บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 แรกเจอจริงหรือ...

ธามหยุดเดินเมื่อเสี่ยมงคลขอตัวเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อกล่าวเปิดงาน ดวงตาคมสีเข้มมองดูเพื่อนรุ่นใหญ่ที่กำลังกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่วด้วยความชื่นชม เสี่ยมลคลเป็นคนมีความสามารถหลากหลายและกว้างขวาง เขายอมรับว่าแม้เสี่ยมงคลจะไม่ใช่คนดีเด่นอะไรนักแต่ก็มีความจริงใจและใจนักเลงพอ ไม่ชอบอะไรที่ไม่เป็นธรรม ธุรกิจที่เสี่ยมงคลทำนั้นแม้จะถูกมองว่าล่อแหลมต่อศีลธรรมแต่เสี่ยมงคลไม่เคยเห็นแก่ตัวหรือคดโกงใครเพราะเสี่ยมงคลแฟร์พอที่จะทำธุรกิจแบบเงินมาของไป ไม่มีกั๊กหรือเล่นแง่ที่ไม่ซื่อกับคู่แข่งซึ่งเขาก็เรียนรู้หลายๆ อย่างจากเสี่ยมงคลมาพอสมควรและเอามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนและคำสอนของบิดา...

แม้ว่าเขาเองจะชอบเที่ยวเตร่ชอบแข่งขันความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ แต่เขาไม่เคยทำให้กิจการของครอบครัวมีปัญหา ธุรกิจโรงแรมและผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์และประกอบเครื่องจักรอื่นๆ ที่เขาควบคุมดูแลก็ไม่เคยมีปัญหาถึงเขาจะเป็นนักธุรกิจที่ยังอายุน้อยอยู่ก็ตาม แต่การวางรากฐานที่ดีมีระบบจากปู่ทวดของเขามาถึงรุ่นพ่อและมาถึงรุ่นเขานั้นก็ทำให้การทำงานของเขาราบรื่นไม่สะดุดเพียงแค่เขารู้จักพัฒนาและปรับปรุงระบบให้ทันสมัยและทันกระแสโลกก็เท่านั้นเอง

เมื่อเสี่ยมงคลพูดจบไฟบนเวทีก็ค่อยๆ มืดลง ก่อนที่จะมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจนเต็มเวทีเมื่อควันค่อยๆ จางลงก็ปรากฏว่ามีรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตบิ๊กไบต์ ขนาดเครื่องยนต์สี่สูบแถวเรียง 1000 ซีซี 193 แรงม้าสีแดงตัดดำเงาวับขึ้นมาจากด้านล่างเวที

แต่สิ่งที่สะดุดตาเขาไม่ใช่รถแต่เป็นหญิงสาวที่สวมใส่ชุดหนังสีดำที่นั่งอยู่บนรถด้วยท่วงท่าราวนางพญาที่แฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่ยั่วยวนอยู่ในที ทรวงอกอวบใหญ่ที่ล้นทะลักเสื้อตัวน้อยออกมานั้นขาวลอออยู่ท่ามกลางแสงไฟหลากสีใบหน้าเรียวงามนั้นเชิดขึ้นอย่างไว้ตัว เรือนผมยาวยาวสยายยุ่งเล็กน้อยอย่างตั้งใจนั้นเงางามเป็นประกาย ดวงตากลมโตที่ถูกตบแต่งโฉบเฉี่ยวงดงามทอดมองเหล่าผู้มาชมงานอย่างยั่วยวนแต่ก็ดูหยิ่งทระนง ริมฝีปากสีแดงสดฉ่ำแย้มยิ้มน้อยๆ เหมือนจะเยาะหยันผู้คนแต่ก็ดูเหมือนว่าเธอกำลังยิ้มเชื้อเชิญให้บรรดาชายหนุ่มเข้าไปจุมพิตเธอ... แต่ทำไมดวงตาคู่นี้รอยยิ้มนี้ถึงได้คุ้นตาเขาเหลือเกิน เหมือนเขาเคยเจอที่ไหนมาก่อน

โอ...นี่เขามองเธอได้ละเอียดลออขนาดนี้เลยหรือแล้วเขาจะไปรู้จักคุ้นเคยกับเธอตอนไหน ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี ธามดุตัวเองเมื่อเขาสามารถเก็บรายละเอียดของหญิงสาวนิรนามคนนั้นได้ดีอย่างที่ไม่เคยสังเกตหญิงสาวคนไหนมากขนาดนี้มาก่อนแล้วยังจะคิดเข้าข้างตัวเองว่ารู้จักเธอด้วย เขาคงไม่คิดจะใช้ผู้หญิงร่วมกับเสี่ยมงคลหรอกนะ

แต่เธอคือใครพริตตี้คนนี้อยู่ในสังกัดของเสี่ยมงคลหรือ แต่ทำไมเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย หรือการที่เขาเดินทางไปมาระหว่างไทยกับอังกฤษเพื่อดูแลกิจการงานของตนในระยะหลังๆ มานี้เสี่ยมงคลได้พริตตี้สาวคนนี้มาเป็นเมียเก็บเพิ่มอีกคน ธามคิดอย่างหงุดหงิดสุดท้ายเขาก็สลัดเธอไม่หลุดอยู่ดี

แล้วเสียงเพลงเร้าใจมากขึ้นในขณะที่หญิงสาวบนเวทีขยับยักย้ายส่ายสะโพกด้วยลีลาแสนยั่วใจ ในขณะเดียวกันก็มีสายน้ำพร่างพราวมาจากเพดานรดลงมาบนตัวเธอเปียกปอนก่อนที่หญิงสาวจะถอดเสื้อตัวนอกออกเผยให้เห็นเสื้อตัวในสีขาวยิ่งเมื่อมันเปียกก็จะแนบไปกับเรือนร่างระหงโชว์บราตัวน้อยสีดำเซ็กซี่ที่เธอสวมใส่อยู่แต่ดูเหมือนเสื้อมันจะเล็กไปกับขนาดทรวงอกที่ใหญ่เกินตัว หลังจากนั้นเธอก็เดินไปหยิบถังใบเล็กๆ กับฟองน้ำออกมาก่อนจะทำให้มันเป็นฟองสีขาวฟูฟ่องแล้วลูบไล้ฟองนั้นไปตามตัวเธอและตัวถังรถบิ๊กไบต์คันใหญ่ด้วยลีลาร้อนแรงจนหนุ่มๆ ที่ยืนมองอยู่ด้านล่างตาค้างตกตะลึงกับความเย้ายวนแสนเซ็กซี่ขยี้ใจชายของเธอ หนุ่มคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ธามถึงกับซี๊ดปากร้องออกมาด้วยความเสียวระทึก สายตาผู้ชายด้วยกันดูออกว่าหนุ่มคนนี้คิดอะไรกับหญิงสาวบนเวที

ร่างบางเดินลงมาจากเวทีเมื่องานของตนเสร็จสิ่งลง เจ๊หวานรีบเดินเข้ามาหาแล้วตวัดผ้าขนหนูผืนใหญ่คลุมร่างที่สั่นสะท้านเพราะความหนาวของหญิงสาวไว้ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเร็วๆ ไปยังห้องแต่งตัวโดยไม่สนใจใคร

“เพื่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เอ๊า เด็กๆ ที่เหลือก็เตรียมตัวขึ้นไปแสดงชุดของตัวเองเร็วเข้าอย่าช้าให้เขาด่าแม่ฉันนะยะ” เจ๊หวานบอกลูกสาวที่รักอย่างอ่อนโยนแล้วหันมาเท้าสะเอวพูดเสียงดังใส่สาวๆ ในชุดสวยสดใสน่ารักเซ็กซี่หลากสีที่ดูเหมือนกำลังเม้าท์เรื่องผู้ชายสักคนอย่างเมามันเคลิบเคลิ้ม จนสาวๆ วงแตกแล้วรีบไปทำงานของตน แต่ไม่วายมีเสียงหัวเราะคิกคักอย่างถูกอกถูกใจมาให้ได้ยิน เจ๊หวานเท้าสะเอวมองบรรดาสาวๆ ที่ขึ้นไปทำหน้าที่ของตนเองอย่างระอาแกมเอ็นดู ถึงเด็กๆ ในสังกัดเธอ แม้สาวๆ เหล่านั้นจะวี้ดว้าย เอะอะหรือช่างเม้าท์กันไปบ้างแต่พวกสาวๆ เหล่านี้ก็ทำเงินให้กับบริษัทของเธอมากโขอยู่และพวกเธอทุกคนก็มีความรับผิดชอบไม่เคยเบี้ยวงาน ซึ่งหากมีใครสักคนที่คิดจะแหกคอกหรือไม่ตั้งใจทำงานนั่นหมายถึงอนาคตบนเส้นทางนี้จะจบลงทันที

เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วพิมพ์ภัสสรกับเจ๊หวานก็เดินออกมายังห้องรับรองซึ่งเสี่ยมลคลก็รออยู่แล้วพร้อมด้วยใครอีกคนหนึ่งที่ทำให้พิมพ์ภัสสรตัวเย็นเฉียบไปชั่วขณะ

“เชิญทางนี้ครับน้องเพื่อน เจ๊หวาน” เสี่ยมงคลเรียกอย่างอารมณ์ดี

“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่น่าลำบากเพราะเราคิดว่าจะมาลากลับเลยค่ะ พอดีมีธุระน่ะค่ะ” เจ๊หวานออกตัวอย่างสุภาพ

“อ้อ ไม่มีปัญหาครับเพียงแต่ผมจะแนะนำน้องชายให้รู้จักเท่านั้น นี่ธาม ธอมป์สัน น้องชายคนเก่งของผมเอง ธาม นี่เจ๊หวานกับน้องเพื่อน คนที่อยู่บนเวทีเมื่อครู่นั่นไง” เสี่ยมงคลแนะนำในขณะที่ธามเองก็กำลังจดจ้องใบหน้าสวยใสที่ไร้เครื่องสำอางของหญิงสาวอย่างพิจารณา

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ แหม ได้ยินแต่ชื่อมานานได้เห็นตัวเป็นๆ คุณธามดูดีกว่าในรูปมากเลยค่ะ” เจ๊หวานยิ้มกว้างรับไหว้ของชายหนุ่มที่อ่อนอาวุโสกว่าอย่างชื่นชมที่หนุ่มหล่อไฮโซยกมือไหว้เธอก่อนเช่นนี้ ส่วนพิมพ์ภัสสรก็ไหว้เขาตามมารยาทและหลบสายตาคมพยายามระงับความตื่นเต้นในใจ

“ชมกันเกินไปครับ ผมก็แค่คนธรรมดาเท่านั้น” ชายหนุ่มถ่อมตัว

“แหม ถ่อมตัวจังค่ะ”

“ก็แบบนี้ล่ะครับผมกับเขาถึงเป็นพี่น้องกันได้”

“แม่หวานคะ เรากลับกันได้รึยังคะ” พิมพ์ภัสสรเอียงหน้ามากระซิบถามเบาๆ เจ๊หวานหน้าตื่นรีบขอตัวกลับอีกครั้งซึ่งเสี่ยมงคลก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สำหรับธามนั้นมองตามหญิงสาวไปจนลับสายตา

“ถูกใจล่ะสิธาม แต่หนูเพื่อนน่ะยากหน่อยนะ เฮียลองมาแล้ว เธอไม่สนใจใครง่ายๆ หรอก”

“ผมเปล่าคิดอะไรเสียหน่อยเฮีย...” ธามยิ้มเก้อๆ แล้วหลบสายตารู้ทันของเสี่ยมงคล

“เป็นอะไรไปเพื่อน...” เจ๊หวานสงสัยท่าทางแปลกๆ ของหญิงสาวนับตั้งแต่กลับมาจากงานของเสี่ยมงคลดูพิมพ์ภัสสรวิตกกังวลและเงียบผิดปกติ

“พรุ่งนี้เราไปเยี่ยมแพงกันนะ เพื่อนคิดถึงแพง...” น้ำเสียงเศร้าสร้อยน่าเวทนา เจ๊หวานถอนใจแผ่วๆ

“แม่หวานเคลียร์งานให้เพื่อนแล้วจ้า หยุดยาวไปเลย”

“ขอบคุณค่ะแม่หวาน”

“เอาล่ะวันนี้เหนื่อยมามากพักผ่อนเถอะราตรีสวัสดิ์จ้ะ”

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะแม่หวาน” หญิงสาวยิ้มให้คนที่เดินลับประตูไปอย่างรักใคร่ แล้วล้มตัวลงนอนครุ่นคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่มีทั้งสุขและทุกข์ และ รักครั้งแรก ของเธอแล้วภาพเก่าๆ ก็ลอยเข้ามาในหัวอย่างช่วยไม่ได้ นี่โลกมันกลมหรือเป็นเพราะพรหมลิขิตหนอ...

เมื่อสี่ปีก่อนในงานเลี้ยงวันเกิดของแทนฤทัยซึ่งพิมพ์ภัสสรได้รับเชิญมาด้วยแต่เธอไม่อยากจะมาร่วมงานนี้นักเพราะรู้ดีว่าผู้เป็นเจ้าของวันเกิดนั้นไม่ชอบหน้าตน เธอเองก็ไม่ชอบหน้าแทนฤทัยเช่นกันแม้ว่าแทนฤทัยจะเป็นเจ้าของงานก็ตาม แต่เพราะทนคำรบเร้าคะยั้นคะยอจากเพื่อนสนิทอย่าง บุญยอดซึ่งในขณะนั้นยังเป็นชายในร่างสาวอยู่เธอจึงขัดไม่ได้ เพราะบุญยอดคุยนักคุยหนาว่าพี่ชายของแทนฤทัยหล่อเหลาราวเทพบุตรจึงอยากจะมาเห็นเป็นบุญตากะเทยสักครั้งทำให้เธอจำใจต้องมาเป็นเพื่อนบุญยอด

“เธอมาทำไมยายคนยากไร้ อ๋อ ที่บ้านไม่มีอะไรจะกินสินะถึงได้มาขอทานถึงที่นี่” เสียงเยาะหยันของผู้เป็นเจ้าของวันเกิดดังขึ้นทำให้มือที่กำลังจะหยิบจานมาตักอาหารไปรับประทานกับเพื่อนๆ ชะงักวางจานใบเล็กลงทันทีและความหิวก็หายไปด้วย

“ถ้าฉันคิดจะขอทาน ฉันคงไม่มาขอทานที่บ้านเศรษฐีใจแคบอย่างเธอหรอกแทมมี่ เพราะคิดว่าคนอย่างเธอคงทำบุญทำทานไม่เป็น อีกทั้งใจคอก็คับแคบจนน่ารังเกียจ...” พิมพ์ภัสสรตอบกลับอย่างไม่ลดละหรือเกรงใจสาวสวยไฮโซที่ใครๆ ทั้งมหาวิทยาลัยให้ความนิยมชมชอบ แต่สำหรับพิมพ์ภัสสรแล้วแทนฤทัยก็เป็นแค่เด็กขี้อิจฉาคนหนึ่งไม่แตกต่างจากพวกคนบางคนที่เธอเกลียดแสนเกลียด...

“นี่เธอ มางานของฉันยังจะปากดีอีกเหรอ”

“ฉันไม่ได้อยากมาสักหน่อย ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องพูดเอาใจใคร...” สองสาวจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใครด้วยความรู้สึกที่แรงด้วยกันทั้งคู่ แทนฤทัยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นคุณหนูตัวร้ายทั้งขี้เหวี่ยงขี้วีนปากร้าย เอาแต่ใจและพร้อมที่จะมีเรื่องหากใครกล้ามาแหยมกับเธอจนใครๆ ต่างก็ไม่มีใครกล้าตอแยด้วย เพราะทั้งความร้ายกาจและอำนาจบารมีของบิดาเธอนั่นเอง

แต่สำหรับพิมพ์ภัสสรนั้นในชีวิตเธอตั้งแต่เล็กจนโตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอเจอเรื่องที่ร้ายแรงและลำบากมาเยอะกว่าจะได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยที่นับว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศแม้มันจะไม่ใช่มหาวิทยาลัยเก่าแก่มากด้วยชื่อเสียงที่เยาวชนไทยต่างขับเคี่ยวกันจะเป็นจะตายเพื่อให้ได้เรียนมหาวิทยาลัยแห่งนั้นก็ตาม แต่เธอก็สามารถเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและคุณภาพการศึกษาที่ดีทัดเทียมกันได้เพราะความสามารถและด้วยเงินที่เธอหามาด้วยตนเองไม่ได้แบมือขอใครไปวันๆ

พิมพ์ภัสสรมาเรียนที่นี่เพื่อให้ตัวเองมีความรู้และทำให้คนอื่นได้เห็นว่าเธอสามารถเรียนจบจากที่นี่ได้ เธอมีทุกอย่างทัดเทียมกับลูกคุณหญิงคุณนาย หรือพวกไฮโซร่ำรวยทุกคน และเธอก็เรียนที่นี่ด้วยความหยิ่งทระนงหยิ่งในศักดิ์ศรีจนใครๆ ต่างก็ยอมรับในความเป็นเธอ รู้ว่าเธอเป็นอย่างไร ซึ่งมันอาจจะทำให้แทนฤทัยไม่พอใจเธอในส่วนนี้ก็เป็นได้ แต่พิมพ์ภัสสรจะสนใจหรือว่าใครจะพอใจหรือไม่พอใจในตัว เธอเป็นตัวของตัวเองและไม่คิดจะใส่ใจเรื่องไร้สาระพวกนี้ด้วย

“จองหอง อวดดี...”

“แน่นอน เพราะฉันมีดีให้อวด ไม่เหมือนพวกรวยแต่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างเธอหรอก ที่เที่ยวใช้เงินฟาดหัวใครๆ แต่ไม่มีปัญญาทำอะไรเอง...”

“จะมากไปแล้วนะนังเพื่อน แกเป็นใครถึงกล้ามาพูดกับฉันแบบนี้ ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลย ออกไป๊ นังขอทานนังยาจก ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้...” แทนฤทัยหน้าแดงหน้าดำด้วยความโกรธและเสียงของแทนฤทัยก็ดังพอจะทำให้ทุกคนหันมามองพวกเธอเป็นตาเดียว

“แหม งานนี้ฉันดังกระฉ่อนอีกแล้ว ขอบใจนะที่ทำให้ทุกคนสนใจฉัน คะแนนสงสารมาเพียบเลย...” พิมพ์ภัสสรเก็บกดความโกรธไว้ภายใต้ใบหน้าซึ่งแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มสะใจเมื่อมองสบตากับแทนฤทัยที่ถูกเพื่อนๆ มองด้วยความระอากับความถือตัวและปากร้ายของเจ้าหล่อน...

“เบนนี่ ฉันกลับก่อนนะ เจ้าของงานเขาไม่ต้อนรับแล้ว ฉันบอกเธอแล้วว่าแทมมี่ไม่ชอบหน้าฉัน ฉันขอโทษนะทุกคนที่ทำให้หมดสนุก...” พิมพ์ภัสสรหันมายิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนทุกคนแล้วเดินออกไป ปล่อยให้เจ้าของงานวันเกิดกรีดร้องเสียงแหลมอยู่ข้างหลังซึ่งต่างก็มีลิ่วล้อเข้ามาเอาอกเอาใจพร้อมด้วยเสียงอื้ออึงของผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งมีทั้งชื่นชมและดูถูกเธอแต่พิมพ์ภัสสรกลับยิ้มสะใจ...

ลับหลังแทนฤทัยพิมพ์ภัสสรรีบเดินหลบมุมเข้าห้องน้ำสำหรับรับรองแขกของคฤหาสน์หลังงามสักครู่เพื่อสงบสติอารมณ์ที่ครุกรุนอยู่ภายใน มุมรับรองแขกนั้นค่อนข้างเงียบเนื่องจากเพื่อนๆ เจ้าของงานต่างไปรวมกันที่สนามหญ้าเพราะจะได้เวลาตัดเค้กแล้ว สาวน้อยมองดวงไฟประดับอันงดงามด้วยความรู้สึกโหยหาอดีตที่ครอบครัวของตนอยู่พร้อมหน้า ในวันเกิดทุกๆ ปีของเธอบิดามารดาจะพาเธอกับน้องสาวไปทำบุญและทำอาหารรับประทานกันอย่างสนุกสนานมีเค้กก้อนเล็กๆ พอเป็นพิธีและบิดามารดาจะให้พรพวกเธอก่อนนอนทุกๆ คืน แต่มันคงไม่มีวันดีๆ เช่นนั้นอีกแล้ว...

“อุ้ย / โอ๊ะ...” แล้วพิมพ์ภัสสรก็ตื่นจากภวังค์เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำก็ชนกับใครคนหนึ่งซึ่งช่างแข็งแกร่งและคงตัวใหญ่โตมากเพราะเขาชนเธอแทบกระเด็นติดผนังหากว่าเขาไม่รั้งข้อมือเล็กไว้ได้ทันเธอก็คงกองอยู่กับพื้นซ้ำศีรษะก็คงจะชนผนังจนบวมโนเป็นแน่แท้...

“เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ...” เสียงนุ่มทุ้มที่ดังอยู่เหนือศีรษะทำให้ดวงหน้าที่ก้มต่ำของเธอเงยขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนคนที่ก้มลงมาก็ไม่ได้ระวังตัว จังหวะที่เกิดขึ้นพร้อมกันทำให้ใบหน้าของเขาคนนั้นกับเธอสัมผัสกันโดยบังเอิญ ริมฝีปากที่เผยอค้างของเขากับเธออยู่ชิดกันจนสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลของกันและกัน ลมหายใจอุ่นๆ หอมสะอาดเป่ารดแก้มของกันและกันบ่งบอกให้รู้ว่าเขากับเธอใกล้ชิดกันแค่ไหน เหมือนทุกสิ่งรอบกายของเธอหยุดเคลื่อนไหวแม้แต่ลมหายใจก็หยุดชะงัก...

และแล้วสิ่งที่พิมพ์ภัสสรไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเอวบางถูกรั้งด้วยลำแขนแข็งแรงแล้วร่างบางถูกดันชิดผนังในมุมที่หลบแสงไฟและริมฝีปากที่เผยอด้วยความตกใจเมื่อครู่ก็ถูกครอบครองด้วยริมฝีปากนุ่มของเขาทันทีที่เธอจะร้องท้วง เรียวลิ้นร้อนฉกวูบเข้ามาในโพรงปากสาวหอมหวานพร้อมทั้งดูดรัดเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนทว่าอ่อนหวานนุ่มนวลจนเธอไม่อาจจะต้านทานกระแสความไหวหวามนั้นได้ ความร้อนระอุราวลาวาร้อนๆ จากภูเขาไฟที่ระเบิดพร่างพรายเดือดพล่านอยู่ในกายสาวจนเธอคิดว่ามันจะทำให้ร่างของเธอแตกระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ความเสียวซ่านที่เธอไม่รู้จักทำให้ใจสาวน้อยเช่นเธอหวิวไหวเหมือนจะเป็นลมแต่เธอก็ยังยืนอยู่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอกลับแอ่นร่างเขาหาเขาเพื่อบดเบียดร่างเสียดสีกับเขาอย่างลืมตัวทั้งยังส่งเสียงครางเบาๆ อย่างที่เธอไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่ามันเป็นเสียงของตนเอง

ในขณะเดียวกันชายหนุ่มก็จูบเธอราวหิวกระหายห่างเหินจากความสุขทางเพศรสมานานนับปี แต่ทว่าคนอย่างธามไม่เคยขาดผู้หญิงข้างกายและไม่เคยว่างเว้นจากกิจกรรมสนุกเยี่ยงชายโสด หรือเพราะความอ่อนหวานไร้เดียงสามันท้าทายให้เขาจูบเธออย่างนี้ ชายหนุ่มคิดอย่างมึนงงทั้งหลงใหลเจ้าของกลีบปากหอมหวานนี้ มือหนาลูบไล้เรือนกายและผิวนุ่มละมุนมือที่พ้นจากเสื้อแขนกุดอย่างหลงใหล เธอมีผิวที่นุ่มนวลเหลือเกินและหอมกรุ่นละมุนละไมแตกต่างจากกลิ่นกายของหญิงสาวที่เขาเคยได้สัมผัส...

เสียงเดินพร้อมทั้งเสียงพูดคุยสนุกสนานของผู้หญิงสองคนดังแว่วมาในหัวทำให้ธามจำต้องละริมฝีปากจากสาวน้อยแสนหวานตรงหน้าอย่างแสนเสียดายในขณะที่คนซึ่งโดนขโมยจูบยังยืนตัวแข็งมองเขาตาโตริมฝีปากบวมเจ่อสั่นระริกด้วยอารมณ์หลากหลายได้แต่จ้องมองคนที่เสยผมลวกๆ เดินจากไปเงียบๆ แล้วเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ที่ดังขึ้นด้วยความตื่นเต้นดีใจก็เรียกสติของเธอให้กลับมา...

“กรี๊ดดด พี่ธาม พี่. / พวกเรากำลังรอพี่ธามเลยค่ะ / แทมมี่หน้าหงิกแล้วค่ะพี่ธามไม่มาเสียที” หลากหลายเสียงสาวๆ พูดแข่งกันทำให้พิมพ์ภัสสรใจเตอยู่ไม่น้อยก่อนที่เสียงพวกนั้นก็ค่อยๆ เงียบไปพร้อมกับเสียงของชายหนุ่มที่ตอบคำถามของสาวๆ ล้อมหน้าหลังอย่างคลั่งไคล้เขา

ธาม... เขาคือพี่ชายของแทมมี่ คนที่บุญยอดคลั่งอยากเห็นนักหนา และเขาก็ขโมยจูบแรกของเธอไปหน้าตาเฉยอีกด้วย มันน่าโมโหนัก เธอเพิ่งจะทะเลาะกับน้องสาวเขามา แต่สุดท้ายต้องมาเสียจูบให้คนเป็นพี่ชายเสียนี่ ที่สำคัญนอกจากเขาจะขโมยจูบแรกของเธอไป เขายังขโมยดวงใจของเธอไปด้วย...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel