บทที่ 2. ฝันร้ายที่ยังคงตามมาหลอกหลอน
ธามโยนชุดแข่งรถตัวใหญ่หนาหนักลงกับพื้นห้องอย่างเซ็งจัดใบหน้าหล่อเหลาเครียดขึงเพราะยังโกรธกรุ่นอยู่ในอก เขากับราฟาเอลมีนัดล้างตากันในวันนี้ ทั้งเงินเดิมพันและเพื่อนฝูงของเขามากมายที่รอดูการแข่งขันระหว่างเขากับราฟาเอล ซึ่งต่างก็คาดหวังว่าจะชนะเขาในวันนี้เช่นกัน
ตั้งแต่สมัยเรียนประถม มัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัยเขากับราฟาเอลก็เป็นคู่แข่งกันมาตลอดจากการแข่งขันแบบเด็กๆ จนมาถึงการแข่งขันประชันกันอย่างลูกผู้ชายเมื่อเกิดความบาดหมางบางอย่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของพวกเขาขาดสะบั้นลง...
“หึ ฉันจะทำอย่างไรให้เกลียดนายได้มากกว่านี้นะ ไอ้ราฟ” ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนที่นอนนุ่มแล้วหลับตาลงช้าๆ อย่างอ่อนล้า ก่อนที่ภาพในอดีตก็วิ่งเข้ามาในหัวอย่างไม่อาจจะหักห้ามได้...
เมื่อสิบห้าปีก่อน...พวกเขาได้ท้าทายกันโดยมี ลินดา สาวน้อยแสนสวยประจำโรงเรียนเป็นพยานและเป็นหนึ่งในเดิมพันเพราะพวกตนกำลังพยายามแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันเพื่อชนะใจสาวน้อยคนสวยดาวเด่นประจำโรงเรียนคนนี้ แต่หลังจากที่พวกเขาแข่งปั่นจักรยานมากจากสนามหน้าบ้านของพวกตนจนมาถึงสนามหน้าโรงเรียนซึ่งระยะทางจากบ้านของพวกเขามาถึงโรงเรียนนั้นเป็นระยะทางเท่ากันซึ่งหากว่าใครมาถึงโรงเรียนก่อนและได้ยื่นจดหมายสารภาพความในใจกับลินดาก่อนคนนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ และธามก็เป็นฝ่ายชนะซึ่งมันทำให้ราฟาเอลรู้สึกเสียหน้ามากเพราะเขาได้ประกาศตนอย่างมั่นใจว่าจะชนะธาม อย่างแน่นอนและเพื่อนๆ ในชั้นเรียนก็พนันข้างเขาไว้เยอะ เมื่อราฟาเอลแพ้ก็ทำให้เขารู้สึกแย่และไม่พอใจตามประสาเด็กที่เริ่มโตเป็นหนุ่มที่ยังขาดความยับยั้งชั่งใจ
หลังจากที่ลินดารับจดหมายสารภาพความในใจของธาม เด็กทั้งสองก็คบหากันฉันท์เพื่อนสนิทที่น่ารักน่าอิจฉาเป็นที่กล่าวขวัญกันทั้งโรงเรียน อีกทั้งธามก็ได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียนกับเป็นกัปตันทีมบาสเกตบอลของโรงเรียนก็ยิ่งทำให้ราฟาเอลร้อนรนด้วยความริษยา แล้วเย็นวันหนึ่งราฟาเอลนัดเจอลินดาหลังเลิกเรียนที่ห้องเรียนของเธอ ซึ่งวันนั้นธามกำลังแข่งขันบาสเกตบอลนัดสำคัญกับทีมโรงเรียนคู่แข่งทำให้เขาไม่ได้อยู่กับลินดาและไม่ได้เดินกลับบ้านพร้อมเพื่อนสาวคนสนิทเช่นทุกวัน
แต่แล้วก็เกิดเรื่องเศร้าขึ้นเมื่อเพื่อนสาวสนิทของธามที่กำลังรอราฟาเอลอยู่นั้นไม่ได้กลับออกมาจากห้องเรียนตลอดเย็นวันนั้น ทางบ้านของเธอตามหาเด็กหญิงให้วุ่นเมื่อดึกแล้วเธอยังไม่กลับเข้าบ้าน ธามเอะใจว่าได้ยินเพื่อนๆ พูดกันเรื่องที่ราฟาเอลนัดเจอเด็กหญิงที่ห้องเรียนในตอนเย็นเขากับครอบครัวของลินดาจึงกลับมาที่โรงเรียนในกลางดึกของคืนวันนั้นแล้วตรงไปที่ห้องเรียนดังกล่าวทันที แต่แล้วเมื่อเปิดประตูเข้าไปทุกคนก็ต้องผงะเมื่อพบกับเลือดแดงฉานเกรอะกรังเต็มห้องเรียนและพบเจอกับร่างของเด็กหญิงที่ชื่อลินดานอนจมกองเลือดอยู่...
สภาพศพของลินดานั้นช่างน่าอนาถใจนัก เด็กหญิงถูกทำร้ายร่างกายจนยับเยินแทบจะจำสภาพเดิมไม่ได้หลังจากถูกข่มขืนอย่างทารุณจนเธอทนพิษบาดแผลไม่ไหวและสิ้นใจในห้องเรียนนั้นเอง...
มารดาของเด็กหญิงกรีดร้องราวคนเสียสติเมื่อเจอสภาพเหตุการณ์เลวร้ายและเป็นลมล้มพับไปหลายต่อหลายครั้ง สุดท้ายนางก็เข้ารับการบำบัดทางจิตในเวลาต่อมาเพราะมีอาการคลุ้มคลั่งหวีดร้องร่ำไห้ถึงบุตรสาวอยู่ตลอดเวลา แน่นอนผู้ต้องสงสัยคงหนีไม่พ้นราฟาเอลเด็กชายผู้ที่นัดหมายเธอไว้แต่ราฟาเอลไปไหนตอนที่เกิดเหตุเพราะไม่มีร่องรอยหรือหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าคนที่ทำเรื่องเลวร้ายนั้น นั่นคือสิ่งที่ทุกคนรวมไปถึงธามสงสัย
แม้จากการสอบปากคำเด็กๆ ในโรงเรียนทุกคนต่างบอกว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นเธอ ทุกคนเห็นว่าราฟาเอลอยู่กับลินดา แต่ผลชันสูตรศพที่ออกมาแล้วนั้นพบว่าเด็กชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเด็กหญิงแม้จะมีเศษผ้าของเขาในมือเด็กหญิงก็ตาม และถึงแม้จะมีร่องรอยขีดข่วนบนตัวเด็กชายแต่ก็ไม่มีเศษผิวหนังหรือสิ่งใดๆ จากร่างกายของราฟาเอลติดที่เล็บหรือส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายแม้แต่น้อย แม้ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าราฟาเอลมีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์เศร้าสลดดังกล่าวแต่การที่ราฟาเอลเจอกับลินดาเป็นคนสุดท้ายก่อนเกิดเหตุสลดใจทำให้ธามรู้สึกกังขาและขัดแย้งในใจ จนก่อให้เกิดความหวาดระแวงแคลงใจในตัวราฟาเอลจนกลายเป็นความเกลียดชัง... แต่แล้วไม่นานทางตำรวจก็สามารถจับฆาตกรตัวจริงได้ซึ่งก็เป็นครูสอนวิชาพละศึกษาของพวกเขานั่นเอง แม้หลักฐานจะแน่นหนาและครูคนนั้นจะรับสารภาพว่าทำไปเพราะเกิดความเสน่หาในตัวเด็กหญิงและเป็นผู้ลงมือทำร้ายเหยื่อจนถึงแก่ความตายเพียงคนเดียวไม่มีผู้อื่นรู้เห็น แต่ธามก็ยังรู้สึกรับไม่ได้และคิดว่าราฟาเอลจะต้องมีส่วนรู้เห็นแน่นอนทำให้เขาจึงยิ่งรู้สึกเกลียดชังราฟาเอลมานับตั้งแต่นั้น
“ฉันไม่ได้ทำนายก็รู้...”
“ฉันไม่มีวันเชื่อสิ่งที่ตำรวจบอกหรอก... นายอยากเอาชนะฉันเสมอ นายทำไปทุกอย่างเพื่อจะเอาชนะฉัน ตำรวจนั่นก็อาจจะเป็นพวกของนาย...” เด็กหนุ่มวัยสิบหกปีของโรงเรียนไฮสคูลชื่อดังในมหานครปารีสโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนอยู่บนสนามหญ้าหน้าโรงยิมของโรงเรียน...
“ฉันขอยืนยันว่าฉันไม่ได้ทำและฉันไม่เคยคิดทำร้ายใครเพื่อจะเอาชนะนายแน่นอน...” ราฟาเอลตอบโต้กลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและเสียใจกับเหตุการณ์เศร้าสลดนี้ไม่ต่างกัน
“คนที่อยู่ในเหตุการณ์คนสุดท้ายก็คือนายใครๆ ก็รู้ว่านายนัดเธอไว้ แล้วเศษผ้าที่อยู่ในมือเธอก็คือเศษเสื้อของนาย ร่างกายนายมีรอยขีดข่วนตั้งมากมายหลายแห่งซึ่งบ่งบอกว่าเธอพยายามจะปกป้องตัวเองจากนายที่จะทำร้ายเธอ แต่สุดท้ายนายก็ทำร้ายเธอ... คนอื่นอาจจะเชื่อว่านายไม่ได้ทำ หลักฐานอาจจะบอกว่าเป็นผู้ชายคนนั้นทำ แต่ฉันไม่เชื่อหรอกนะ นายปิดบังความจริงไม่ได้หรอกราฟ สักวันความจริงจะต้องปรากฏ ว่านายมีส่วนรู้เห็น...”
“อย่ามากล่าวหาฉันนะ”
“ฉันไม่เชื่อผลการชันสูตรที่มีอิทธิพลของพ่อนายคุมอยู่หรอกราฟ นายมันสารเลว” ธามพูดราวตะคอก
“นั่นมันเรื่องของนาย นายจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม คนร้ายก็ถูกจับตัวแล้ว และต่อไปนี้ฉันกับนายเราจะไม่มีความเป็นเพื่อนกันอีกต่อไป แม้แต่คนรู้จักฉันก็จะไม่มีวันเป็น...” ราฟาเอลมอง ธามด้วยแววตาเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“แน่นอน... เพราะฉันไม่มีวันมีเพื่อนที่ใจคอเหี้ยมโหดอย่างนาย และไม่มีวันจะอยากรู้จักฆาตกรอย่างนาย...”
“ฉันไม่ใช่ฆาตกร...” ราฟาเอลพูดลอดไรฟัน เด็กหนุ่มทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างแค้นเคืองประกายตากร้าวจัดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหันหลังให้กันและเดินแยกกันกลับบ้านของตนด้วยความหดหู่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์อันเลวร้าย... โดยเฉพาะราฟาเอลและแผลเป็นนั้นก็ติดอยู่ในใจของพวกเขามาตลอด...
ธามเดินเซ็งๆ ลงมาจากห้องแล้วเดินผ่านมารดากับน้องสาวที่กำลังรับประทานอาหารว่างอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างไม่ใส่ใจ คุณธิติมาเห็นบุตรชายเดินผ่านกระจกใสไปอย่างมึนตึงไม่แวะมาทักทายนางเหมือนดังเช่นทุกวันทำให้นางรีบลุกเดินออกมาหาบุตรชายที่กำลังจะเดินไปที่รถยนต์คันโปรด...
“ตาธามจะไปไหนลูก...”
“ผมจะไปหาอะไรเพลินๆ ทำครับเพราะจะแข่งรถก็ไม่ได้แล้วจะทำอะไรต้องรอความเห็นชอบจากแม่กับน้องสาว ผมเลยคิดว่าจะไปหาสาวสักคนควงไปเที่ยวไกลๆ สักพัก หากคุณแม่กับแทมมี่จะตามไปอาละวาดทุกที่ที่ผมจะไปก็เชิญนะครับ บ้านสาวๆ ของผมมีหลายหลังตามไปให้ถูกก็แล้วกัน...” ชายหนุ่มยิ้มเยาะแล้วขับรถออกไปอย่างไม่ใส่ใจมารดาที่ยืนนิ่งด้วยความอึดอัดเป็นกังวล
“เดี๋ยวแทมมี่จะตามพี่ธามไปเองค่ะ คุณแม่ไม่ต้องคิดมากนะคะ...”
“เราปล่อยให้พี่เขาไปเที่ยวพักผ่อนจิตใจก่อนก็ได้ลูกไม่ต้องตามเขาไปหรอก แม่เองคิดว่าเราทำเกินไปพี่เขาก็โตแล้ว เป็นถึงท่านประธานของธอมป์สันกรุ๊ป เราจะไปตามเขาเหมือนเด็กๆ ก็กระไรอยู่” คุณธิติมาถอนใจ
“แทมมี่ก็ไม่ได้ว่าจะตามไปจับผิดหรือไปคุมเขาหรอกค่ะคุณแม่ เพียงแต่แทมมี่คิดว่าอยากจะหาวิธีที่ทำให้พี่ธามไม่สนใจจะลงแข่งรถอีกและเลิกไปหว่านเสน่ห์สาวๆ ทำให้คุณแม่ต้องปวดหัวเรื่องผู้หญิงของพี่ธามก็เท่านั้น...” หญิงสาวจูงมือมารดากลับเข้าไปในบ้านก็พบว่า คุณธีร์ ธอมป์สัน ผู้เป็นประมุขของบ้านยืนรออยู่
“คุยอะไรกันอยู่หรือจ๊ะสาวๆ”
“ก็คุยเรื่อยเปื่อยล่ะค่ะคุณ”
“คงไม่ใช่เรื่องตาธามอีกหรอกนะ” สามีมองยิ้มๆ คุณธิติมาค้อนคนรู้ทันแล้วเสเดินเลี่ยงไป แทนฤทัยหันมายิ้มหวานให้บิดาซึ่งท่าทางของภรรยากับบุตรสาวนั้นบ่งบอกได้อย่างดีว่าตนเดาไม่ผิดพลาด...
ร่างสูงสง่าของหนุ่มหล่อไฮโซเดินเรื่อยๆ เข้าไปในตึก สำนักงานมงคลมอเตอร์ ทางประตูเข้าออกของผู้บริหารอย่างคุ้นเคย วันนี้ที่นี่มีงานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษของเสี่ยมงคลเสี่ยใหญ่วัยหกสิบปีที่ยังคงแข็งแรงภูมิฐานและขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิงอีกด้วย ซึ่งเขากับเสี่ยมลคลก็รู้จักคุ้นเคยกันดีเพราะชอบเรื่องเครื่องยนต์เหมือนๆ กัน สำหรับธามแล้วเสี่ยมงคลแทบจะคบหากันเป็นเพื่อนมากกว่าผู้ใหญ่กับผู้น้อย
“เอ้า ธาม มาๆ มาทางนี้ วันนี้เฮียมีทีเด็ดจะนำเสนอด้วยนะ” เสี่ยวัยหกสิบที่ยังไม่ยอมแก่เรียกธามอย่างสนิทสนมเรียกแทนตัวเองว่า เฮีย กับธามและให้ธามเรียกตนว่าเฮียซึ่งบ่งบอกถึงความสนิทฉันพี่น้องได้ดีนั้นเดินมาตบบ่ากอดคอกันได้ แต่เสี่ยมงคลให้ความสนิทสนมเช่นนี้กับธามเพียงคนเดียวเท่านั้น...
“สวัสดีครับเฮีย งานใหญ่ใช่เล่นนะเนี่ย”
“โอย... นี่แค่น้องๆ งานมอเตอร์โชว์น่า เฮียแค่อยากเปิดตัวโปรเจ็ครถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ งานนี้เฮียทุ่มสุดตัวเลยนาอาธาม...” เสี่ยมงคลยิ้มแป้นภูมิใจ
“ครับผมเชื่อครับ แค่ขาเข้ามารถก็ติดยาวเหยียดกว่าผมจะแอบเข้ามาหาเฮียได้ก็แย่เหมือนกันนะ” ธามรู้สึกปลอดโปร่งที่ได้คุยกับเพื่อนรุ่นใหญ่คนนี้
“แหม ธามนี่ก็ชอบล้อเฮียเรื่อยเลยนะ ไปเถอะงานจะเริ่มแล้ว บอกเลยว่าวันนี้มีทีเด็ด ฮ่าๆ” เสี่ยมงคลเดินโอบบ่าเพื่อนรุ่นลูกที่เขานิยมชมชอบไปยังงานเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดของมงคลมอเตอร์ ซึ่งงานนี้มีรถมอเตอร์ไซค์มากมายหลายรูปแบบและหลายรุ่นสำหรับหญิงชายทุกเพศทุกวัย ที่สำคัญในงานนี้มีพริตตี้สาวสวยเซ็กซี่มากมายมายืนให้รายละเอียดกับผู้สนใจรถกันละลานตา
ดวงตาคมกวาดมองหญิงสาวสวยในชุดที่เรียกความสนใจของเขาให้มองพวกเธอได้ง่ายๆ พร้อมทั้งพวกเธอบางคนก็ส่งสายตาเย้ายวนเชิญชวนให้เขาอย่างเปิดเผย แต่สำหรับธามในวันนี้เขากลับรู้สึกเฉยๆ กับพวกเธออย่างไม่รู้สาเหตุ แต่ชายหนุ่มผู้ไม่เคยขาดหญิงสาวข้างกายก็ไม่ได้มีอารมณ์จะเล่นสนุกกับสาวๆ คนไหนในวันนี้
“เป็นอะไรธามวันนี้ดูไม่สดใสเลย สาวๆ เยอะแยะยังทำให้ธามยิ้มไม่ได้เลยนะเนี่ย” เสี่ยมงคลถามอย่างรู้ใจกัน
“ก็เบื่อๆ น่ะครับ เรื่องที่บ้าน...”
“อ๋อ เฮียพอจะเข้าใจแล้ว เอาน่า คิดเสียว่าคุณแม่เขาเป็นห่วง”
“ครับผมก็พยายามคิดแบบนั้นมาตลอด...” ชายหนุ่มตอบเรื่อยๆ สายตาก็มองดูรถที่เสี่ยมลคลขนออกมาโชว์บรรดานักข่าวและช่างภาพอย่างสนใจรถมากกว่าสนใจพริตตี้ซึ่งต่างจากที่ผ่านมาที่เขามักจะสนใจบรรดาสาวๆ มากกว่ารถและเขาก็มักจะได้พวกเจ้าหล่อนกลับไปเช็คสภาพความเร่าร้อนที่คอนโดหรูกลางกรุงของเขาก่อนจะจากกันด้วยค่าเสียเวลาก้อนโต
