บท
ตั้งค่า

บทที่13 คนนั้นเขาจ่ายไหวอยู่แล้ว

เมื่อถึงเวลาเลิกงานสองแม่ลูกก็ตกลงกับคุณป้ายังสาวว่าจะไปทานอาหารนอกบ้านกันโดยไม่มีทีท่าจะสนใจราชนาวีหรือแม้แต่จะมีน้ำใจชักชวนก็ไม่มีทำเอาชายหนุ่มถึงขั้นซึมหนัก นี่ลูกเมียเขางอนเรื่องที่เขาไปราชการไม่บอกแค่นั้นจริง ๆ หรือมีอะไรมากกว่านั้นกันถึงได้เมินกันขนาดนี้

ชายหนุ่มได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่หน้าด้านตามสามสาวต่างวัยไปด้วยข้อเสนอที่รติภัทรยินดีหนีบไปด้วยเป็นอย่างมากจนถึงขั้นขัดใจน้องสาวและหลาน นั่นก็คือ เขาจะเป็นเจ้ามือเอง นี่ล่ะเพื่อนของเขาชอบนักล่ะเรื่องอิ่มจังตังค์อยู่ครบน่ะ

“วันนี้ทานกันให้เต็มที่เลยนะทุกคน” รัมภาภัสร์เอ่ยขึ้นก่อนจะมีเสียงตอบรับเฮฮา ราชนาวีมองแล้วก็ได้แต่กุมขมับ คุณเธอไม่ได้ออกมาทานอาหารแค่กับพี่สาวและเด็กหญิงรัมภาวีร์เท่านั้นแต่ยังนัดเพื่อนร่วมทีมและร่วมงานมาอีกตั้งหลายคน

ให้ตายชัก เงินเดือนเขาทั้งเดือนคงจะต้องหมดไปกับคนพวกนี้แน่ ๆ

รัมภาภัสร์ยิ้มพร้อมกับยักไหล่ ก็ราชนาวีอยากจะเป็นเจ้ามือดีนักไม่ใช่เหรอ เธอก็จัดให้แล้วนี่ไงล่ะ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา5-6ปีทำไมหญิงสาวจะไม่รู้ว่าราชนาวีนั้นค่อยข้างขี้เหนียว เอ้ย สมถะ เงินเดือนแต่ล่ะเดือนที่เหลือจากใช้จ่ายในบ้านและเป็นค่าขนมลูกแล้วก็เก็บออมหมด ไม่เคยใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย โดยเฉพาะกับเรื่องดื่มกิน ผู้ชายคนนี้ถ้าไม่จำเป็นจะไม่เป็นเจ้ามือจ่ายค่าอาหารให้ใครหรอก เพราะเสียดายเงิน คราวนี้มาทำใจป้ำจะเป็นเจ้ามือเธอก็จัดให้อย่างสาสม จะได้รู้สึกเสียบ้าง

“คือเต็มที่ได้เลยใช่ไหมฮะ” ทิวาถามด้วยความเกรงใจ

“ได้สิคะพี่ทิวา เต็มที่ได้เลยค่ะ ขนหน้าแข้งคนนั้นไม่ร่วงหรอก เงินเดือนหมดยังมีเงินมรดกและเงินกงสี” หนูน้อยรัมภาวีร์บอกเสียงฟังชัด 

“อย่างที่หนูเล็กพูดนั่นแหละค่ะ เต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ คนนั้นเขาจ่ายไหวอยู่แล้ว”

รติภัทรมองสองแม่ลูกแล้วก็ได้แต่ตบไหล่ให้กำลังใจเพื่อนสนิท แท้จริงแล้วราชนาวีจัดอยู่ในกลุ่มลูกหลานครอบครัวมหาเศรษฐี ฝั่งคุณย่าก็มีธุรกิจโรงแรมชั้นนำของประเทศและมีหุ้นอยู่ในบริษัทชั้นนำอีกหลายแห่ง ฝั่งคุณตาก็มีธุรกิจสิ่งทอและมีหุ้นในสายการบินขึ้นชื่อของประเทศ และด้วยความที่ราชนาวีเป็นหลานชายคนแรกทั้งคุณย่าและคุณตาก็พร้อมใจกันยกธุรกิจส่วนใหญ่เป็นมรดกให้กับชายหนุ่ม พร้อมกับจัดหาคนบริหารให้อย่างเรียบร้อย คนเป็นหลานไม่ต้องทำอะไรรอรับผลประกอบการก็พอ แล้วฝั่งคุณตายังอยู่กันอย่างระบบกงสี เมื่อมารดาไม่รับส่วนแบ่งกงสี ส่วนนั้นจึงตกมาอยู่ที่ราชนาวีและน้อง ๆ

