บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9

คิมหันต์รู้สึกผิดต่อการกระทำของตัวเองเป็นอย่างมาก ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเซร่าที่ดูเหมือนจะดีขึ้นกลับต้องพังลง

ชายหนุ่มรู้ดีว่า แม้หญิงสาวจะยอมร่วมทำกิจกรรมที่หัวหน้าชั้นเรียนมอบหมายให้หลังเลิกเรียนทุกวัน แต่เธอก็มีท่าทางหมางเมินและเย็นชา พูดจากับเขาก็เพียงเรื่องงานเท่านั้น

ชายหนุ่มเอง ปกติก็ไม่ค่อยได้พูดจากับใครสักเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อหญิงสาวไม่พูดด้วย เขาก็ไม่คิดที่จะเริ่มต้นการสนทนา

แม้ว่าใจจริงเขาอยากจะขอโทษเธอก็ตาม

งานกีฬาสีของโรงเรียนใกล้เข้ามาทุกที นักเรียนทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะทำให้สีของตนเองชนะเลิศในการแข่งขันปีนี้

บรรยากาศภายในโรงเรียนจึงเต็มไปด้วยความคึกคัก ทุกคนพร้อมใจกันร่วมทำงานเพื่อให้กีฬาสีผ่านพ้นไปด้วยดี

การจัดงานกีฬาสีครั้งนี้เหมันต์ต้องทำงานหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่า เพราะเขาเป็นประธานนักเรียน และยังเป็นประธานสีอีกด้วย แถมวันเสาร์ชายหนุ่มต้องเข้าไปช่วยงานพ่อของเขาที่บริษัท นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเหนื่อยหนักมากยิ่งขึ้น

ดูเหมือนเหมันต์เข้าใจสถานการณ์ภายในบริษัทได้เป็นอย่างดี สิ่งที่พ่อบอกเกี่ยวกับรองประธานกรรมการบริษัท ทำให้เขารู้ว่า คาร์ลอสเป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้ใจ

แต่เนื่องจากต้องทำงานร่วมกัน ทั้งหมดจำใจต้องสวมหน้ากากยิ้มแย้มเข้าหากัน แต่ลับหลังคาร์ลอสพร้อมจะหักหลังได้ทุกเมื่อ

เหมันต์ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า

“เป็นอะไรคะคุณเหม?” เซร่าเอียงคอมองชายหนุ่มตาแป๋ว

“ไม่มีอะไรน่ะ” เหมันต์ปฏิเสธ

“จริงนะคะ?” เซร่าจ้องเขม็ง

“เอ๊ะ ยัยคนนี้ ประธานฯ บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ” ฮิเดกิทำเสียงดุใส่

“อะไร? มีปัญหารึไง?” เซร่าหันขวับเปลี่ยนเป้าหมายไปยังเพื่อนสมัยเด็กทันที

เหมันต์อดที่จะอมยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้ เมื่อเห็นหญิงสาวทะเลาะกับฮิเดกิราวกับเด็กๆ

ก็คงมีเพียงมิยาเกะซังเท่านั้น ที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ

สำหรับเธอ เราก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง

ถ้าเทียบกับออยเฟ่ย์แล้วช่าง.....ต่างกันลิบลับ

เฮ้อ..นี่เราจะนึกถึงออยเฟ่ย์ทำไมอีกนะ

เหมันต์ลอบถอนหายใจออกมาอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองออยเฟ่ย์ที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่กับคิมหันต์ด้วยท่าทางมีความสุข

คิม...คงทำให้เธอมีความสุขได้มากกว่าเราสินะ

เซร่าลอบสังเกตชายหนุ่ม เธอรู้ว่าเขายังตัดใจจากออยเฟ่ย์ไม่ได้ แต่เขาเลือกที่จะเสียสละให้กับน้องชายของเขา

เมื่อนึกถึงคิมหันต์ เซร่าก็เผลอกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างเจ็บใจ

หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ชายหนุ่มก็ทำตัวห่างเหินและเย็นชาใส่ ไม่คิดจะสนใจหรือขอโทษในสิ่งที่เขาทำลงไป

ตัวเธอเองก็ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมากนัก เธอรู้ดีว่าชายหนุ่มจูบเธอเป็นเพราะความโกรธ

มันเป็นการแก้แค้นที่ชายหนุ่มต้องการทำให้เธอเจ็บใจ เสียใจและอับอายเหมือนที่ออยเฟ่ย์ได้รับ

หึ คงสาแก่ใจเขาแล้วสินะ

มาจูบเรา และทำเย็นชาใส่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เซร่านิ่งคิดด้วยความแค้นใจ

ฮิเดกิลอบสังเกตอาการของเซร่าและเหมันต์เงียบๆ ชายหนุ่มรับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากเซร่า ภาพเหตุการณ์เมื่อวานตอนเย็นยังปรากฏชัดเจนในความทรงจำ

“ฮิเดกิ คุณเหมมาขอคบกับฉันน่ะ”

“ประธานฯ ขอคบกับเธอ?” ฮิเดกิทวนเสียงสูง

“......” เซร่าพยักหน้ารับ

“แล้วเธอว่าไง?”

“ฉัน....ฉันตอบตกลงไปแล้วน่ะ” เซร่าทำเสียงละห้อย

“........”

“พูดอะไรบ้างสิ”

“ก็ดีแล้วนี่ ประธานฯ เป็นคนเก่ง อนาคตไกล ป๊อปปูล่าอีกต่างหาก”

“เธอคิดแบบนั้นเหรอ?”

“อื้ม ว่าแต่ได้คบกับคนที่ป๊อปปูล่าที่สุดในโรงเรียน ทำไมทำหน้ายังกับจะตายแบบนั้น” ฮิเดกิข่มความเสียใจเอาไว้ ก่อนจะฝืนยิ้มล้อเลียน

เหตุผลสำคัญที่ฮิเดกิยอมรับเหมันต์ เพราะว่าเหมันต์ได้รับปากกับเขาว่า จะดูแลเซร่าเป็นอย่างดี เขาจึงเลือกจะตัดใจจากหญิงสาวที่เขารัก

เอริโกะเฝ้ามองฮิเดกิด้วยความน้อยใจ หลังจากที่เธอรู้ว่าเซร่ากับเหมันต์ตกลงคบกัน เธอรู้สึกยินดีและดีใจเป็นอย่างยิ่ง

และที่สำคัญก็คือ ฮิเดกิ ชายหนุ่มที่เธอแอบมีใจให้ อาจจะหันกลับมาสนใจเธอบ้างก็ได้

ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งฮิเดกิและเหมันต์พากันเอาใจใส่ เซร่ามากยิ่งขึ้น ทำให้เธอรู้สึกหึงหวงและอิจฉาริษยาเซร่ามากยิ่งนัก

เอริโกะพยายามข่มความรู้สึกเอาไว้ เพราะเซร่าเป็นเพื่อนสนิท เธอไม่อยากจะเสียเพื่อนเพียงเพราะเรื่องผู้ชาย

แต่...ดูเหมือนว่าความอดทนของเธอใกล้จะถึงขีดสุดแล้ว

หลังเลิกการทำกิจกรรมในทุกวัน เหมันต์ เซร่า ฮิเดกิ และเอริโกะจะกลับบ้านพร้อมกันเสมอ แต่จะแยกจากกันเมื่อมาถึงครึ่งทาง

ฮิเดกิต้องไปส่งเอริโกะที่บ้าน ส่วนเหมันต์รับหน้าที่ไปส่งเซร่าที่สถานทูต

สองสามวันที่ผ่านมานี้เหมันต์รู้สึกเหมือนมีคนคอยติดตามดูพวกเขาอยู่ แต่ว่าเขาไม่สามารถเห็นตัวบุคคลนั้นได้ ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ภายในใจด้วยความแปลกใจ

