทำให้ฉัน... หยุดคิดถึงใครคนอื่นไม่ได้เลย” เขาสารภาพออกมาตรงๆ แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะปิดบัง
ไยไหมเงยหน้าขึ้นจากไหล่ของเขา ดวงตากลมโตฉายแววเขินอายปนหวั่นไหว แต่ก็พยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะเอ่ยเบาๆ ด้วยความรู้สึกเดียวกัน
“ไหมก็เหมือนกันค่ะ...”
นาวีจูบหน้าผากมนของเธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน แล้วกระซิบอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและเต็มไปด้วยความตั้งใจ
“คืนนี้... จะไม่ใช่แค่คืนเดียวแล้วนะไยไหม เช้านี้... และทุกเช้า ฉันอยากให้เธออยู่ในอ้อมกอดนี้ตลอดไป”
และตอนจบของเช้าวันใหม่นี้ คือการที่ไยไหมสวมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีขาวของนาวีที่ยาวลงมาจนถึงต้นขา เดินยิ้มหน้าแดงระเรื่อออกจากห้องด้วยหัวใจที่พองโต ความรู้สึกมากมายตีตื้นขึ้นมาจนเธอแทบจะเก็บไว้ไม่อยู่
ส่วนเขา... นาวีมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ของเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและหวงแหน เขารู้แล้ว... ว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น รักหมดหัวใจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าความรักครั้งนี้จะนำพาเรื่องราวใดมาให้พวกเขาในอนาคต
