ญานิน4/2
หญิงสาวเดินขึ้นบันไดด้วยความระมัดระวัง พลางคิดหาทางหย่าที่จะกับปรเมศให้ได้ ซึ่งเขมมิกาเคยเอ่ยปากไปแล้วหลายครั้ง แต่เขายังคงยืนกรานที่จะทรมานเธอ
ในเวลานี้ญานินกำลังแอบซุ่มเก็บทุกรายละเอียด หลังจากรู้ว่าปรเมศมีภรรยาอยู่แล้ว แต่คนทั้งคู่กลับมีท่าทีหมางเมินใส่กัน ซ้ำยังมีปัญหาบางอย่าง ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ได้อย่างราบรื่น
หมับ!!
“นี่คุณปล่อยนะ! เข้ามาทำไม” เขมมิกาพยายามสะบัดข้อมือออก ทว่าปรเมศกลับจับกดกับผนังห้องอย่างแรง
“ผมไม่คิดเลยว่าผู้หญิงอย่างคุณจะมีนิสัยไม่ต่างจากพี่สาวสักนิด มีผมเป็นผัวคนเดียวไม่พอหรือไง ถึงได้อ่อยผู้ชายไปทั่ว” ดวงหน้าคมเผยแววตาเกรี้ยวกราด จนเขมมิการู้สึกขยาด แต่ก็ทำเป็นใจดีสู้เสือ
“ปล่อยนะฉันเจ็บ!” เขาบีบโดนรอยที่เพิ่งดึงเข็มออก จนทำให้เลือดซึม ซึ่งเขมมิการู้สึกเจ็บไม่น้อย แต่นั่นก็ไม่เท่าก้อนเนื้อที่อกข้างซ้าย ถ้าเลือกได้มันคงหยุดเต้นไปนานแล้ว
“เจ็บเหรอ... แค่นี้มันยังน้อยไป แม่ของผมเจ็บกว่าคุณหลายเท่า อย่ามาทำเป็นสำออยหน่อยเลย”
หยาดน้ำตาใส ๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย นอกจากผู้เป็นสามีจะไม่ถามไถ่ถึงอาการป่วยของเธอ เวลานี้เขายังทำร้ายเธออีกด้วย ปรเมศคนเดิมไม่เหลือเค้าให้เห็นอีกแล้ว ผู้ชายอ่อนโยนพูดจาอ่อนหวานทะนุถนอมเธอราวกับเจ้าหญิง ตอนนี้กลับกลายเป็นปิศาจร้ายไปแล้ว
“ไม่รักกันแล้วทำไมต้องทำร้ายกันด้วย ฮึก ฮึก ฮื้อ!... ฉันเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ถ้าฉันตายไปคุณคงสะใจมากสินะ” หญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาร้องไห้ออกมาจนตัวสั่นเทา เธอทรุดกายลงไปกับพื้น แล้วก้มหน้าสะอึกสะอื้นออกมาด้วยความระทมในหัวใจ
ปรเมศเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน เขาสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ อยู่หลายครั้ง เพื่อบรรเทาความใจร้อน เพราะกลัวพลั้งมือทำร้ายหญิงสาว เขาอยากฆ่าเธอให้ตายตามมารดาไปด้วยซ้ำ แต่ความรักที่มีต่อเขมมิกานั้น มันยังคงส่งผลให้เขาทำร้ายเธอไม่ลง
ปึง! เสียงปิดประตูกระแทกอย่างแรงดังขึ้น จนหญิงสาวถึงกับสะดุ้งสะดุ้ง ก่อนจะค่อย ๆ ลุกเดินไปลงกลอนประตู ก่อนจะวกมานั่งที่เตียง จากนั้นหญิงสาวได้เก็บเอกสารสำคัญเอาไว้ เธอจะออกไปจากบ้านหลังนี้ไปตัวเปล่า
แม้แต่เสื้อผ้าสักชุดเธอก็จะทิ้งมันไว้ที่นี่ เธอจะเดินออกไปโดยไม่สนใจสมบัติสักชิ้น แม้เขมมิกาจะมีส่วนได้รับในสินสมรส แต่หญิงสาวกลับไม่ต้องการอะไรเลย นอกจากอิสรภาพของเธอ
“แม่สัญญาว่าจะพาหนูออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เราสองคนแม่ลูกจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ให้ได้”
หญิงสาวหยิบภาพถ่ายที่เธอเคยทำงานให้กับองค์กรขึ้นมาดู อาจารย์สอนพิเศษที่เคยได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่ง แต่ต้องยอมสละอาชีพที่รัก ผันตัวเองมาทำหน้าที่แม่บ้านให้กับผู้ชายอย่างปรเมศ สุดท้ายเขากลับไม่เห็นคุณค่าในตัวเธอเลยสักนิด
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!เสียงประตูหน้าห้องดังขึ้น ซึ่งทำให้เขมมิการีบเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“คุณเขมนี่ป้าเองค่ะ ป้าเอาข้าวต้มร้อน ๆ มาให้” เสียงป้าพิกุลดังอยู่หน้าห้อง ซึ่งทำให้หญิงสาวจำใจต้องเดินไปเปิดประตู
“ขอบคุณค่ะป้า ลำบากป้าแย่เลย”
“ลำบากอะไรกัน สำหรับคุณเขมแล้วป้าเต็มใจทำให้ทุกอย่าง เรื่องคุณท่านกับพี่สาวของคุณเขม ไม่รู้ทำไมคุณปรเมศถึงได้โยงไปมั่วแบบนี้ คุณเขมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องสักหน่อย”
“พี่มิ้นเป็นพี่สาวของเขม ในสายตาของคุณปรเมศยังไงเขมก็มีส่วนผิด อ๊วก!อ้วก!” หญิงสาวเริ่มทนกลิ่นข้าวต้มปลาไม่ไหว เธอจึงวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำทันที
