11 โชคชะตา 70
“นี่คือแผนการโปรโมตในเดือนหน้าที่อาจจะรุกหนักมากขึ้น หลายช่องทางมากขึ้น ตามที่ได้วิเคราะห์จากแนวโน้มที่มีผลกับยอดขายครับ” ฝ่ายการตลาดอธิบายโครงสร้างในที่ประชุมวางแผนประจำเดือน ที่เรียกทุกฝ่ายมารวมกัน ด้วยทีท่ามั่นอกมั่นใจ แม้จะมีความกังวลอยู่เล็กน้อย
เมื่อผู้บริหารใหญ่นั่งนิ่ง คาดเดาได้ยากมาเสมอ ว่าภายในของเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่
“ได้ทำการเปรียบเทียบกับบริษัทคู่แข่งด้วยหรือไม่ครับ” หนึ่งในฝ่ายประสานงานลูกค้ายกมือขึ้นถาม กึ่งเสนอแนะไปด้วย
“เทียบครับ บริษัทคู่แข่งรุกหนักในด้านการโฆษณาเป็นหลัก ทำให้ฐานคนรู้จักและภาพลักษณ์ของบริษัทมีทิศทางที่ชัดเจน และใช้วิธีเพอโซนัลแบรนด์ดิ้ง เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้เข้าถึงลูกค้าที่สนใจธุรกิจสตาร์ทอัพแบบโดยตรง โอกาสปิดการขายจึงง่ายกว่าครับ”
แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ฟังทุกถ้อยคำของทุกคนแบบคิดตามไปด้วยนั้น ทำให้อัฑฒ์พยักหน้า
Art.AllTech เป็นที่รู้จักก็จริง แต่เขาไม่เคยเอาตัวเองเข้าไปเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์เลย เพราะเป็นคนไม่ชอบพูด แต่ชอบคิดและสั่งการมากกว่า
“ปัจจุบันการสร้างตัวตน คือวิธีที่ง่ายและดีที่สุดในการทำการตลาด แต่ใครล่ะที่จะคือตัวตนของแบรนด์” เสียงหนึ่งว่าบ้าง และแอบลอบมองหน้าผู้มีอำนาจสูงสุด ว่าเขามีท่าต่อความคิดเห็นของตัวเองอย่างไร
“รูปแบบโปรโมชั่นล่ะ ลองทำหรือยัง” ผู้ช่วยของอัฑฒ์อย่าง วิพากษ์ พิศาลพล ผู้ฉลาดลุ่มลึกแต่ไม่ค่อยจะชอบพูดอะไรเท่าไหร่เหมือนกัน ว่าบ้าง
“ลองทำแล้วครับ แต่ทำได้ไม่มาก เพราะแบรนด์ของเราไม่เน้นเรื่องตัดราคา”
“ศึกษาคู่แข่งล่ะ เขามีจุดอ่อนอะไรที่เราจะชูความเด่นของเราตรงนั้นให้ชัด เพื่อสร้างความแตกต่าง” วิพากษ์เป็นคนฉลาด ทำงานแทนอัฑฒ์ได้แทบจะทุกเรื่อง เสียจนเคยตัว
อย่างเรื่องเมื่อคืน...เขาก็ไปทำแทนเจ้านายมา
“จุดอ่อนทางนั้นแทบจะไม่มี เขารุกคืบหนักและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด”
“อืม” อัฑฒ์พูดออกมาได้หนึ่งคำ สายตาคมแกร่งของเขาบ่งบอกถึงความมั่นคงและจงเชื่อมั่น
“ทั้งหมดที่ว่ากันมา ทุกคนเห็นว่ายังไง นำเสนอได้ตามใจ...ขอแนวทางที่ทำได้ ไม่ใช่คำถามชวนคิด” อัฑฒ์ยืดตัวขึ้น ในขณะที่วิพากษ์แววตามืดดำลง
เขากำลังถูกหักหน้าอยู่ แม้จะเป็นผู้ช่วยมือหนึ่ง แต่พักหลัง ๆ มีหลายครั้งที่วิพากษ์ทำให้อัฑฒ์รู้สึกว่ากำลังไม่ได้รับความเคารพอยู่
ความสนิทใจต่อการทำงานร่วมกันจึงลดน้อยลงไปด้วย แต่เพียงแค่ความรู้สึกแค่นั้น เขาไม่เอามาปะปนกับเรื่องงาน
เพียงแต่ครั้งนี้ วิพากษ์เอาแต่พูดมากกว่านำเสนอแนวทางที่ทำได้จริง ๆ
“เอ่อ...ดิฉันคิดว่า อยากให้คุณอัฑฒ์เป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ค่ะ” คนยกมือถามแบบกลัว ๆ กล้า ๆ ได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงฮือฮาอื้ออึง
“เหตุผลล่ะ” น้ำเสียงโทนพร้อมรับฟัง ทำให้พนักงานสาวฝ่ายการตลาดและการโฆษณา ใจชื้นขึ้น
“อาร์ทออลเทคมีเอกลักษณ์เรื่องความสมบูรณ์พร้อมเพอร์เฟค และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เราไม่เคยตามกระแสแต่ยืนหยัดและพัฒนาในเส้นทางของตัวเองให้ดีที่สุดมาตลอด คุณอัฑฒ์เป็นแบบนั้นค่ะ”
คำพูดเชิงมั่นใจของพนักงานที่ทำงานที่นี่มาตั้งแต่เริ่มต้น สอดคล้องและมีเหตุผลมากพอ ถ้าเธอทำงานที่นี่มาไม่นานเท่าไหร่ คำพูดที่ว่ามามันคงจะไม่หนักแน่นและน่าเชื่อถือ
“มีใครเห็นต่างหรือไม่”
“การยืนหยัด มันขัดกับคำว่าพัฒนาอยู่ไม่น้อยนะครับ” เสียงเรียบนิ่งเจือไปด้วยความไม่พอใจ เอ่ยขึ้นเชิงขัด
จนทุกคนหันไปมองหน้าเขาเป็นตาเดียว นับวันวิพากษ์ทำตัวเหมือนไม่ใช่ผู้ช่วยของอัฑฒ์ไปมากเข้าทุกที
“ยังไงครับคุณวิพากษ์”
“ผมทราบนะครับว่าอาร์ทออลเทค มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เน้นไปที่ความเรียบหรู ทำได้...แต่ได้ในมาตรฐานที่สูงลิบลิ่ว ผมมองว่าเอกลักษณ์บางอย่าง มันทำให้ไม่กล้าเข้าถึง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เริ่มจากศูนย์น่ะครับ”
ที่เขาว่ามามันก็ไม่ได้ผิด อัฑฒ์พยักหน้าเชิงยอมรับ และหันไปมองหน้าคนอื่น ๆ เชิงให้แสดงความคิดเห็นกันได้อย่างอิสระ
“นั่นคือสิ่งที่เราจะต้องสร้างเพอโซนัลแบรนด์ดิ้งของคุณอัฑฒ์ขึ้นมาค่ะ ภายนอกแม้คุณอัฑฒ์จะเป็นคนที่ดูเข้าถึงยาก แต่การมีตัวตนบนโลกโซเชียลของคุณอัฑฒ์นี้ จะทำให้ทุกคนได้เห็นในมุมใจดีของคุณอัฑฒ์ ที่พร้อมจะให้คำปรึกษากับคนที่เริ่มจากศูนย์จริง ๆ เพราะคุณอัฑฒ์ก็เริ่มจากศูนย์ค่ะ”
“จากศูนย์เหรอครับ ทายาทของอัฒธเสสิทธิ์น่ะหรือครับที่จะเริ่มจากศูนย์ได้” วิพากษ์พูดเหมือนเย้ยหยัน จนคนทั้งห้องประชุมเริ่มรู้สึกไม่พอใจ
“นี่เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ ดีสำหรับให้ลูกค้าเป็นคนถาม เมื่อเกิดคำถาม ความสงสัยจะตามมา...พอสงสัยก็จะเริ่มติดตาม รอชมและให้ความสนใจ คุณอัฑฒ์น่าค้นหาออกอย่างนี้ เหมาะที่จะมาเป็นเพอโซนัลแบรนด์ดิ้งสุด ๆ ค่ะ”
เสียงของคนอื่น ๆ เป็นไปในทางเห็นตาม ยกเว้นคนที่นั่งหน้าขรึมนิ่ง แต่แววตาครุ่นคิดอย่างหนัก
ความวาวโรธในแววตารียาว หางตาชี้นิด ๆ มีหรือที่คนนิ่งแต่สังเกตทุกอย่างเช่นอัฑฒ์จะไม่เห็น
“มีใครเห็นต่างมั้ยครับ”
“ก่อนที่จะถามว่าใครเห็นต่างหรือไม่เห็นต่าง ถามตัวเองก่อนมั้ยครับ ว่าคนอย่างคุณอัฑฒ์ อัฒธเสสิทธิ์ จะลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ได้รึเปล่า”
วิพากษ์ตรงประเด็นเสียจนใคร ๆ ก็ต่างรู้สึกไม่ดี เขาเอาความกล้ามาจากไหน จากการที่อัฑฒ์ไม่เคยใช้ความเหนือกว่าข่มเขาเลยน่ะหรือ
“ผมทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด หากมันสมเหตุสมผล หรือสมควรมากพอ”
“นั่นหมายความว่าต่อให้ใครแสดงความคิดเห็นยังไง แต่ถ้าคุณคิดว่ามันไม่สมควรคุณก็จะไม่ทำอยู่ดี อย่างนั้นสิน่ะครับ”
ชั่วอึดใจเท่านั้น ที่วูบไหวในแววตาคมดำดิ่งลง ก่อนประกายขึ้นมาเรียบเฉยดังเดิม หมุนปากกาในมือไปมาราวกับกำลังคิด ก่อนที่จะพูด
“ทุกความคิดเห็น คือความสมควร เพราะผมจะนำทุกความคิดเห็น มาชั่งน้ำหนักดูเหตุและผล อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ อะไรต้องปรับ อะไรต้องเพิ่ม ไม่ใช่ขัดไปซะทุกอย่าง”
ใบหน้าของผู้ที่พากันลุ้นใจจะขาด เปื้อนยิ้มขึ้นมาได้ พร้อมหายใจโล่งขึ้นด้วย
แม้อัฑฒ์จะเป็นคนดุหรือโหดในบางเวลา แต่ถ้าเหตุผลเพียงพอ เขาก็เป็นคนใจดีคนหนึ่ง ใจเย็นเป็นที่หนึ่งด้วย...ความมุทะลุดุดัน ไม่ค่อยจะมีอยู่ในตัวของเขาเท่าไหร่
“งั้นผมขอไม่แสดงความคิดเห็นอะไรก็แล้วกันนะครับ” ปิดแฟ้มจนเกิดเสียงกระทบไม่เบา จนใครต่อใครพากันไม่พอใจไปตาม ๆ กัน
ไอ้เรื่องที่วิพากษ์จะไปทำธุรกิจส่วนตัวนั้น เห็นว่าจะไม่ใช่แค่ข่าวโคมลอยแล้ว
