บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10

และแล้วสัปดาห์งานแข่งขันกีฬาสีก็มาถึง นักเรียนทุกคนภายในโรงเรียนต่างสวมเสื้อประจำสีของตน บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ครึกครื้น

นักกีฬาพยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สีของตนได้ถ้วยชนะเลิศ

เซร่ายุ่งกับการเตรียมสิ่งของอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาประจำสีจนหัวหมุน แม้เธอจะรู้สึกเหนื่อย แต่ก็เป็นการดี เพราะจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นให้ฟุ้งซ่าน

การแข่งขันกีฬาต่างๆ ดำเนินไปโดยราบรื่น บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่สีฟ้าของเซร่าคาดหวังว่าต้องชนะ เพราะมีกัปตันทีมคือ คิมหันต์ และเพื่อนสนิทไมเคิลที่เล่นเข้าคู่กันได้ดีลงแข่งด้วย

และเป็นไปตามความคาดหมายเมื่อทีมของสีฟ้าได้เข้ารอบชิงชนะเลิศกับทีมสีเขียว ซึ่งเป็นทีมของเหมันต์

การแข่งขันบาสเกตบอลคู่ชิงชนะเลิศระหว่างสีฟ้าและสีเขียว จึงเป็นที่โจษจันและน่าจับตามองมากที่สุด

เมื่อถึงรอบชิงชนะเลิศ นักเรียนทั้งโรงเรียนต่างพากันมาชมจนแน่นขนัด ทำให้โรงยิมที่มีขนาดใหญ่ ดูเล็กไปถนัดใจ

เสียงเชียร์จากนักเรียนที่อยู่บนสแตนด์ดังกระหึ่ม เพื่อเชียร์สีของตนเอง และมีนักเรียนบางคนแอบเชียร์คนที่ตนเองปลื้ม

เมื่อถึงเวลาการแข่งขัน นักกีฬาบาสเกตบอลของทั้ง 2 ทีม ได้ลงไปประจำที่ขอบสนามเพื่อเตรียมแข่งขัน

ขณะที่คิมหันต์และไมเคิลกำลังประชุมทีมสีฟ้า เซร่าพยายามขอทางแหวกฝูงชน เพื่อนำน้ำและผ้าขนหนูชุบน้ำเข้าไปให้ แต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อเห็นออยเฟ่ย์ยื่นผ้าขนหนูในมือไปซับเหงื่อให้กับคิมหันต์

“มิยาเกะซัง”

“คุณเหม” เซร่าอุทาน

“เป็นสตาฟเหรอ?” เหมันต์ฉีกยิ้มกว้างให้

“ค่ะ” เซร่าก้มหน้ารับคำอย่างเขินอาย รอยยิ้มของเหมันต์ทำให้เธออดใจเต้นไม่ได้

“ผ้าขนหนูของฉันสินะ” เหมันต์ยิ้มพร้อมกับจับมือของเซร่าที่ถือผ้าขนหนูซับเหงื่อไปที่ใบหน้าของตนเอง

“อ๊ะ...” ออยเฟ่ย์หันมาเห็น หน้าถอดสี

“อะไรรึ?” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยกันแปลกใจ หันไปมองตาม เขารู้สึกอึ้งไป เมื่อเห็นความสนิทสนมของทั้งคู่

“ถึงเราจะอยู่คนละสี แต่เธอต้องเชียร์ฉันนะ” เหมันต์ยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูของเซร่า

หญิงสาวหน้าแดงกับเสียงนุ่มลึกและลมหายใจที่เป่ารดหู เธอรีบพยักหน้าก่อนจะถอยห่างออกมาด้วยความเขิน ส่งผลให้ชายหนุ่มอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“สนิทกันมากเกินไปแล้วมั้ง...” คิมหันต์พึมพำด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ห๊ะ? อะไรนะ?” ออยเฟ่ย์ไม่ได้ยินจึงหันมาถาม

“ไม่มีอะไร” คิมหันต์รีบปฏิเสธ

“อย่าลืมเชียร์ฉันล่ะ” คิมหันต์ยิ้มกรุ้มกริ่ม

“รู้แล้วน่ะ” ออยเฟ่ย์ยิ้มให้ก่อนจะผลักให้ชายหนุ่มเดินลงไปในสนาม

ปรี๊ด!!!

เสียงเป่านกหวีดของกรรมการ เพื่อเรียกให้นักกีฬาของทั้งสองทีมลงสนามทำการแข่งขันบาสเกตบอลรอบชิงชนะเลิศ

เซร่ากลับไปนั่งที่เก้าอี้ของสีตนเอง แม้เหมันต์จะบอกให้เธอเชียร์เขา แต่ในใจเธอกลับเชียร์ให้คิมหันต์เป็นผู้ชนะมากกว่า เช่นเดียวกับออยเฟ่ย์ ที่แอบเชียร์เหมันต์ในใจ

การแข่งขันบาสเกตบอลเป็นไปอย่างดุเดือดและสูสี ทีมสีฟ้านำไปก่อนในครึ่งเวลาแรก แต่ทีมสีเขียวก็ไม่ยอมแพ้ไล่ตามมาจนแต้มทันกันในช่วงนาทีสุดท้าย

เหมันต์รู้ว่าคิมหันต์เล่นบาสเก่ง แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะเก่งมากขนาดนี้ ทีมของเขาทำคะแนนไล่ตามอย่างทุลักทุเล

แต่เหมันต์ก็ไม่ยอมแพ้ อย่างน้อยเขาก็อยากให้ทุกคนรู้ว่า คนอย่างเขาไม่ใช่เก่งแค่เรียนหนังสือเท่านั้น

คิมหันต์รู้สึกอึ้งเมื่อเห็นฝีมือบาสเกตบอลของพี่ชาย เหมันต์มีทักษะและทริคในการเล่นบาสไม่แพ้เขาเลย

แต่ว่า..เขาจะแพ้เกมส์นี้ไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาเอาไว้ว่า เขาเหนือกว่าเหมันต์

ช่วงห้านาทีสุดท้ายสีเขียวไล่ตามสีฟ้ามาจนแต้มเท่ากัน นักกีฬาทั้ง สองทีมอยู่ในอาการเหนื่อยล้า เนื่องจากขับเคี่ยวกันมานาน

คิมหันต์ตัดสินใจเลี้ยงลูกเข้าไปใต้แป้นบาส เหมันต์ตรงเข้าสกัดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกันอย่างจัง

ปรี๊ด!!!!!

“คิม!”

“เหม!”

ออยเฟ่ย์และเซร่าอุทานออกมาพร้อมกัน และจะวิ่งเข้าไปในสนามเพื่อไปหาคนที่ตนเรียกชื่อ

แต่ทั้งคู่ก็ต้องชะงัก และหันไปมองหน้ากันด้วยความรู้สึกอย่างกระอักกระอ่วน เมื่อนึกขึ้นได้ว่า คนที่ตนเรียกชื่อนั้นไม่ใช่คนที่ตนควรเป็นห่วง

เพื่อนในทีมต่างช่วยกันพาคิมหันต์และเหมันต์ออกไปทำแผลนอกสนามพร้อมกับเปลี่ยนตัวผู้เล่น

“โอ๊ย! เบาๆ สิ” คิมหันต์ร้อง

“อยากซ่าทำไมล่ะ” เซร่าบ่นอย่างฉุนเฉียว พร้อมกับเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์จิ้มเข้าไปที่แผลถลอก

“โอย..หนักมือไปมั้ย?” คิมหันต์บ่นอุบอิบ

“เปล่านี่”

เซร่าไม่สนใจเสียงของชายหนุ่ม รีบทำแผลให้จนเสร็จเรียบร้อย

“เธอว่า ฉันจะชนะเหมันต์มั้ย?” คิมหันต์ดึงมือเซร่าเอาไว้พร้อมกับถามด้วยสีหน้าจริงจัง

“นายชนะแน่นอน” เซร่านิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“ขอบคุณ” คิมหันต์ฉีกยิ้มกว้าง และรีบเปลี่ยนตัววิ่งลงสนามบาสฯ ขณะที่เหลือเวลาจากการทดเวลาบาดเจ็บเพียง 2 นาที

คิมหันต์เหลือบมองดูเวลาและคะแนนที่ตอนนี้ทีมสีเขียวนำอยู่ 2 คะแนน

ไมเคิลแย่งลูกจากทีมสีเขียวได้ และส่งลูกสุดท้ายให้กับคิมหันต์ ชายหนุ่มตัดสินใจเลี้ยงลูกฝ่าฝ่ายตรงข้ามตรงเข้าไปยังแป้นบาส

ชายหนุ่มเหลือบมองเวลาที่เหลือเพียง 45 วินาที ขณะที่เหมันต์ดักอยู่ตรงหน้าของเขา คิมหันต์ตัดสินใจเอี้ยวตัวหลบการชาร์จของเหมันต์พร้อมกับกระโดดหมุนตัวลอยกลางอากาศ และชู้ตลูกจากเส้น 3 คะแนนที่อยู่รอบนอกทันที

ผู้ชมในโรงยิม รวมไปถึงเซร่าและออยเฟ่ย์พากันกลั้นหายใจลุ้นตัวโก่ง เสียงลูกบาสลอดลงห่วงดังสวบลั่นสนามพร้อมกับกรรมการเป่าสัญญาณนกหวีดเป็นการหมดเวลาแข่งพอดี

“เฮ! ชนะแล้ว”

“กรี๊ดดดด”

เสียงเฮของทีมสีฟ้าดังลั่นโรงยิม เซร่ากระโดดดีใจจนตัวลอย บรรดาสตาฟกระโดดกอดกันด้วยความดีใจ

“นายบ้ามากเลย” ไมเคิลเดินมาฉุดคิมหันต์ให้ลุกขึ้นหลังจากที่เขาล้มลงบนพื้นหลังจากที่ชู้ตลูกนอกเขตโทษ

“แล้วไงล่ะ?” คิมหันต์ยักคิ้วกวนๆ

ไมเคิลส่ายหน้า ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้กับชายหนุ่มในความบ้าระห่ำของเขา พร้อมกับกอดคอกันหัวเราะออกมาด้วยความดีใจ

“คิม!”

“เอ้ย..”

เซร่าโผเข้ากอดคิมหันต์อย่างลืมตัวด้วยความดีใจ ชายหนุ่มรับร่างบางของเธอเกือบไม่ทัน

“ฉันบอกแล้ว ว่านายต้องชนะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาอย่างสดใส

“มันแน่อยู่แล้ว” ชายหนุ่มยักไหล่กวนๆ

“แหม..ตอนนี้ทำเป็นมั่นใจ” เซร่าอดที่จะเหน็บไม่ได้

“หึ” ชายหนุ่มทำเสียงในลำคอ ก่อนจะส่งยิ้มให้

ก่อนที่ทั้งคู่จะได้พูดคุยกันมากไปกว่านี้ นักกีฬาทั้งทีมตรงเข้ามาแสดงความดีใจด้วยจนแน่นไปหมด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel