ตอนที่ 12
คิมหันต์พาหญิงสาวตรงไปยังโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลปรี่เข้ามารับร่างของเซร่าด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับรีบพาไปยังห้องฉุกเฉิน
คิมหันต์ได้แต่ยืนรออยู่ด้านนอกด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับครุ่นคิดถึงอาการของหญิงสาว
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า คิมหันต์นั่งมองนาฬิกาสลับกับมองไปยังห้องฉุกเฉินด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะยังไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวจะออกมา
พยาบาลคนหนึ่งเดินมาสอบถามข้อมูลของเซร่า เขาจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ก่อนที่นางพยาบาลจะทิ้งให้เขานั่งรอเพียงลำพัง
ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ว่าเขาควรจะบอกพี่ชายของเขาว่าเกิดอะไรขึ้น
คิมหันต์เดินตรงไปยังเค้าท์เตอร์พยาบาลเพื่อขอใช้โทรศัพท์
“เหม ตอนนี้ฉันอยู่โรงพยาบาลนะ..”
“อะไรนะ?” เหมันต์ไม่ได้ยินเสียงของคิมหันต์ เนื่องจากเสียงรอบข้างดังอึกทึก
“เซร่าอยู่โรงพยาบาล..”
“เกิดอะไรขึ้นกับเซร่า? ฉันไม่ได้ยินที่นายพูดเลยน่ะ?”
“อ๊ะ แค่นี้ก่อนนะ นายไปถามฮิเดกิละกัน” คิมหันต์วางโทรศัพท์ลงทันทีที่เหลือบไปเห็นว่า ร่างของหญิงสาวถูกเข็นออกจากห้องฉุกเฉินแล้ว
คิมหันต์เดินตามไปจนถึงห้องที่พยาบาลพาหญิงสาวเข้าไป ขณะที่เขากำลังจะเปิดประตูที่แง้มอยู่ บทสนทนาภายในห้องทำให้เขาชะงักมือค้างเอาไว้
“หมอบอกกี่ครั้งแล้วว่า การฝืนออกกำลังกายเกินควร จะส่งผลให้โรคหัวใจของหนูกำเริบเร็วมากขึ้นนะ” เสียงของหมอดุเซร่าดังออกมา
“ค่ะ อาหมอ” เซร่าที่เพิ่งฟื้นได้สตินั่งก้มหน้าสำนึกผิด ใบหน้าของเธอยังซีดขาวราวกับกระดาษ
“วันนี้ที่ฟื้นขึ้นมาได้ก็เรียกว่าปาฏิหาริย์แล้วนะ ทำไมหนูต้องฝืนร่างกายด้วย”
“ก็.....เพื่อนที่โรงเรียน..ต้องการให้หนูลงวิ่งแข่ง...หนูก็เลย...” เซร่าแก้ตัวอย่างตะกุกตะกัก
“ต้องให้อาบอกกี่ครั้ง ว่าหนูมีชีวิตอยู่ได้เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ถ้าหากหนูใช้ร่างกายหนักเกินไป เวลาที่มีอยู่จะยิ่งสั้นลงนะ” คุณหมอขมวดคิ้วก่อนจะตำหนิเซร่า
“อาหมอชาร์ลตันคะ หนูขอโทษค่ะ หนูก็ไม่ได้อยากลงแข่ง เพียงแต่หนูไม่อยากโดนเพื่อนว่าเป็นคนสำออย หนูก็เลย.......” เซร่าน้ำตารื้น
“พอเถอะค่ะ อย่าดุแกนักเลย” พยาบาลรูปร่างขาวอวบเดินออกมาจากอีกมุมหนึ่งของห้องท้วงขึ้น
“เธอชอบให้ท้ายเซร่าตลอดเลยนะ”
“เดี๋ยวเถอะ คุณ” ภรรยาสาวสวยที่เป็นทั้งพยาบาล ส่งสายตาดุใส่คุณหมอชาร์ลตัน ทำให้เขามีสีหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย
“เซร่าไปวัดคลื่นความถี่ของหัวใจก่อนกลับนะจ๊ะ แล้วอาทิตย์หน้ามาตรวจสุขภาพเหมือนเดิมล่ะ” พยาบาลเฮเลนเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดี
“แล้วอย่าลืมขอบคุณแฟนที่พาหนูมาส่งที่โรงพยาบาลด้วยล่ะ” พยาบาลเฮเลนอมยิ้มล้อเลียน ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวหน้าเริ่มมีสีสันขึ้นมาเล็กน้อย
“ไม่ใช่แฟนซักหน่อยค่ะ” เซร่าแก้ตัวอุบอิบ
“ฮึฮึ ปากแข็งจริงนะ”
พยาบาลเฮเลนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะจัดแจงเข็นรถที่เซร่านั่งหมุนกลับเพื่อเดินออกจากห้อง
คิมหันต์รีบหลบเข้าไปด้านหลังของประตูห้องที่เปิดออกมา ทำให้ทั้งสองคนไม่เห็นชายหนุ่ม
คิมหันต์รู้สึกอึ้งกับสิ่งที่ได้รับรู้ เขาไม่เคยรู้เลยว่าหญิงสาวเป็นโรคที่ร้ายแรงขนาดนี้
ยัยนั่นเป็นโรคหัวใจเหรอเนี่ย...
เธอมีเวลาเพียง 2 ปีงั้นเหรอ
เหมันต์..รู้เรื่องนี้รึเปล่านะ.....
การแข่งขันกีฬาสีได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สรุปผลการแข่งของกีฬาที่สำคัญ
สีฟ้าได้ถ้วยชนะเลิศกีฬาประเภทบาสเกตบอล และ ไฟน์ดิ้งวอร์ (Finding War) ตามความคาดหมาย ส่วนกีฬาชนิดอื่นได้เพียงที่สองเท่านั้น แต่ก็ทำให้ทุกคนดีใจไม่น้อยกับความสำเร็จที่ได้
ลานกว้างด้านหน้าของอาคารเรียน บรรดานักเรียนช่วยกันเตรียมอุปกรณ์สำหรับงานเต้นรำรอบกองไฟคืนนี้ ซึ่งเป็นประเพณีส่งท้ายของการแข่งกีฬา
ฮิเดกิและเอริโกะต่างมาคอยเซร่าที่ด้านหน้าประตูโรงเรียนด้วยความเป็นห่วง บรรยากาศมึนตึง เนื่องจากทั้งคู่ไม่พูดคุยกัน ยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดมากขึ้น
เหมันต์เป็นห่วงเซร่าเช่นกัน แต่ทว่าเขามีหน้าที่ต้องคอยดูและและจัดการงานเต้นรำให้เสร็จ จึงฝากฝังให้ฮิเดกิช่วยดูแลเซร่าแทนเขา
ฮิเดกิและเอริโกะยืนรออย่างกระวนกระวายเพราะจวนจะได้เวลาเริ่มงานเต้นรำแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นเงาของเซร่าและคิมหันต์
ฮิเดกิรู้สึกเจ็บใจที่เขาไปช่วยเซร่าช้ากว่าคิมหันต์ก้าวหนึ่ง เขานึกโกรธตัวเองที่น่าจะรีบไปดึงตัวเซร่าออกมาตั้งแต่แรก ไม่ควรให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“เซร่า!” เอริโกะร้องเสียงดัง เมื่อเห็นแท็กซี่คันหนึ่งวิ่งมาจอดที่ด้านหน้าของโรงเรียน
“ขอโทษนะ เซร่า ขอโทษๆๆ” เอริโกะวิ่งตรงเข้าไปหาเซร่าและโผเข้ากอดอย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่เป็นไรแล้วน่า เอริโกะ” เซร่าส่งยิ้มซีดเซียวให้
“แต่...ฮึก..”
“ร้องไห้ทำไมล่ะ ฉันก็กลับมาแล้วนี่ไง” เซร่าพยายามแหย่เพื่อนสาว
“หมอว่ายังไงบ้าง” ฮิเดกิกระซิบถามคิมหันต์
“ก็....”
“อาหมอสั่งไม่ให้เซร่าทำแบบนี้อีกใช่มั้ย?”
“นายรู้?” คิมหันต์ย้อนถามกลับ
“ฉันเป็นเพื่อนกับเซร่ามาตั้งแต่เด็กนะ”
“อ้อ..ก็ตามนั้นล่ะ” คิมหันต์ตอบ อารมณ์ยังขุ่นมัว
“ความจริงเซร่าควรต้องนอนพักที่โรงพยาบาลต่อสักหน่อยนะ..” ฮิเดกิเปรย
“ถามเธอสิ ว่าอยากรีบกลับมาทำไม?” คิมหันต์สวนทันควันเสียงเข้ม
คิมหันต์มีสีหน้าบึ้งตึง เขารู้สึกไม่พอใจที่เซร่าต้องการรีบกลับมาโรงเรียนเพื่อร่วมงานเต้นรำ
เพื่อ....เต้นรำกับเหมันต์ พี่ชายของเขา
“ขณะนี้ถึงเวลาสำคัญสำหรับงานประเพณีปีนี้.......”
เสียงประกาศของอาจารย์ใหญ่ บ่งบอกว่างานเต้นรำกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
ทั้ง 4 คน พากันเดินเข้าไปยังลานกว้างด้านหน้าอาคารเรียน ซึ่งขณะนี้มีกองไฟขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ประกายไฟสาดส่องยามค่ำคืนดูสวยงามยิ่งนัก
นักเรียนทั้งโรงเรียนต่างยืนล้อมรอบกองไฟเป็นวงกลม 2 วง ในลักษณะซ้อนกัน เรียงตามชั้นเรียน โดยแบ่งเป็นผู้หญิงและผู้ชายอย่างละวง ยืนเผชิญหน้ากัน
เหมันต์เหลือบไปเห็นเซร่า ก็รู้สึกดีใจที่เห็นเธอปลอดภัย
ทันใดนั้น เสียงเพลงก็กระหึ่มดังขึ้นทั่วโรงเรียน นักเรียนทุกคนก็เริ่มเต้นรำกับคู่ของตน ก่อนที่จะสับเปลี่ยนคู่เต้นไปยังด้านข้างอย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน
เซร่าเต้นรำสับเปลี่ยนจนวนไปถึงเหมันต์ เธอรู้สึกประหม่าและเขินเล็กน้อยที่ได้จับมือและเต้นรำกับชายหนุ่ม ในขณะที่ออยเฟ่ย์ที่เต้นอยู่กับคิมหันต์แอบมองด้วยสายตาไม่พอใจ
เมื่อทั้งคู่สับเปลี่ยนไปเต้นกับคนต่อไป เซร่ารู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเธอกับคิมหันต์กำลังใกล้กันเข้ามาทุกที
........เหลือเพียงอีก 2 คนเท่านั้น ทั้งคู่ก็จะได้จับคู่กัน แต่ทว่าเสียงเพลงกลับหยุดลงเสียก่อน
เซร่าและคิมหันต์เหลือบมองหน้ากันอัตโนมัติ ก่อนที่ทั้งคู่จะเมินหน้าหนีไปทางอื่น
ไม่ได้เต้นกับอีตานั่นก็ดีแล้วล่ะ
เซร่าก้มหน้าและคิดอยู่ในใจ แต่หัวใจของเธอกลับเจ็บแปลบเล็กน้อย
ทันใดนั้น เสียงเพลงก็ดังขึ้นอีกรอบ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจ นักเรียนคนอื่นๆ เริ่มเต้นกับคู่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองอีกรอบ
เพียงเท่านี้ เซร่าก็รู้ว่า ประเพณีการเต้นรำของโรงเรียนมีสองรอบเพื่อให้นักเรียนทุกคนสามารถเต้นร่วมกันได้ครบทั้งโรงเรียน
.......เหลือเพียงอีก 1 คนเท่านั้น
หัวใจของหญิงสาวเต้นถี่ขึ้นอย่างประหลาด เธอรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าการที่ได้เต้นคู่กับเหมันต์เสียอีก
.....และแล้วคิมหันต์กับเซร่าก็ได้จับมือและเต้นรำด้วยกัน เซร่ารู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมหัวใจเต้นถี่แรงขึ้น เธอนิ่วหน้าเล็กน้อย
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
“หืม?”
“ก็เธอทำหน้าเหมือนเจ็บมาก”
“เปล่านี่” เซร่าสั่นศีรษะ
“ฉันรู้ว่าเธอเก่ง แต่อย่าฝืนมากนักล่ะ” คิมหันต์กระซิบบอกเซร่า พร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะส่งตัวเซร่าให้กับคนถัดไป
อีตานั่นกินยาผิดรึไง?
อยู่ๆ มาพูดจาดีด้วย...
เซร่าสลัดหัวเล็กน้อยไล่ความคิดที่ฟุ้งซ่านอยู่ภายในหัว และฝืนยิ้มให้กับคู่เต้นคนถัดไป
