บทที่ 3
ในระหว่างพักเกิดความเข้าใจผิดระหว่างจูเซปเป้กับแขกสาวชาวไทยที่เข้าพักที่โรงแรม เป็นเหตุให้พี่ชายสุดที่รักถูกสาวเจ้าที่เพิ่งเห็นหน้าเป็นครั้งแรก ฝากรอยไว้ด้วยกำปั้นหมัดหนักเข้าให้ที่เบ้าตา และเกือบเป็นเรื่องราวใหญ่โตดีที่จูเซปเป้จัดการอธิบายความจริงจนแม่สาวคนนั้นยอมเลิกรา
แต่นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ย้ำความกังวลใจของมารดามากขึ้นไปอีกว่า ลูกๆ ทุกคนของนางกำลังมีเคราะห์ และจะผ่านเคราะห์นี้ไปได้ด้วยการแต่งงานเพียงเท่านั้น
อัลเฟรโด้รู้ดีว่ามารดาเคารพพระภิกษุนามว่าหลวงตาคงมากแค่ไหน ทุกคนในครอบครัวล้วนเคยพบและประสบมาด้วยตนเองกับคำทำนายที่ขอเรียกว่า ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันออกจะสร้างความลำบากใจให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
"อัลจ้ะ ถือว่าแม่ขอร้องได้ไหม ทำเพื่อแม่สักครั้งได้ไหมลูก" อนงค์รัตน์ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของบุตรชาย แล้วเอ่ยต่อไปว่า
"แม่รักลูกทุกคนยิ่งกว่าชีวิต แม่คงอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งเกิดเรื่องร้าย อัลเชื่อแม่สักครั้งได้ไหม เห็นแก่แม่คนนี้แม่ที่ไม่อาจทนเห็นลูกของตนต้องพบเคราะห์ร้าย แม่ไม่อยากเห็นใครต้อง..." น้ำเสียงมารดาสั่นเครือเล็กน้อย จนอัลเฟรโด้ต้องรีบเอื้อมมือมากุมมือของนางไว้เพื่อปลอบประโลมใจ
"แม่ครับ" อัลเฟรโด้พูดไม่ออก ยิ่งเห็นมารดาน้ำตาคลอเบ้าสีหน้าซีดเซียวแสดงให้เห็นว่าไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ความทุกข์ของแม่ที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาทุกข์ใจไม่แพ้กัน
"แม่ทำใจให้สบายดีกว่า ยิ้มหวานๆ ให้ผมดูหน่อยนะครับ" ลูกชายสุดหล่อส่งเสียงออดอ้อน
"แม่ยิ้มไม่ออกจ้ะ" นางอนงค์รัตน์ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมาดังๆ ด้วยความกลัดกลุ้ม
"ทำเพื่อแม่ไม่ได้สักครั้งเหรอ อัล"
"แม่ครับ เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะครับ อีกอย่างตอนนี้ผมไม่ได้คบใครเป็นจริงเป็นจริงทั้งนั้น แล้วถ้าพูดเรื่องแต่งงานมันก็คงเป็นไปไม่ได้" ท่านประธานหนุ่มตัดสินใจพูดตามความจริง
ใครๆ ก็รู้ว่าอัลเฟรโด้หวงความโสดแค่ไหน ในบรรดาพี่น้องของตระกูลรอสเซลลินี เขานี่แหล่ะที่เป็นข่าวเรื่องผู้หญิงน้อยที่สุด หรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้จนครั้งหนึ่งเคยเกือบทำให้พี่ชายคนโตต้องพิสูจน์แล้วว่า น้องชายสุดที่รักเป็นอะไรกันแน่
ผู้หญิงสวยใครจะไม่ชอบ สเปคเนื้อนมไข่อวบอิ่มอึ๋มอั๋นแบบนั้นเป็นใครก็ต้องอยากเข้าใกล้ แต่เขาอาจจะแตกต่างจากพี่น้องคนอื่น ตรงที่ผู้หญิงที่จะเข้าหาหรือขึ้นเตียงมีความสุขด้วยจะต้องรับกฏเหล็กข้อหนึ่งให้ได้ นั่นก็คือ ไม่เรียกอย่ามาให้เห็น ไม่จำเป็นไม่ต้องมาหา คิดถึงจะให้คนพามา และคงต้องบอกลาเมื่อล้ำเส้นกัน นี่ต่างหากคือเหตุผลที่ว่า ทำไมถึงไม่มีข่าวเรื่องผู้หญิงมากเหมือนคนอื่น
"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง แม่รู้ว่าอัลเฟรโด้ของแม่เป็นคนอย่างไร ถ้ารอให้ลูกเจอเองแม่ว่ามันอาจจะไม่ทันเวลา แต่ถ้าเป็นคนที่รู้จักกันมาบ้างแล้วและปรับตัวเข้ากันอีกสักนิด แม่เชื่อว่าลูกชายแม่จะต้องมีความสุขมากๆ แน่" นางหมายถึงผู้หญิงที่ตั้งใจจะจับคู่ให้กับอัลเฟรโด้ ไม่ใช่ใครอื่นลูกสาวของเพื่อนรักที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับบุตรชายมากที่สุด
"ผมรู้ว่าแม่หมายถึงโซเฟีย แต่ผมกับโซเฟียไม่ได้เจอกันร่วมสิบปี ต่างคนต่างมีชีวิต เธออาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ที่สำคัญผมเห็นเธอเป็นน้องเหมือนลอร่าอีกคน" อัลเฟรโด้พูดตามความจริง เมื่อนึกถึงคู่หมายที่มารดากำลังจะชักนำให้มาเป็นคู่ชีวิตตามคำนายที่ได้รับมาก่อนหน้า
"ถ้าลูกเห็นโซเฟียอีกครั้ง ลูกจะต้องเปลี่ยนความรู้สึก เปลี่ยนความคิดใหม่แน่จ้ะอัลเฟรโด้ เพราะโซเฟียไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่วิ่งเล่นกับลอร่าเหมือนตอนเด็กๆ อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้โซเฟียโตเป็นสาวและสวยมากด้วย"
"แต่ว่าแม่ครับ ผมไม่ได้คิด..."
"แม่บอกคุณพ่อแล้วว่าเรื่องการซื้อสโมสรทีมฟุตบอลที่กำลังประสบปัญหาเรื่องขาดทุนเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเศรษฐกิจแบบนี้กับกิจการใหม่ที่เราไม่เคยลงทุนมาก่อนด้วยแล้ว ยิ่งไม่เหมาะสม"
"แม่" อัลเฟรโด้รู้ตัวแล้วว่ากำลังจะถูกบีบ
คนทั้งบ้านรู้ดีว่าเขาชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ และมีความใฝ่ฝันที่อยากจะมีสโมสรฟุตบอลเป็นของตนเองสักทีม ทันทีที่เรียนจบอัลเฟรโด้ได้รับมอบหมายจากบิดาให้ดูแลกิจการด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวของครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าตลอดหลายปีที่ผ่าน ผลกำไรที่มากมายมหาศาลจากน้ำพักน้ำแรงของตนเป็นที่ยอมรับของทุกคน
ต้นปีที่ผ่านมาสโมสรฟุตบอลที่อัลเฟรโด้ชื่นชอบประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน เขาให้คริสเตียนผู้ช่วยคนสนิทจัดการสืบจนเหลือเพียงแค่การเจรจารอบสุดท้าย และเมื่อหลายวันก่อนชายหนุ่มเพิ่งปรึกษากับบิดา เรื่องการลงทุนซื้อทีมฟุตบอลนี้มาบริหารภายใต้ปีกตระกูลรอสเซลลินี ซึ่งแม้ว่าจะเป็นธุรกิจตัวใหม่แต่ทุกคนก็ลงความเห็นชอบด้วย เพราะเชื่อมั่นในฝีมือว่าลองถ้าลงมือทำอะไรแล้วย่อมสำเร็จแน่นอน
"อย่าทำแบบนี้ซิครับ ปกติแม่ไม่เคยบังคับลูกไม่ใช่เหรอ" อัลเฟรโด้ขยับตัวเข้าไปหากุมมือมารดาขึ้นมาจูบเบาๆ แล้วเอ่ยต่อไปว่า
