ตอนที่ 9
“ใครรึ?”
“ก็น้องชายของประธานนักเรียนสุดหล่อยังไงกันคะ”
เอริโกะเฉลยให้ฮิเดกิฟังก่อนจะกลั้นยิ้มกับท่าทางที่ฮึดฮัดของเซร่า
“อ๋อ!! คิมหันต์น่ะรึ หึหึ คนนั้นน่ะ คงต้องเว้นไว้ซักคนล่ะนะ”
ฮิเดกิหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อรู้ว่าคนที่ทำให้หญิงสาวโมโหอย่างมากคือใคร
“ทำไม?” เซร่าหันขวับมามองฮิเดกิแววตาคาดคั้น
“ก็หมอนั่นน่ะ อารมณ์ค่อนข้างแปรปรวน ไม่ค่อยมีใครเข้าหน้าติดหรอก เสียดายที่เป็นถึงน้องของประธานนักเรียนนะ”
“แล้วไง? เป็นน้องชายประธานนักเรียนแล้วแตะต้องไม่ได้รึ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น......... เพียงแต่ว่าหมอนี่น่ะ เป็นคนที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับใคร อารมณ์เสียบ่อย แต่คนที่ทำให้หมอเนี่ยอารมณ์ดีได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นล่ะ”
“ใครล่ะ?”
“ก็ดาวของโรงเรียนยังไงเล่า!!”
ฮิเดกิยักคิ้วก่อนจะตอบคำถามของเซร่า เพราะเขารู้ว่าเซร่าคงไม่รู้จักอยู่ดี หญิงสาวหรี่ตาใช้ความคิดอย่างหนัก เพราะในโรงเรียนนี้เธอไม่ค่อยรู้จักใครนอกจากเอริโกะกับฮิเดกิ ทำให้เธอนึกหน้าของดาวโรงเรียนไม่ออก
“เอ้า! คิ้วจะชนกันอยู่แล้ว”
“เอ้า! นั่นไง ถ้าอยากรู้ว่าดาวโรงเรียนคือใคร ก็คนนั้นล่ะ ที่ยืนอยู่ข้างๆ นายคิมหันต์ต่อแถวซื้อข้าวตรงโน้นน่ะ”
ฮิเดกิบุ้ยใบ้ให้เซร่าหันไปมองดูทางคิมหันต์ที่กำลังต่อแถวซื้ออาหารอยู่
เซร่าหันไปมอง ก็พบคิมหันต์ยืนอยู่กับหญิงสาวผมยาวสวยคนหนึ่ง และข้างๆ มีผู้ชายสูงโปร่งคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย
เซร่าเห็นคิมหันต์พูดคุยกับหญิงสาวคนนั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ เพราะตลอดเวลาที่เธอเห็นเขาในคาบเรียน หน้าตาของคิมหันต์จะเคร่งเครียดตลอดเวลา ไม่มีการพูดคุยหรือส่งยิ้มให้กับใครๆ ทั้งสิ้น
เอ..แปลกแฮะนายบ้องตื้นนี่ ทำหน้ายิ้มก็เป็น
แล้วไหงชอบทำแต่หน้าดุฟะ
เซร่าคิดอยู่ในใจ ก่อนจะหันกลับมาสนใจอาหารตรงหน้าต่อ ไม่หันกลับไปมองทางคิมหันต์อีกเลย
“เออนี่ เซร่า เดี๋ยวเลิกเรียนฉันจะรอหน้าประตูโรงเรียนนะ จะได้ไปส่งที่บ้าน พ่อกับแม่ของเธอหายห่วงน่ะ”
“คงเย็นหน่อยนะ เพราะฉันโดนทำโทษให้ไปทำความสะอาดห้องวิทยาศาสตร์ที่ตึก C น่ะ” เซร่าตอบด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“ทำไมล่ะ?”
“อย่าถามได้มะ? ยิ่งพูดยิ่งโมโห”
เซร่านึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า หน้าตาเธอก็บูดบึ้งขึ้นมาอัตโนมัติ เอริโกะแอบกลั้นหัวเราะคิกคักเอาไว้ โดยไม่สนใจสายตาของเซร่าที่เหลือบมองมา
“คืองี้ค่ะ....แฮ่ม...เซร่าน่ะ เขาไปทะเลาะกับคิมหันต์เข้า แล้วทั้งคู่ก็ดันตวาดอาจารย์ซะเสียงดังลั่นห้อง อาจารย์ก็เลยทำโทษทั้งคู่เลยนะค่ะ คิกคิก...อุ๊ย!”
เอริโกะกลั้นหัวเราะไม่อยู่จึงปล่อยหัวเราะออกมาก่อนจะรีบเอามือปิดปากตัวเองเมื่อเห็นเซร่ามองตาเขียว
“อืม...งั้นหรือ?”
