บท
ตั้งค่า

กุญแจดอกที่ 1 : การพบกันครั้งแรก

เคยเกลียดชังตนเองไหม...เกลียดชังจนขนาดที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่

ในขณะที่คิดแบบนั้น...ในขณะที่ถึงทางตันอย่างที่สุด

เด็กคนนั้นกลับกระโดดลงมายืนอยู่ตรงหน้า

เด็กที่เย็นชาเสียจนน่ากลัวคนนั้นกลับจับดาบฆ่าปีศาจมากมาย

แต่ทำไมไม่รู้...ปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดภายในตัวเธอกลับค่อยๆสงบลง...

•.★*... ...*★.•

ในยามราตรีที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว แสงของดวงดาวพากันสาดส่องอยู่บนน่านฟ้าสีนิลราวกับจะบอกดวงจันทร์ว่ายังมีพวกมันอยู่เป็นเพื่อนในเวลากลางคืนที่ยาวนานและเงียบเหงา ทุกบ้านช่องได้ปิดประตูอย่างแน่นหนาในยามนิทราเพื่อป้องกันพวกขโมยและสัตว์กลางคืนที่หิวโหย แต่ที่สำคัญที่สุดคือป้องกันปีศาจที่ออกล่าในยามราตรีกาล แม้จะมีพวกนักล่ามากมายออกล่าปีศาจทว่าพวกมันก็มีมากไม่หมดไม่สิ้น

ท่ามกลางความเงียบที่ไร้ผู้คนร่างเล็กของเด็กหญิงผมชมพูยาวกำลังวิ่งไปบนหลังคาบ้านอย่างรวดเร็ว ร่างนั้นมีท่าทางคล่องแคล่วและว่องไวเหมือนกับว่าเจ้าตัวถูกฝึกมาเป็นอย่างดี เสื้อหลายแห่งบนร่างฉีกขาดทำให้มองเห็นบาดแผลมากมายที่ยังคงมีเลือดไหลออกมา

โลหิตสีแดงฉานเปรอะเปื้อนทั้งเสื้อผ้าและใบหน้าสวยของเด็กน้อย มือข้างหนึ่งกุมแขนอีกข้างที่ยกไม่ขึ้นเอาไว้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ บนไหล่ที่เสื้อผ้าฉีกขาดเผยให้เห็นดอกกุหลาบสีขาวดอกใหญ่ซึ่งบ่งบอกว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นนักล่าที่ออกมาทำงานในยามค่ำคืน

ดวงตาสีทองคำลุกโชนในความมืดมิดขณะปากเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรงเพื่อข่มความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับ เลือดสีแดงฉานยังคงหยดไปตามทางที่เด็กน้อยวิ่งผ่านและเพราะเลือดที่ไหลไม่หยุดถึงทำให้ปีศาจด้านหลังไล่ตามมาถูก

“อย่า...อย่าเพิ่งออกมา...ที่นี่ไม่ได้...” เสียงหวานครางออกมาก่อนจะเร่งฝีเท้าเร็วยิ่งขึ้นขณะดวงตาสีทองคำก็เร่งหาสถานที่ที่ไม่มีบ้านเรือนเพื่อซ่อนตัว

ทรมาน...ทรมานมาก...ทรมานจนไม่อยากจะทนอีกต่อไป แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะฉะนั้น...อย่า...อย่าได้ออกมา ต่อให้ต้องทรมานมากกว่านี้ก็อย่าได้ออกมาเด็ดขาด

เด็กน้อยหันไปมองด้านหลังทำให้เห็นร่างสีดำของอะไรบางอย่างที่ตามเธอมาติดๆ ดวงตาสีแดงเลือดของมันวาววับขณะจับจ้องเหยื่อที่วิ่งอยู่ด้านหน้า มันคือปีศาจที่รักการเข่นฆ่ายิ่งกว่าชีวิต

เด็กหญิงผมชมพูกัดฟันแน่น สิ่งที่อยู่ด้านหลังนั้นยังไม่น่ากลัวเท่ากับสิ่งที่แฝงอยู่ในร่างของเธอ ถ้าหากว่ามันหลุดออกมาได้ทุกอย่างคงพังพินาศเป็นแน่

“อีกนิดเดียว...อย่าเพิ่งออกมา...อีกแค่นิดเดียว” เด็กหญิงกัดฟันพูดเมื่อบางสิ่งบางอย่างกำลังปะทุอยู่ในร่าง มันดิ้นรนอยู่ข้างใน ร่ำร้องจะออกมาเพื่อขยี้ทุกอย่างที่ขวางหน้า

กร๊าซ... เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เด็กหญิงยิ่งเร่งฝีเท้าเพราะเสียงนั่นเป็นตัวกระตุ้นให้สิ่งที่อยู่ภายในร่างยิ่งดิ้นรนหนักขึ้น มันกำลังพยายามไขว้คว้าอิสรภาพที่เธอไม่ยินดีจะมอบให้

ฟุบ... เด็กหญิงผมชมพูกระโดดลงจากหลังคาบ้าน เจ้าตัวพยายามฝืนร่างกายเพื่อจะหาที่ซ่อนตัว แต่น่าเสียดายเพราะเธอไม่เหลือเรี่ยวแรงพอที่จะไปต่ออีกแล้ว ทว่าที่นี่ก็ยังไม่ใช่ที่ที่เธอจะสามารถหยุดพักได้

เด็กหญิงค่อยๆลากสังขารของตนเองไปตามทางเดิน มือข้างที่ยังยกขึ้นเกาะไปตามกำแพงด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือไม่มาก เสียงหอบเล็กๆเพราะความเหนื่อยผสมกับความทรมานยังคงดังท่ามกลางความเงียบ แต่สุดท้ายเด็กหญิงก็ทรุดลงไปกองกับพื้น ดวงตาสีทองคำทอดมองทางเบื้องหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน

เจ็บ...เจ็บไปทั้งตัว เจ็บจนแทบไม่รู้สึก ทว่าต่อให้ต้องเจ็บปวดมากกว่านี้แต่ได้โปรด...ได้โปรดอย่าได้ออกมา เด็กน้อยอ้อนวอนทั้งน้ำตา อ้อนวอนอะไรก็ได้ที่สามารถพันธนาการปีศาจร้ายในตัวเธอเอาไว้ให้ลึกที่สุด ทั้งที่รู้ว่าคำอ้อนวอนนั่นไม่มีวันจะเป็นจริง ทั้งที่รู้ดีที่สุดว่าต่อให้นั่งอ้อนวอนจนสุดแรงมันก็ไม่มีวันเป็นได้

ตึง... เสียงลงฝีเท้าหนักๆดังมาติดๆก่อนร่างยักษ์สีดำน่าขยะแขยงจะปรากฏอยู่ตรงหน้าเด็กน้อย ดวงตาสีแดงฉานดุจโลหิตคู่นั้นเต็มไปด้วยความกระหายจากการไล่ล่าและกลิ่นเลือด มันค่อยๆย่างเท้าเข้าหาเด็กหญิงพร้อมแสยะเขี้ยวแหลมเล็กเต็มปาก

เด็กหญิงไม่ได้กลัวสิ่งที่อยู่ด้านหน้าเลยสักนิด สิ่งที่เธอกลัวคือสิ่งที่อยู่ในร่างกายเธอมากกว่า ดวงตาสีทองฉายแววหมดหวังออกมา

จบแล้วสินะ ขอโทษท่านพ่อ...ลูกไม่น่าออกมาทำงานแรกก่อนเลย...ทั้งที่ท่านบอกให้รอก่อนแท้ๆ เด็กน้อยคิดพลางมองเล็บแหลมคมที่จ่อตรงเข้ามาที่ใบหน้าราวกับตัดความหวังทั้งหมดของเธอลง

อึก... ร่างเล็กกระตุกด้วยความแรงเมื่อสิ่งที่อยู่ในร่างเรียกร้องจะออกมาให้ได้

อย่า...อย่าออกมา...ได้โปรด ต่อให้เธอต้องตาย ต่อให้ต้องเป็นอาหารให้ปีศาจตรงหน้า ก็อย่าได้ออกมา...

อึก.. เด็กน้อยกัดปากขณะที่เริ่มทนไม่ไหว ปีศาจภายในกำลังร่ำร้องจะออกมาและเธอก็ไม่สามารถจะยับยั้งมันได้อีกต่อไป...

ฟุบ!!

ขณะที่กำลังคิดจะตัดใจเสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังมาจากด้านหลังของปีศาจ จิตสังหารแผ่กระจายอย่างรุนแรงกดดันทุกอย่างให้อยู่ภายใต้อำนาจของมัน จิตสังหารมากมายมหาศาลแบบนี้มีเพียงพวกนักล่าลำดับต้นเท่านั้นที่มีได้ คนที่มาเป็นใครกัน...

ดวงตาสีทองคำของเด็กหญิงชะโงกไปมองผู้มาเยือนขณะที่ปีศาจตรงหน้าผงะไปด้วยความหวาดกลัว ปีศาจมักมีสัญชาตญาณดี เพียงแค่แวบเดียวมันก็รู้ว่าใครไม่สมควรจะไปหาเรื่องด้วยมากที่สุด

ผู้มาใหม่ทำให้เด็กหญิงผมชมพูแปลกใจเพราะคนตรงหน้ายังเป็นเพียงเด็กผู้ชายเท่านั้น ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยขณะดวงตาคู่นั้นเย็นชาและเด็ดขาด แต่ลึกๆแล้วมันเก็บซ่อนความโหดเหี้ยมไว้ได้อย่างมิดชิด ผมสีดำซอยสั้นกลืนไปกับรัตติกาลยามราตรีอันเงียบเชียบ สายลมยามดึกพัดพาขึ้นมาอย่างรุนแรงจนทำเอาใบไม้ปลิวว่อน ช่างน่าแปลก จิตสังหารที่กระจายตัวอยู่นั้นไม่ได้แค่สะกดการเคลื่อนไหวของปีศาจร้ายตรงหน้าแต่มันกลับทำให้สิ่งที่ดิ้นรนอยู่ในกายเธอสงบลงไปด้วย

คนตรงหน้าทำได้ยังไง ทั้งที่เธอพยายามแทบไม่คิดชีวิตเพื่อสะกดมันเอาไว้ เธอแทบจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพันธนาการมัน ทว่ามันไม่เคยได้ผล แต่คนตรงหน้ากลับทำได้...เพราะอะไร

เด็กชายก้าวเท้าเข้ามาอย่างใจเย็นก่อนเจ้าตัวจะชักดาบออกจากปลอก คมดาบสีเงินวาววับที่สะท้อนแสงจันทร์ดูคมกริบแต่ก็งดงาม ทว่าเพียงแค่พริบตาเดียวที่เด็กชายตรงหน้ากวัดแกว่งมันทั้งเด็กหญิงและปีศาจก็ได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วความโหดเหี้ยมเป็นเช่นใด

เสียงกรีดร้องของปีศาจดังก้องอย่างน่าขนลุกท่ามกลางความเงียบงันที่ว่างเปล่า เสียงคมดาบแหวกเนื้อดังลั่นยังคงมีให้ได้ยินไม่หยุด เลือดสีแดงฉานสาดกระจายย้อมทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ใบไม้สีน้ำตาลแห้งที่ปลิวตามสายลมถูกย้อมไปด้วยเลือดสดๆที่ส่งกลิ่นเหม็นคาว

เด็กคนนี้เป็นนักล่าไม่ผิดแน่น เป็นนักล่าที่มีฝีมือเก่งกาจเทียบชั้นกับพวกนักล่าอันดับต้นเลยทีเดียว

แต่เห็นแล้วก็ช่างสมเพชนัก พวกเราเป็นนักล่าปีศาจทว่าในยามที่พวกเราออกล่ามันกลับไม่ต่างจากปีศาจเลย

เสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายของปีศาจตนนั้นดังและยาวนานที่สุดก่อนจะเงียบไปเมื่อเด็กชายตัดสินใจแทงดาบเข้าที่ขั้วหัวใจเพื่อดับชีวิตของมัน ลมหายใจขาดห้วงไปทันทีบ่งบอกว่ามันไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว

เด็กหญิงยังคงนิ่งมองการสังหารตรงหน้าไม่ได้ละไปไหน เธอไม่เคยกลัวการสังหารแม้จะเลือดเย็นแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่เธอกลัวคือเลือด...เพราะเลือดสีแดงฉานในยามกลางคืนจะเป็นสิ่งที่ปลุกปีศาจร้ายในตัวเธอ แต่ตอนนี้ทั้งๆที่เลือดกระจายอยู่ตรงหน้าในยามราตรีแต่ปีศาจร้ายในร่างกลับไม่มีการดิ้นรนหรือร่ำร้องจะออกมาเลยสักนิด เด็กชายกวาดดวงตามามองเด็กหญิงก่อนจะก้าวเข้ามาหา

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” เสียงราบเรียบที่ลดความแข็งกร้าวเอ่ยถาม แต่ในน้ำเสียงยังคงมีความห่างเหินจนไม่น่าเข้าใกล้

เด็กหญิงผมชมพูนิ่งไปนิดก่อนจะเอื้อมมือไปแตะเลือดสีแดงฉานที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อในอะไรสักอย่าง ขนาดสัมผัสแบบนี้ปีศาจในร่างกายเธอก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร แต่ท่าทางแบบนั้นทำเอาเด็กชายตีความหมายผิดไป

“เธอกลัวหรือ ฉันขอโทษนะ” เสียงนั้นเริ่มอ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหญิง เด็กชายนึกเสียใจขึ้นมาจริงๆ เขาไม่น่าให้คนตรงหน้าเห็นตอนที่ตนเองสังหารปีศาจนั่นเลย

แต่ในวินาทีนั้นเด็กหญิงผมชมพูกลับเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีทองคำแปลกประหลาดแต่กลับสวยดีในความคิดเด็กชาย มันราวกับจะทอประกายในยามราตรีที่มืดมิด เหมือนหมู่ดาวไม่มีผิด

“เปล่า...ฉันไม่ได้กลัว” เด็กหญิงส่ายหน้าให้อย่างน่ารักก่อนจะยิ้มให้และมันทำเอาเด็กชายหน้าแดงขึ้นมาเฉยๆ เด็กหญิงคนนี้น่ารักมาก เด็กชายอดคิดในใจไม่ได้ขณะพยายามซ่อนใบหน้าแดงก่ำของตนเองไว้ในเงามืด

“เธอบาดเจ็บนี่” เมื่อเห็นเด็กหญิงไม่ยอมลุกขึ้นมาเด็กชายก็กวาดมองร่างเล็กตรงหน้า แล้วเขาก็เจอบาดแผลทั่วร่างเล็ก เด็กชายลงมือรักษาบาดแผลให้เด็กหญิงอย่างนุ่มนวลทั้งที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน ส่วนเด็กหญิงก็ได้แต่ยิ้มตอบอย่างนึกขอบคุณด้วยใจจริง

มันเป็นการพบกันครั้งแรกของคนทั้งสองโดยที่เด็กน้อยก็ยังไม่รู้เลยว่าในอนาคตอันใกล้พวกเขาก็ยังต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง และการเจอกันอีกครั้งมันจะทำให้พวกเขาแยกจากกันไม่ได้ไปตลอดชีวิต

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel