3 ดอกไม้ที่รับได้
“เบื่อหรือยังคะ” เสียงเนิบนาบหากแต่กังวานใส ของหญิงสาวร่างสูงโปร่ง แต่งดงามลงตัวแบบฉบับนางสาวไทยที่เพิ่งจะคว้าตำแหน่งไปได้หมาด ๆ เมื่อต้นปี
เอ่ยกระซิบข้างหู ชายหนุ่มผู้เป็นคนรัก ที่ยืนนิ่งเหมือนหุ่นไม่ไหวติง หรือเอ่ยสิ่งใดออกมาจากริมฝีปากงามมาร่วมชั่วโมงแล้วได้
“เปล่า” คำตอบเชิงแบ่งรับแบ่งสู้จากริมฝีปากเขา ทำให้เธอยิ้มกว้างได้มากกว่าเดิม
“นีขอรับช่อดอกไม้ก่อนนะคะ แล้วค่อยกลับกัน” น้ำเสียงเชิงอ้อน เสริมด้วยการแนบศีรษะลงไปกับไหล่แข็งแกร่งของเขา ที่มีกลิ่นหอมสะอาด ฉุนน้ำหอมเพียงนิดอย่างเป็นเอกลักษณ์
ที่บ่งบอกว่าเธอจะอบอุ่นปลอดภัยแน่ เมื่อได้อยู่ใกล้
“อืม”
แม้จะเย็นชาไปหน่อย แต่เขาก็ไม่เคยขัดในสิ่งที่เธอขอ
สายตาคมกริบมุ่งตรงไปยังกลางฟลอร์ เหมือนสายตาทุกคู่ที่ต่างก็ตกกระทบลงไป ณ ที่จุดนั้น
รูปร่างได้สัดส่วนเหมือนนาฬิกาทรายนั้น ดึงดูดเขาได้อย่างน่าประหลาด แต่กิริยาท่าทางและการแสดงออก
มีสิ่งที่เขาไม่ใคร่จะชอบเต็มไปหมด
แต่แปลก...ที่เขาละสายตาออกมาจากเธอไม่ได้ แม้จะพยายามเบือนออกห่างหลายต่อหลายครั้ง
“ขอตัวก่อนนะคะ พอดีว่า...ไวน์จะต้องรีบไปยืนรับช่อดอกไม้ค่ะ” เมื่อพิธีการสำคัญได้เดินทางมาถึง
คนแน่วแน่และงมงายเป็นที่หนึ่ง ก็รีบขอตัวจากหนุ่มรูปงาม ที่สาว ๆ ทั้งงานแอบหมายปองอยู่
เขาไม่ใช่คนแรกหรอก ที่ถูกไวชญานีก์เมินใส่
เธอเมินผู้ชายมาเป็นร้อย ๆ เพียงเพราะพวกเขาไม่มีเครื่องหมายแห่ง ‘เนื้อคู่’ ที่หมอดูทำนายเอาไว้
“คนอะไรน่ารักเป็นบ้า”
เมฆากระดกแก้วเครื่องดื่มสีอำพันของตัวเองลงคอบ้าง กลัวความนุ่มบาดลึกของมันเอาไว้ชั่วครู่ ก่อนกล้ำกลืนลงไป
เธอชื่อ ‘ไวน์’ แต่เขากลับมองว่าเธอไม่ต่างอะไรจาก ‘ค็อกเทล’ ดีดีนี่แหละ
ยั่วเย้า เคล้าความนุ่ม แถมยังเชือดในลำคอเขาแบบนิ่ม ๆ อีกต่างหาก
เห็นว่าเขาจะแค่ชวนเธอคุยแก้เบื่อในงานแต่งงานอันอืดเยื้อนี้ เฉย ๆ ไม่ได้แล้ว
“นี่ พวกแกมาเบียดฉันไว้ทำไม” ไวชญนีก์พยายามเดินออกจากฝูงเพื่อนเจ้าสาว ที่พากันจงใจมายืนเบียดให้เธอรับดอกไม้ไม่ได้ถนัด
“จะอยากรับไปทำไม คนอย่างแกเนี่ย...ถึงได้ ก็ไม่มีใครแต่งด้วยหรอก!” วารุณี ดอกสร้อย เหยียดริมฝีปากบาน ๆ ของตัวเองออก อย่างน่าเกลียด
“ตาย! พูดจาไม่ดูหนังหน้าตัวเอง ถ้าไม่หยุดเบียดฉัน ฉันตบคว่ำนะ อยากจะลิ้มรสมืออีไวน์ดูป่ะ มาเดะ มา!”
แล้วคนรักตัวกลัวตาย และรู้ว่าคนที่ชอบเรียกตัวเองว่า ‘อีไวน์’ เอาจริงแน่
ก็รีบถอยหลังกรูด กรูเข้ากลุ่มตัวเอง ที่เริ่มจะถอยห่างออกจากเธอมาเหมือนกัน
“รออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ นีไปแปบเดียวค่ะ” กัลป์ยานี บวรวิเวศ ส่งจุ๊บเบา ๆ เข้าที่มุมปากหยัก ที่ยังคงเรียบเฉย
มีเพียงแววตานิ่งสนิทเท่านั้นที่มองมาเหมือนรับคำ
เขาใส่ใจแฟนสาวด้วยการมายืนใกล้ ๆ ในบริเวณที่สาวๆ ทั้งงานพากันมาออ รอช่อดอกไม้ เหมือนเป็นสิ่งที่สำคัญนักหนา
แต่สายตาก็อดที่จะตกกระทบไปยัง...บั้นท้ายกลมกลึงดึงดูดสายตาคู่นั้นไม่ได้
หล่อนกำลังเยื้องย่างปัดป่ายแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่แม้จะดึงดูดแค่ไหน คนอย่างเขาก็ไม่ชอบกิริยา ‘จัดจ้าน’ แบบนั้นอยู่ดี
เพราะคนอย่าง อัฑฒ์ อัฒธเสสิทธิ์ รักความสมบูรณ์แบบ ที่หมายถึงพรั่งพร้อมไปด้วย รูปกาย วาจาและก้นบึ้งของจิตใจ
จะเรียกเขาว่าเพอร์เฟคชั่นนิสก็ได้ ผู้หญิงที่ดึงดูดสายตาของเขาได้มากกว่าใครในตอนนี้ เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ชายอย่างเขาเรียกว่า ‘ของต้องห้าม’
เมื่อใดเข้าใกล้ หรือมีไว้ในครอบครอง เป็นอันต้องวุ่นวาย เขาเชื่อแบบนั้น จนต้องแอบสั่นหน้า
ถ้าเชื่อแบบนั้น...ทำไมหันไปทางอื่นไม่ได้วะ
“ยืนดีดีสิคะ จะโยกตัวไปมาทำไม” เมื่อถูกคนยืนข้างหน้า เฉียดไปเฉียดมา จากการตั้งรับช่อดอกไม้ ทำเอาคนที่รักษากิริยางดงามของตัวเองเอาไว้
จำต้องกัดฟันพูดออกไป อย่างผู้ดีที่สุด
“แล้วจะยืนนิ่ง ๆ อยู่ทำไมละคะ โยกไปมาสิ ยืนนิ่งแล้วจะได้ ได้ยังไง” หันมาบอกแบบเอี้ยวตัวเพียงนิด เพราะจิตจดจ่ออยู่กับเวทีเบื้องหน้า
เจ้าสาวผู้แสนจะลีลา มิยอมโยนดอกไม้สักที เพราะเห็นว่าเหล่าชาวแก๊ง บดบังคนที่ตัวเองสั่งให้บังเอาไว้ไม่ได้
“มารยาทแย่มากเลยนะคะ...” ไม่ทันที่จะได้พูดจบ ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้ยิน แรงเบียดจากด้านหน้าก็หนักหน่วงขึ้น จนสองสาวที่หลอมรวมมาเป็นจุดกึ่งกลาง
เกือบล้มโครมลงไปด้วยกัน...
“นี!” คนที่จดจ้องมองมาสักพัก อดใจไม่ไหว เดินเข้าไปหมายจะประคองเอาแฟนสาว
หากแต่กชกรผู้ถูกเร่งให้โยนดอกไม้แล้ว จำต้องโยนออกมาแบบเหมือนหลับตาโยนได้
ฟึบ!
โครม!
ร่างของสาว ๆ พากันล้มครืนลงไป แบบที่ไม่มีใครสามารถจะต้านแรงโน้มถ่วงเอาไว้ได้
ช่อดอกไม้ใหญ่ ตกกระทบกับฝ่ามือหนึ่ง ที่ทำเอาคนอึ้งกันไปทั้งงาน
‘ถ้าแกรับช่อดอกไม้ในงานนี้ได้ แกจะได้แต่งงานตามที่ดวงกำหนดในอายุ 27 ปี’
เสียงของยิปซัมก้องในหู คนที่รู้สึกเหมือนสายตากำลังพร่ามัวและสติกำลังจะถูกดับวูบไป
นี่ฉันจะไม่ได้แต่งงานตามที่ดวงกำหนดเอาไว้จริง ๆ หรือนี่ ไม่นะ...อีไวน์