ฮิเดกิมีสีหน้ายุ่งยากใจ เมื่อรู้ว่าเซร่าต้องทำความสะอาดห้องวิทยาศาสตร์กับคิมหันต์ 2 คนเท่านั้น
“ตอนเย็นฉันมีประชุมซะด้วย เอ.....เอางี้ละกัน เดี๋ยวฉันไปรับที่ห้องวิทยาศาสตร์เลยละกัน ตกลงมั้ย?”
“อืม..ก็ดีเหมือนกัน ขืนอยู่กับนายบ้องตื้นนั่นนานๆ ฉันคงบ้องตื้นตามเขาแน่”
เซร่าพยักหน้าตอบตกลงก่อนจะบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ โดยมีเอริโกะกลั้นยิ้มกับท่าทางของเธอ ส่วนฮิเดกิมองไปทางคิมหันต์อย่างหนักใจ
หลังเลิกเรียนตอนเย็น เซร่ากับคิมหันต์ต่างพากันไปยังห้องพักอาจารย์ เนื่องจากอาจารย์คลอเดียได้สั่งเอาไว้
ทั้งคู่ต่างคนต่างเดินไปด้วยกัน แต่ไม่มองหน้ากันซักนิด คิมหันต์นั้นหน้าตาเรียบเฉย ส่วนเซร่าหน้าตาบูดบึ้งไม่พอใจ เพราะหญิงสาวมีความรู้สึกว่าไม่อยากจะอยู่ใกล้กับเขาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อถึงห้องพักอาจารย์ ก็พบว่ายังคงมีนักเรียนบางกลุ่มอยู่ภายในห้อง เซร่ากับคิมหันต์เดินตรงไปหาอาจารย์คลอเดียซึ่งกำลัง นั่งง่วนอยู่กับการตรวจแบบฝึกหัดของนักเรียนที่ทำส่งมา
“อาจารย์คะ/ครับ”
“มาช้าจริงนะ พวกเธอนี่”
อาจารย์คลอเดียเงยหน้าจากกองแบบฝึกหัด สายตาเฉียบคมมองลอดผ่านแว่นกรอบทองของเธอ
“อุปกรณ์วิทยาศาสตร์อยู่ตรงมุมโน่น ฝากไปเก็บด้วย”
อาจารย์คลอเดียบอกทั้งคู่พร้อมกับชี้มือไปยังกองอุปกรณ์วิทยาศาสตร์มากมายที่ตั้งอยู่มุมห้องพัก
เซร่ากับคิมหันต์มองตามที่อาจารย์ชี้มือไป หญิงสาวนั้นหน้าเสียเพราะว่าอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะ และดูเหมือนจะหนักเกินกว่ากำลังของเธอจะยกไปได้
“รีบๆ ไปทำซะจะได้เสร็จไวๆ” อาจารย์คลอเดียสั่งเซร่ากับคิมหันต์ก่อนจะก้มลงตรวจงานแบบฝึกหัดต่อไป
คิมหันต์ตรงเข้าไปยกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์บางส่วนขึ้นมา ส่วนเซร่านั้นสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเดินเข้าไปหยิบแผนผังที่ใช้สำหรับการเรียนการสอน และกล้องจุลทรรศน์ซึ่งมีขนาดใหญ่และค่อนข้างหนัก
คิมหันต์นั้นเดินถืออุปกรณ์วิทยาศาสตร์ออกจากห้องไปแบบตัวปลิว ส่วนเซร่าได้แต่ถือของเดินตามออกไปด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ
คิมหันต์เดินนำเซร่าออกไปค่อนข้างห่าง หญิงสาวเดินตามไปอย่างเชื่องช้า เนื่องจากของที่อยู่ในมือค่อนข้างหนักพอสมควร พร้อมกับทำหน้ามุ่ย เพราะเซร่ากำลังคิดว่าคงไม่มีทางถือเดินไปถึงห้องวิทยาศาสตร์แน่
คิมหันต์ที่กำลังเดินนำอยู่นั้น หยุดเดินและหันกลับไปมองเซร่า เพราะเห็นว่าเธอเดินค่อนข้างช้าเกินไป ก็เห็นเซร่ากำลังถือของอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินกลับไปหา
“เอามานี่! เธอน่ะถือแค่แผนผังไปละกัน”
คิมหันต์ตรงเข้าดึงกล้องจุลทรรศน์ที่เซร่ากำลังถืออยู่อย่างรวดเร็ว โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับเดินนำต่อไปอย่างรวดเร็ว โดยมีหญิงสาวมองตามอย่างประหลาดใจ
อีตานี่ ก็มีน้ำใจเหมือนกันแฮะ....
เซร่าครุ่นคิดในใจก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าเดินตามคิมหันต์ไปให้ทัน เพราะเธอยังไม่ค่อยรู้จักตึกเรียนของที่นี่ดีมากนัก
เซร่าเดินตามคิมหันต์ไปยังห้องวิทยาศาสตร์ซึ่งอยู่ทางด้านปีกตะวันออกของตึก
ขณะที่เดินผ่านนักเรียนที่อยู่ภายในตึก ทุกคนต่างพากันมองเซร่าอย่างแปลกใจปนสงสัย ทำให้หญิงสาวค่อนข้างหงุดหงิดอย่างมาก เพราะเธอไม่เข้าใจถึงความหมายของสายตาในแต่ละคู่ที่จ้องมองเธอ
ส่วนคิมหันต์นั้นสีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจนักเรียนที่เดินผ่านเขาไปเลยซักนิด หากแต่สายตาของเขากลับจับจ้องตรงไปยังห้อง 4 B ซึ่งเป็นห้องเรียนของออยเฟ่ย์และเหมันต์ และอยู่ไม่ไกลจากห้องวิทยาศาสตร์
เมื่อเดินผ่านห้อง 4 B คิมหันต์เหลือบสายตามองเข้าไปในห้องเพื่อมองหาออยเฟ่ย์ แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของเธอ ทำให้เขามีสีหน้าผิดหวังก่อนจะปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว และเดินตรงเข้าห้องวิทยาศาสตร์ไป
เซร่าซึ่งเดินตามมาด้านหลังเห็นคิมหันต์มองเข้าไปในห้อง 4 B เธอจึงมองเข้าไปดูบ้างอย่างสงสัย ว่าคิมหันต์นั้นมองเข้าไปทำไม
ไม่เห็นจะมีอะไรเลย.........แล้วตาบ้องตื้นนั่นมองอะไรนะ
เซร่าครุ่นคิดอย่างแปลกใจก่อนจะรีบเดินตามคิมหันต์เข้าไปในห้องวิทยาศาสตร์ เพื่อนำแผนผังเก็บไว้ในห้อง
ภายในห้องวิทยาศาสตร์เต็มไปด้วยอุปกรณ์มากมาย เซร่ากับคิมหันต์เมื่อนำอุปกรณ์เก็บเข้าที่หมดแล้ว ต่างคนต่างก็หยิบไม้กวาดจากตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดภายในห้อง และแยกย้ายกันกวาดคนละที่ เพื่อทำความสะอาดพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่น
เซร่านั้นพยายามเดินหลีกเลี่ยงฝุ่นที่ฟุ้งขึ้นมาเวลาไม้กวาดกวาดไปกระทบ เมื่อกวาดห้องเสร็จคิมหันต์นั้นตรงเข้าหยิบไม้ถูพื้นซึ่งมีอยู่อันเดียวก่อนเซร่า และเหลือเพียงผ้าขี้ริ้วสำหรับเช็ดโต๊ะเอาไว้ให้
หญิงสาวมองดูชายหนุ่มที่กำลังถูพื้นอยู่อย่างอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าคนอย่างคิมหันต์จะมีน้ำใจแบบนี้
“นี่นาย! พูดอะไรมั่งสิ”
“จะให้พูดอะไรล่ะ?”
คิมหันต์ย้อนถามกลับเสียงเรียบ แต่มือก็ยังคงถูพื้นด้วยไม้ม็อบต่อไปเรื่อยๆ
“อะไรก็ได้น่ะ” เซร่าเริ่มเสียงขุ่น เมื่อเห็นคิมหันต์พูดจายอกย้อน
“อะไรก็ได้ของเธอน่ะ มันคืออะไรล่ะ?”
คิมหันต์ยังคงย้อนถามกลับอย่างไม่สนใจ เซร่าเม้มปากแน่นอย่างไม่พอใจ เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนจะไร้มนุษยสัมพันธ์มากขนาดนี้มาก่อน
“อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับโรงเรียนนี้น่ะ”
“ฉันไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาเล่าเรื่องภายในโรงเรียนให้เธอฟัง ถ้าอยากรู้ก็ไปถามเพื่อนของเธอเอาเอง”
คิมหันต์ซึ่งถูพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนำไม้ถูพื้นไปซักทำความสะอาดและเดินเอาไปเก็บไว้ในตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด
เซร่ารู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของคิมหันต์ เธอเดินถือผ้าขี้ริ้วตรงเข้าไปยืนด้านหลังของชายหนุ่มที่กำลังจัดเก็บไม้ถูพื้นให้เข้าที่อยู่ภายในตู้
“นี่นาย.............”
