8 ดวงสมพงศ์
“ฮะ! นี่แกจะเอางี้เลยเหรอวะ นี่มันผิดกฎหมายนะเว้ย”
“รู้ แต่ไอ้ว่านมันบอกว่ามันสามารถแฮ็กให้ได้ เราจะได้รู้ไง ว่าเขาอยู่ที่ไหนทำอะไรบ้าง ฉันจะได้พาตัวเองไปอยู่ที่ตรงนั้น ทำให้มันเหมือนบังเอิญสุด ๆ ไม่ได้ตั้งใจ๊ ไม่ได้ตั้งใจ! และใช้มายาแบบนางเอก ที่ไม่ใช่แบบนางร้ายเขาทำกันอ่ะ” ไม่ทันที่ยิปซัมจะได้คัดค้าน
ภาพ ๆ หนึ่งก็ถูกส่งโทรศัพท์เข้ามาซะก่อน
Yon: ส่งรูปแล้ว
Yon: หามาให้ได้แล้ว อย่าลืมโอนเงินมาด้วยล่ะ
ก่อนจะกดดูภาพทั้งหมดที่เป็นเหมือนอัลบั้มใหญ่ของงานแต่งงานของกชกร ที่ป่านนี้ยังไม่ยอมอ่านไลน์ เพราะอาจจะไปฮันนีมูนสุดหวานกับสามีอยู่
ยนต์หรือยานยนต์ ประกายแสง เรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ที่มีเพื่อนเป็นช่างภาพ ซึ่งรับถ่ายงานของกชกรเข้าพอดี เลยพอจะหาไฟล์ภาพทั้งหมดมาให้ได้
“ฉันได้ข้อมูลที่จะมายืนยันให้แกแล้ว ว่าคุณอัฑฒ์อะไรเนี่ย คือเนื้อคู่ของแกตามที่ดวงบอกจริง ๆ หรือเปล่า” ว่าพร้อมผลักเพื่อนให้ออกจากโต๊ะรก ๆ ของตัวเองไป
เปิดไลน์ในคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะได้โหลดภาพมาดูแบบชัด ๆ
“ก็ชัดแล้วนี่หว่า ไม่ชัดตรงไหนเหรอ” คนงวยงงว่าพร้อมจ้องหน้าจอตามเพื่อนแบบกระหายใคร่รู้
“แกอย่าลืมสิ แกยังไม่รู้เลยนะ ว่าผู้ชายที่รับช่อดอกไม้ได้คือใคร”
“เฮ้ยแก เดี๋ยวนะ ฉันลืมนึกเรื่องนี้ไปเลยว่ะ...กัลป์ยานีเป็นลูกพี่ลูกน้องของอีน้ำกรด ก็แสดงว่าจะต้องไปงานแต่งในวันนั้นด้วยแน่ และเขาต้องเอาคุณอัฑฒ์แฟนของเขาไปด้วย
และเหมือนว่า...ยัยนีอะไรนั่นคือคนที่มายืนเบียดรอรับดอกไม้เหมือนกันกับฉันด้วย แต่ตอนนั้นฉันสนใจแต่ดอกไม้ จนลืมไปเลยว่าระดับนางงามมายืนข้างหลังตัวเองอยู่”
“นั่นแหละ ฉันก็เลยต้องหาหลักฐานมายืนยันให้ได้ ว่าคุณอัฑฒ์คือคนที่รับดอกไม้ได้จริง ๆ” ขณะเลื่อนค้นหา จิตใจอันแสนจะลุ้นระทึกของยิปซัม ก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ ตามไปด้วย
“สาธุ สาธุ” ไวชญานีก์รีบพนมมืออธิษฐานตั้งจิต ระลึกถึงคำว่า ‘ใช่’
คำว่าใช่เต็มไปหมด!
เธอกำลังรู้สึกว่าตัวเองได้รับแล้ว ได้รับสิ่งนี้แล้ว...จักรวาลบันดาลมาให้แล้ว
“ใช่จริง ๆ ด้วยแก!” ยิปซัมตะโกนพร้อมกระโดดโหยง กอดเพื่อนรักเมื่อเห็นภาพชัด ๆ ว่าคนที่รับช่อดอกไม้ได้เพราะอุบัติเหตุคือใคร
ชายร่างสูงกำยำ สง่างาม หล่อเหลาจมูกโด่งเป็นสันชัด แถมยังมีเคราแบบที่เธอตามหามานานแสนนานอีกต่างหาก
“เดี๋ยวนะ ฉันขอทบทวนไทม์ไลน์การเจอกันของฉันกับเขาหน่อยนะ...ฉันไปอธิษฐานที่ฮ่องกงเมื่อสามวันก่อนที่จะมาร่วมงานแต่ง และถ้าเขาไปงานแต่ง...แสดงว่านั่นคือครั้งแรกที่ฉันกับเขาได้เจอกัน เป็นไปตามที่ฉันขอพรว่าขอให้ได้เจอกันภายในสามวันเจ็ดวันเลยว่ะ!” แล้วไวชญานีก์ก็น้ำตาไหลพราก แบบปลาบปลื้มใจที่ดวงของเธอแม่นตามที่ถูกทำนายเอาไว้
“แล้วนี่ช่อดอกไม้ที่ฉันจะต้องรับให้ได้ เขาก็เป็นคนมารับแทนอีก โอว...นี่มันเกินกว่าคำว่าดวงสมพงศ์แล้ว นี่มันคือพลังแห่งเนื้อคู่ดลบันดาลชัด ๆ” ท่าทีเหมือนตกอยู่ในห้วงความฝันของเพื่อนรัก ทำเอาคนที่ดีใจด้วยจริงๆ กังขา
ข้อมูลทั้งหมดนี่มันก็ดูจริงแหละ...แต่ยังไม่เห็นหนทางอะไรที่จะทำให้เขามาลงเอยกับเพื่อนรักได้ จึงต้องถอนหายใจออกมา
“มันก็ดูใช่ไปหมดเลยนะเว้ย แต่ฉันยังไม่เห็นหนทางเลยอ่ะ ว่าคนอย่างอัฑฒ์ อัฒธเสสิทธิ์ จะมาสนใจคนอย่างแกได้ยังไง”
นั่นแหละ...ประโยคนี้แหละที่ทำให้โลกแห่งความฝันของไวชญานีก์พังทลายลงมา แบบกอบกู้กลับคืนไม่ได้
“คนอย่างเขาเนี่ยนะเว้ย เพอร์เฟคชั่นนิสต์ตัวพ่อ แถมยังแบบเย็นชา โหดร้ายแบบไม่แยแสความรู้สึกใครสุด ๆ เหมือนพระเอกที่แกชอบอ่านในนิยายราวกับมีนักเขียน เขียนขึ้นมาอ่ะ”
“ก็ไม่แน่นะเว้ย หุ่นนาฬิกาทรายแบบฉันเนี่ย ผู้ชายที่ไหนเห็นเป็นอันน้ำลายหกกันแถบ ๆ อยู่แล้ว” ว่าพร้อมบิดสะโพกไปมา
“อันนั้นฉันก็ทำการบ้านมาแล้ว คุณอัฑฒ์ไม่ชอบผู้หญิงเซ็กซี่เย้ายวน เขาชอบคนที่เรียบร้อย ว่าง่าย สวยสง่า อยู่ในโอวาท ผู้ดี๊ผู้ดี...แบบที่แกไม่มีสักข้ออ่ะ”
“โฮ นี่ก็พูดซะฉันเชิดคอไม่ขึ้นเลยนะ” แม้จะเห็นตามในสิ่งที่เพื่อนพูดมาทั้งหมด แต่คนไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อย่างเธอก็พยายามครุ่นคิดหาวิธีที่เหมาะสมและน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด
“ฉันจำได้ว่าสมัยเรียนยัยนีอะไรนั่น ก็เป็นสาวเซ็กซี่ตัวแม่เลยนะเว้ย ทำไมเขาไปชอบได้อ่ะ”
“มายาประดิษฐ์ไง รู้จักป่ะ...เขามีมายาประดิษฐ์ ส่วนแกน่ะ มายาอาคม” แล้วไวชญานีก์ก็ต้องหัวเราะลั่น
“ชอบคำนี้ว่ะ มายาอาคม ฮ่าๆ”
“หยุดเล่นก่อนได้ป่ะ นอกจากที่แกจะบังเอิญไปเจอเขาแบบไม่ได้ตั้งใจ๊ไม่ได้ตั้งใจแล้วเนี่ย มีอะไรที่จะทำอื่นอีกป่ะ”
สีหน้าครุ่นคิดนั้น บอกชัดว่ายังไม่น่าจะมี
“แกบอกว่าสองคนนั้นเขาคบกันมาปีที่สี่ เลขสี่พอจะมีอาถรรพ์อะไรให้คนเลิกกันได้บ้างป่ะ”
“บ้าเหรอ เลขสี่นะเว้ย ไม่ใช่เลขเจ็ด”
“ถ้างั้น ฉันก็คงจะต้องใช้อาถรรพ์ประดิษฐ์ขึ้นมาบ้างซะละ” ว่าแล้วก็ขำคิก ๆ เหมือนได้ไอเดียใหม่ ๆ
“ยังไง” ว่าอย่างไม่ไว้ใจ
“ฉันจะจ้างปาปารัชซีคอยตามติดชีวิตแม่นางสาวไทย แบบไม่ให้คลาดสายตาไปเลย”
“เพื่อ?”
“ก็เพื่อที่จะดูพฤติกรรม ว่ามีอะไรที่บ่งบอกว่าสองคนนี้พอที่จะเลิกรากันได้บ้าง แบบเราไม่ได้ไปทำอะไรให้เขาเลิกกันนะ แค่เฝ้ามองและก็จับตาเท่านั้น” ยิปซัมไม่เห็นว่าวิธีนี้จะช่วยยังไง แต่ก็ต้องตามใจคนเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดไปก่อน
แล้วค่อยหาวิธีรองรับแผนการนี้เอาทีหลัง
“แล้วสมัยนี้ยังมีปาปารัชซีให้จ้างด้วยเหรอวะ”
“ก็พอจะมีนะ ปาปารัชซีประดิษฐ์...น่ะ”
“แกจะเอาคำว่าประดิษฐ์มาใช้กับทุกอย่างไม่ได้นะเว้ย” ส่ายหัวให้เชิงขำ ก่อนหันมองหน้าจอต่อ
“นี่ไง ปาปารัชซีของฉัน” แล้วเธอก็ชูหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองให้เพื่อนดูอย่างเชิงภาคภูมิใจ
Yon: หมื่นหนึ่งนะพี่
“ไอ้ยนต์! นี่มันว่างขนาด เอาเวลาหาเงินระหว่างเรียนไปด้วยได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ”
“ฉันไม่อยากจะจ้างคนอื่นอ่ะ เดี๋ยวความลับรั่วไหล ขอตัวไปคุยโปรเจคกับไอ้ว่านก่อนนะ รีบ!” แล้วก็วิ่งแจ้นออกไปนั่งที่ระเบียงทันที ปล่อยให้คนที่รู้สึกว่าเรื่องนี้จะวายวุ่นแค่ไหน ถอนหายใจอย่างเหนื่อยรอไว้ก่อน