“มีอะไรหรือคะ?” เซร่าถามขึ้นวันหนึ่ง หลังจากเห็นชายหนุ่มเหลือบมองไปทางซ้ายและขวาบ่อยครั้งจนผิดปกติ

“อืม..ไม่รู้สิ หมู่นี้ฉันรู้สึกว่า เหมือนมีคนคอยแอบตามอยู่ตลอดเวลา”

“มีคนตามเหรอคะ?”

“ฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้” เหมันต์ส่งยิ้ม ไม่อยากให้เซร่าเป็นกังวล

“งั้น...เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่งคุณเหมที่บ้านทุกวันดีกว่านะคะ”

“ไม่ต้องหรอก ฉันเกรงใจน่ะ”

“แหม...คุณเหมก็มาส่งฉันทุกวันอยู่แล้วนี่คะ” หญิงสาวทำแก้มป่อง เมื่อเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ

“ฮึฮึ โอเค ตามใจเธอแล้วกัน” เหมันต์หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะยอมแพ้ให้เซร่าทำตามที่ต้องการ

ปัง!!!!

ชายวัยกลางคนฟาดแฟ้มเอกสารที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง เขารู้สึกหงุดหงิด และไม่พอใจกับสิ่งที่ได้รับรู้

“นี่มันอะไรกัน!! ฉันบอกให้จับตัวมันไปเรียกค่าไถ่ แล้วฆ่าทิ้งซะ แล้วทำไมแกถึงถ่ายแต่รูปคู่รักเต็มไปหมดแบบนี้วะ!!!”

ชายวัยกลางคนตะคอกใส่คนสนิทด้วยความโกรธ

“ต้องขอประทานโทษเป็นอย่างยิ่งครับท่าน” คนสนิทของเขาค้อมศีรษะขอโทษด้วยสีหน้าเจื่อน

“จับตัวมันไปเรียกค่าไถ่ มันยากตรงไหนวะ!”

ชายวัยกลางคนตวาดซ้ำด้วยความโกรธ เนื่องจากไม่สามารถสงบอารมณ์ที่คุกรุ่นลงได้

“ตอนเช้าเขาไปโรงเรียนด้วยรถที่บ้าน ตอนเย็นก็กลับพร้อมเพื่อนๆ ก่อนจะแยกไปส่งแฟนสาว หลังจากนั้นเขาก็กลับบ้านด้วยรถของที่บ้านแฟนเขาครับ”

“ไม่มีโอกาสลักพาตัวได้เลยครับเจ้านาย” คนสนิทของเขารีบรายงานให้ทราบทันทีโดยไม่ต้องสั่งซ้ำ

“ก็จับแฟนมันมาด้วยเลยสิ!!” ชายวัยกลางคนตะคอกใส่เสียงดัง

“แต่..แฟนเขาเป็นลูกสาวท่านทูต ผมเกรงว่า การจับตัวแฟนเขามาด้วย จะทำให้งานของเราไม่สะดวกน่ะครับ” คนสนิทรีบแย้งทันที

“ลูกสาวท่านทูต.....” ชายวัยกลางคนพึมพำอย่างใช้ความคิด

เขาเดินไปยังหน้าต่าง มองลงไปยังถนนเบื้องล่างที่เต็มไปด้วยรถยนต์แล่นขวักไขว่อย่างใช้ความคิด

“บอก ‘ชาร์ล’ ว่าฉันต้องการให้ช่วย” ในที่สุดเขาก็เอ่ยออกมา

คนสนิทค้อมศีรษะรับ และรีบเดินออกจากห้องไปทันที

ชายวัยกลางคนมองลงไปเบื้องล่างด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม

“ชาร์ล” เท่านั้น ที่จะทำงานนี้ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel