12 กำหนดเอง 30
“วันนี้อยู่บริษัททั้งวัน บริเวณไหนที่พอจะเดินไปได้บ้างนะ...ไม่ได้ ๆ เราตั้งใจว่าจะแค่มาอยู่ใกล้ แล้วให้โชคชะตาทำงานของมันเอง เรา 30 โชค 70 จำให้ขึ้นใจสิวะ”
ไวชญานีก์เดินตามสิ่งที่ตัวเองหมายมาด มาที่อาคารใหญ่ศูนย์รวมของบริษัทที่ไม่ต้องอาศัยพื้นที่เยอะเท่าไหร่ มีมากกว่า 50 บริษัทบนตึกสูงลิบลิ่วแต่สไตล์เก๋นี้
เธอมาในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีส้มอ่อนตัวสั้น เอวลอยนิดๆ รับกับกางเกงยีนสีขาวเอวสูงที่หลวมนิด ๆ ทรงกระบอก แต่ก็ไม่อาจจะบดบังบั้นท้ายกลมกลึงของเธอไปได้ แม้ทรงกางเกงจะหลวมแต่ก็ยังเห็นเป็นรูปร่างพองาม
ยิ่งรับกับหน้าท้องแบนราบ และหน้าอกล้นเบอร์นั้น ยิ่งทำให้เธอดูสายฝอมากขึ้น ไหนจะเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนประกายทอง ที่ปล่อยยาว ฟูนิด ๆ เทลาดไปตามแผ่นหลัง แถมยังใส่หมวกแก๊ปสีขาว ตัดมาด้วยอีกต่างหาก
เธอตั้งใจแต่งตัวชิลล์ ๆ เพื่อให้เขาเห็นอีกด้านของความเป็นตัวเธอ ที่ถ้าจะให้หรูก็หรูได้ ให้ชิลล์ก็ชิลล์ได้ไม่แพ้ใคร
“แอบท่องคาถาหน่อยดีกว่า” ว่าแล้วก็รีบกวาดสายตาไปทั่วบริเวณหน้าตึก ที่พบว่าไม่มีที่ไหนเหมาะที่จะให้คนสวย ๆ แต่รักษ์โลก หิ้วกระเป๋าผ้ามาเดินเล่นแบบนี้ได้หรอก
“ข้างในน่าจะมีร้านกาแฟ” เท้าฉับไวทันใจ เดินไปทั้ง ๆ ที่มีผ้าใบสีขาวสะอาดรองรับ
ถึงเธอจะไม่ค่อยเนี้ยบเป๊ะไปทุกอย่าง แต่ก็เป็นคนที่รักความสะอาดมากคนหนึ่ง
“ลูกค้าเปลี่ยนแผนอยากจะคุยแบบชิลล์ ๆ ที่ร้านกาแฟห่างจากตึกเราไปไม่ถึงห้าสิบเมตรหรอกค่ะ เดี๋ยวดิฉันให้คนเรียกรถมาให้ เชิญรอตรงล็อบบี้สักครู่ค่ะ” เลขาสาวใหญ่แต่ขาสั้น วิ่งสาวเท้าแทบจะไม่ทันผู้เป็นเจ้านายใหญ่
“ไม่เป็นไร ผมเดินไปได้”
“ถ้าเดินมันก็ไกลพอสมควรนะคะ”
แต่มีหรือคนที่ตัดสินใจอะไรไปแล้ว จะยอมเปลี่ยนแปลงง่าย ๆ
เท้ายาว ๆ ของคนสูงใหญ่ก้าวฉับไว ไม่เท่าไหร่ก็ไปถึงหน้าประตู
“สาธุ เพี้ยง!” ฝ่ายหญิงสาวที่แต่งตัวสบาย ๆ ง่าย ๆ หยุดยืนท่องคาถาอีกรอบหนึ่งอยู่หน้าประตู และพอท่องครบรอบที่ตัวเองตั้งเอาไว้ ก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมเดินหน้าต่อ
ขอให้ได้เจอกันในวันนี้..เพื่อพิสูจน์โชคชะตาด้วยเถิด!
จังหวะเดียวกันกับที่เธอเอื้อมมือหมายจะผลักประตู ที่เขียนเอาไว้ชัดว่า ‘Pull’
ประตูจากฝั่งนั้นก็ถูกดันเอามาพอดี แต่ด้วยความที่เรี่ยวแรงมีน้อยกว่า ทำให้เธอแทบจะกระเด็นจากแรงผลักออกมาพรวดเดียว
“โอ๊ย!”
ร่างสมส่วนหุ่นนาฬิกาทราย ร่วงลงไปกับพื้นพร้อมส่งเสียงครวญคราง จนคนที่เปิดประตูจนสุดได้แล้ว วิ่งเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ
“อ๊ะ...” ฝ่ามือใหญ่เรียวยาวทำตามสัญชาตญาณ คว้าตามร่างที่น่าจะถึงพื้นแล้ว เชิงจะรองรับ แต่เหมือนกับว่าเขากำลังกองลงไปด้วยกัน
โครม!
“นี่เดินประสาอะไรเนี่ย!” แม่สาวช่างโวย ก็ว้ายไว้ก่อน หันไปหมายจะจัดการคนที่ทำให้ตัวเองล้มลง โดยที่ช่วงแขนของเขากำลังคร่อมร่างเธออยู่
ใบหน้าคมคร้ามที่ห่างจากใบหน้าเธอไปคืบกว่า ๆ อวดใบหน้าเรียบเนียน สีขาวอมแทน มีเคราเขียวครึ้มผุดเป็นตอเล็กๆ ขึ้น เห็นแล้วชวนให้จั๊กจี้
ริมฝีปากหยักของเขา เผยอนิด ๆ เหมือนจะเอ่ยอะไร หากแต่แววตาคมกริบที่เคยนิ่ง กับฉายความประหลาดใจออกมาชัดกว่าปกติ
“คุณ...” คาถาที่เคยท่องสวดขึ้นเองอัตโนมัติในหัว
โชคชะตาทำงานเร็วมากแม่!
“คุณ” เขาเอ่ยบ้างด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แทบจะไม่พ้นลำคอ
เขาจำเธอได้ดี แม้ในวันนี้จะมาในลุคใหม่
“คุณอัฑฒ์!” เสียงของรุศดาเลขาสาวใหญ่ เรียกให้เขาได้สติและรีบช่วยดึงคนที่อยู่ใต้ร่างให้ลุกขึ้น
โชคดีที่ไม่มีใครเดินผ่านมาแถวนี้ เพียงแค่วูบของลมเบา ๆ หอบเอากลิ่นหอมสะอาดติดไปทางฉุนนิด ๆ มาจากสูทสีเข้มของเขา
ร่างทั้งร่างของไวชยานีก์ก็แทบจะร่วงลงไปกับพื้นอีกรอบ
“เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงเข้มเชิงดุที่ถามเหมือนย้ำ เพราะเธอไม่ยอมตอบสักทีนั้น เรียกสติเคลิ้มชวนฝันให้ตื่นขึ้น พร้อมตั้งตัวให้ได้
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“เดินยังไง ไม่รู้จักระวัง” ไม่ใช่แค่หญิงสาวผู้ที่เพิ่งจะตั้งตัวได้เท่านั้น ที่ตาโตขึ้น เลขาสาวใหญ่ที่หอบแฟ้มมากมาย ก็ตาโตขึ้นด้วย
อัฑฒ์ช่างดุก็จริง แต่เขาไม่ใช่คนที่จะดุใครไปเรื่อย โดยเฉพาะคนเพิ่งเจอกันแบบนี้!
เอ๊ะ หรือว่าคุณอัฑฒ์จะรู้จักเจ้าหล่อน
“โอ้โห คุณนี่มันดูนิ่ง ๆ แต่ปากร้ายกาจมากเลยนะ! คุณน่ะสิเดินประสาอะไร ถึงได้ทะเล่อทะล่าออกมาแบบนั้น” ความเดือดปุด ๆ ผุดขึ้นกลางใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากเจื้อยแจ้วของเธอนั้น ทำเอาเขารู้สึกมันเขี้ยวแบบไม่รู้ตัว
“ไปอ่านหน้าประตูให้ดี ก่อนที่จะโชว์ความสะเพร่าของตัวเองออกมา”
ไวชญานีก์แทบจะกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน ในขณะที่เขากำลังจะเดินจากไป
จากไป...ด้วยการทิ้งสายตาตำหนิเอาไว้เป็นวงกว้าง สายตากลมโตแวววาวอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะหันไปมองหน้าประตูอย่างที่เขาว่า ‘Pull’
“แปลว่าอะไรวะ ไม่ได้แปลว่าผลักเหรอ” ความที่เธอไม่เก่งภาษาอังกฤษมาแต่ไหน เรียกง่าย ๆ ว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลยจะเหมาะสมกว่า
“โธ่เว้ย!” แต่เธอก็ทำได้เพียงก่นด่าลมฟ้าและมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาไปก็เท่านั้น
“แต่เดี๋ยวนะ...บทชนแล้วล้มแบบนี้ มันจังหวะพระเอกนางเอกชัด ๆ วิธีเปิดโชคชะตาและท่องคาถาได้ผลจริงด้วย!” ว่าแล้วเธอก็รีบฉีกยิ้มกว้าง ใจเต้นระริก ตัวแทบจะกระโดดโลดเต้น ลืมไปเลยว่าจะต้องเจ็บช้ำจากน้ำคำของเขาน่ะ!