"มันคนละเรื่องกันนะครับ นี่มันเป็นธุรกิจที่จะทำรายได้มหาศาลให้เราต่อไปในอนาคต"
"แต่ต้องหลังจากที่ลูกแต่งงานกับโซเฟียแล้วจ้ะ" มารดายื่นคำขาดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังอย่างเห็นได้ชัด
"แค่ดูแลงานโรงแรมลูกชายของแม่ก็กินนอนไม่เป็นเวลา ดูซิเนี่ย ซูบลงไปตั้งเยอะ ถ้าขืนซื้อทีมฟุตบอลมาบริหาร มีหวังว่าต่อไปเราสองคนแม่ลูกคงไม่ต้องได้เห็นหน้าค่าตากันแล้วมั้ง เพราะมัวแต่ไปคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ไอ้ลูกกลมๆ พวกนั้นมีกำไรกลับมา"
"โธ่ แม่ครับ มันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก ยังไงผมก็รักแม่ คิดถึงแม่เสมอ" ท่านประธานหนุ่มโอดครวญ
"ถ้าอัลรักแม่จริงอย่างที่พูด ก็ต้องยอมทำตามที่แม่ขอ แต่งงานกับโซเฟียซะ แล้วเรื่องทีมฟุตบอลอีกกี่สิบทีมแม่จะพูดกับคุณพ่อให้ หรืออยากจะลงทุนทำอะไรอีกก็บอกแม่จะจัดการให้ทุกอย่าง แต่ต้องหลังจากที่มีการแต่งงานของลูกกับโซเฟียแล้ว"
"เรื่องทีมฟุตบอลกับเรื่องโซเฟียคนละเรื่องกันนะครับ แม่" ชายหนุ่มถอนหายใจดังๆ ด้วยความอึดอัดเมื่อถูกยื่นคำขาดเช่นนี้
"ใครบอกล่ะ มันเรื่องเดียวกันต่างหาก ถ้าอัลจะลงทุนงานใหม่ที่ใช้เงินมหาศาลอย่างนั้น ทำไมไม่ให้หนูโซเฟียมาช่วยดูแลล่ะ งานเยอะแต่มีภรรยามาช่วยดูแลจะได้รู้จักแบ่งเวลาและไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ" นางอนงค์รัตน์ดึงทุกเรื่องให้มาเป็นเรื่องเดียวกันได้หมด
"แต่ว่า..." อัลเฟรโด้กำลังจะพูดต่อ ก็ถูกนางอนงค์รัตน์ขัดขึ้นว่า
"ไม่มีแต่จ้ะ การแต่งงานครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้เคราะห์ร้ายในคำทำนายหมดไป หนูโซเฟียจะมาเป็นนางฟ้านำโชคในชีวิตของลูกแม่ จะมาช่วยดูแลสร้างครอบครัวให้อัลของแม่มีความสุขไปตลอดชีวิต เห็นไหม มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น ถ้าอัลรักแม่จริงอย่างที่พูด และอยากเห็นแม่มีความสุขล่ะก็ นี่คือเรื่องเดียวที่แม่อยากได้" มารดายิ้มหวานในขณะที่คนฟังลอบถอนหายใจเบาๆ ด้วยความกลัดกลุ้ม
ไม่มีครั้งไหนที่อัลเฟรโด้อยากจะขัดใจมารดาเท่าครั้งนี้มาก่อน แต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้เพื่อแลกกับทีมฟุตบอลที่ตนเองปรารถนา และทำให้ฝันร้ายที่ทำให้อนงค์รัตน์ไม่สบายใจทุกคืนวันหมดไป ในฐานะลูกสุดที่รักที่รักแม่คนนี้สุดหัวใจ เขาควรโอนอ่อนตามที่ขอมาและยินดีทำตามโดยเร็วที่สุด
แต่ในฐานะอัลเฟรโด้ รอสเซลลินี ผู้ชายที่เกลียดการผูกมัดที่สุดในชีวิต เขาควรทำอย่างไรดี ระหว่างตามใจตัวเองแต่เห็นแม่สุดที่รักเป็นทุกข์ หรือทำๆ ไปตามคำขอให้มันจบ ด้วยการผูกมัดผู้หญิงที่ไม่ได้รักไว้กับชีวิต เพียงแค่คำว่ารักแม่เท่านั้น