แต่ถึงจะมีทั้งเงินจากกิจการในมรดกและเงินส่วนแบ่งจากระบบกงสี แต่เพื่อนของเธอก็ไม่ได้เอามาใช้เลยสักบาทหลังจากที่เริ่มมีเงินเดือน โดยให้เหตุผลว่าแค่เงินเดือนก็อยู่ได้ เงินในส่วนอื่น ๆ ก็เก็บไว้กินดอกเบี้ยแทน ตั้งแต่รู้จักราชนาวีมารติภัทรรู้ดีว่าเพื่อนของเธอคนนี้คลั่งใคล้การออมมากกว่าการใช้เงิน แม้แต่เงินเดือนยังเจียดไปออมเลย น้อยครั้งที่จะใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายโดยเหตุผลของความสมถะก็คือนายคนนี้เสียดายเงิน

น้องสาวของเธอเล่นงานสามีได้แสบสันเสียจริง รัมภาภัสร์รู้ว่าการต้องเจียดเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายทำให้ราชนาวีปวดใจก็ใช้ข้อนี้มาเล่นงานนายทหารหนุ่ม

“รัก แกไปทำอะไรนอกเหนือจากการไม่บอกเรื่องออกเรือด่วนให้ยัยรุ้งโกรธปะเนี่ย ฉันรู้สึกว่ามันทะแม่ง ๆ” รติภัทรหันไปถามเพื่อนหนุ่มที่มองอาหารบนโต๊ะตาปริบ ๆ แต่กินไม่ลง

“ฉันก็รู้สึกว่าสองแม่ลูกนี่ทะแม่ง ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกเขามีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า” รัมภาภัสร์และเด็กหญิงรัมภาวีร์เหมือนจะไม่ฟังเหตุผลและโกรธมากถึงพากันมาอยู่กรุงเทพมหานคร แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าทั้งคู่เข้าใจในเหตุผลของเขาแต่มีบางเรื่องที่ทำให้ไม่อยากหายโกรธและยอมกลับบ้านกันง่าย ๆ

“แค่เรื่องไปไหนไม่บอกในช่วงวันเกิดลูกนี่มันเหตุผลไม่เพียงพอที่จะทำให้แจ้นกันขึ้นมาหาฉัน หรือแม้แต่หางานทำหาโรงเรียนเรียน แกแน่ใจนะว่าไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น หรือแกมีชู้”

“สาบานให้ฟ้าผ่าเลยไหม ตั้งแต่มีหนูเล็ก ฉันเคยไปเถลไถลที่ไหนบ้าง ไม่อยู่บนเรือก็อยู่แต่กับลูก” ราชนาวีบอกก่อนที่โดนเพื่อนสาวเกาะแขน

“หรือเกี่ยวกับพิมมี่”

“พิมมี่?”

“ก็ฉันได้ข่าวมาว่าพิมมี่มันเลิกกับแดนนี่แล้ว แล้วก็กลับไปอยู่สัตหีบ” รติภัทรบอก พิมมี่ หรือ พีรมา เป็นแฟนเก่าของราชนาวีที่บอกเลิกไปแต่งงานกับหนุ่มสเปนเจ้าของโรงแรมใหญ่ในพัทยาจนทำให้ราชนาวีเมาเหมือนหมาให้เธอลากกลับไปนอนที่ห้องนั่งเล่นของบ้านในวันที่พ่อแม่และน้องไม่อยู่ จนเกิดเรื่องจะเข้าห้องน้ำแต่ดันไปเข้าห้องน้องสาวเธอนั่นล่ะ

“เลิกกับแดนนี่แล้วไง ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉัน ฉันกับเขาก็จบกันตั้งแต่วินาทีที่เขาบอกเลิกฉันแล้ว” ความรู้สึกดี ๆ ราชนาวีไม่มีให้พีรมาตั้งนานแล้ว มีแต่ความรู้สึกแค้นที่พ่อของสาวเจ้าทำแพปลาบังหน้าแต่ลับหลังลักลอบส่งยานรกจากกัมพูชาเข้ามาปล่อยในไทยแล้วยังแอบอ้างชื่อเขาไปเกี่ยวข้องจนเขาเกือบจะซวยกลายเป็นแพะรับบาปเมื่อไม่นานมานี้

“ก็หล่อนอาจจะอยากมาคืนดีกับแกจนไปกุเรื่องให้ยัยรุ้งเข้าใจผิดก็ได้ใครจะไปรู้”

“ตลก คนบ้าที่ไหนจะอยากคืนดีกับคนที่ทำให้พ่อตัวเองเข้าคุก” ราชนาวีค้านความคิดของเพื่อนก่อนที่จะหันไปคำนวนค่าอาหารมื้อนี้ด้วยใบหน้าซึม ๆ ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเพื่อนสาวเลยแม้แต่น้อย

“ฉันก็หวังว่ายัยนั่นจะไม่ใช่คนบ้า” เพื่อนสาวพึมพำก่อนที่จะตักนั่นตักนี่กินให้คุ้มกับที่ราชนาวียอมเป็นเจ้ามือ 10ปีจะมีสักครั้งหรอกนะโอกาสแบบนี้ เธอต้องกินให้คุ้ม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel