บท
ตั้งค่า

ตอนที่14 คุยกันก่อน

คนโดนเมินก็คือโดนเมิน จะจ่ายหนักขนาดไหน ทั้งลูก ทั้งเมียก็ยังคงเมิน ทันทีที่กลับถึงคอนโดของรติภัทรสองแม่ลูกก็เข้าห้องปิดประตูไม่ยอมโผล่หน้ามาเจรจาภาทีกับชายหนุ่มแม้แต่คำเดียว

“แล้วคืนนี้แกจะนอนไหนเนี่ย โซฟาหน้าทีวี หรือว่าไปหาห้องพัก? หรือไปนอนบ้านน้า” รติภัทรส่งคำถามมาด้วยตาปรือ ๆ สาวเจ้าง่วงนอนเต็มทีแต่ก็ยังห่วงเพื่อนหนุ่ม “ไม่ต้องตอบ แกนอนนี่ล่ะ เดี๋ยวไปหาผ้าห่มกับหมอนมาให้”

“อือ” ชายหนุ่มตอบกลับก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟา ไม่นานรติภัทรก็นำผ้าห่มและหมอนมาให้และขอตัวไปนอน ราชนาวีจัดแจงที่นอนก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนแต่ไม่ได้หลับไปในทันที สมองของเขายังคงครุ่นคิดในหลาย ๆ เรื่อง หนึ่งในนั้นคือเขาจะต้องทำยังไงถึงจะไม่กลายเป็นคนถูกเมินของทั้งลูกและทั้งแม่ของลูก

แม่ของลูกนั้นไม่เท่าไหร่เพราะถ้าหนูน้อยรัมภาวีร์หายโกรธยังไงแม่ก็พร้อมจะเซย์เยสกับลูกสาว นั่นหมายความว่าตัวเขาต้องง้องอนเด็กหญิงรัมภาวีร์ให้หายโกรธและกลับมาเป็นหนูเล็กผู้น่ารักของพ่อรักเหมือนเดิมให้ได้ ปัญหาแม่ของลูกจะไม่ยอมมันก็ไม่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่ก็คือ...

แต่เล็กจนโตราชนาวีไม่เคยต้องงอนง้อใครแม้แต่คนที่เขาเคยคิดว่ารักนักรักหนาอย่างพีรมา เรียกว่าเขาง้อใครไม่เป็นเลยก็ว่าได้ ตอนเด็ก ๆ ก็เคยทำให้รัมภาภัสร์โกรธจนถึงขั้นไม่ถูกกันมาจนถึงปัจจุบันก็เพราะความที่เขาง้อใครไม่เป็นนี่ล่ะ คนง้อไม่เป็นอย่างเขาไม่รู้สักนิดว่าควรจะเริ่มต้นยังไงให้ลูกสาวหายโกรธ

แม้จะนอนลงแล้วแต่หูของชายหนุ่มก็ยังได้ยินเสียงต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือเสียงเปิดประตูและเดินไปยังมุมหนึ่งของห้องโดยผ่านด้านหลังโซฟาไป ชายหนุ่มหันสายตาไปมองก่อนจะเห็นร่างบางของคนเป็นภรรยาเดินไปยังห้องครัว

ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในสมอง หรือเขาจะเปลี่ยนคนไม่พอใจมาเป็นตัวช่วยดีนะ ถ้ารัมภาภัสร์เปลี่ยนมาอยู่ข้างเขาอะไรมันก็ง่ายขึ้นไม่ใช่เหรอ?

ทันความคิดร่างสูงก็ลุกไปยังห้องครัวในทันที ดวงตาคมทอดมองไปยังร่างบางที่กำลังนั่งตักไอศกรีมเข้าปากก่อนจะขมวดคิ้ว นี่รัมภาภัสร์กลายเป็นคนชอบกินของหวานตอนกลางคืนตั้งแต่ตอนไหนกัน

ดูเหมือนเธอจะไม่รับรู้การมาของเขาสักนิดซ้ำยังใส่หูฟัง ฟังเพลงและง่วนอยู่กับการกิน ราชนาวีพาร่างสมชายชาติทหารของตนไปหยุดด้านหลังของหญิงสาวก่อนที่จะสวมกอดจากด้านหลังจนคนถูกจู่โจมสะดุ้งโหยง

เขาหยิบหูฟังออกจากหูบางก่อนจะทัก “ดึก ๆ ดื่น ๆ แอบออกมากินของหวานแบบนี้ไม่กลัวอ้วนเหรอเมียจ๋า”

“บ้า เมียจงเมียจ๋าอะไร น่าเกียจ” คนถูกจู่โจมดิ้นเมื่อรู้ว่าใครคือคนที่เล่นงานเธอ “ปล่อย”

“ไม่ปล่อย”

“ถ้าไม่ปล่อยฉันจะร้องให้พี่ครีมกับหนูเล็กมาช่วยนะ” หญิงสาวขู่เมื่อนอกจากมือจะไม่ปล่อยแล้วใบหน้าคมยังอยู่ไม่นิ่งมายุ่มย่ามกับซอกคอของเธอจนขนลุก “อีตาคนผีทะเลปล่อย”

“ไม่ปล่อย ตะโกนเรียกครีมกับหนูเล็กก็ไม่ปล่อย ดีสิ ถ้าเธอตะโกนเรียกลูกมาฉันจะบอกลูกว่าพ่อกำลังง้อแม่และทำน้องให้หนูเล็กอยู่ ดูสิคราวนี้หนูเล็กจะว่ายังไง” ชายหนุ่มบอกและแน่นอนว่าทั้งเขาและรัมภาภัสร์รู้คำตอบดีว่าหนูน้อยคงจะตรงกลับห้องแน่นอน ด้วยว่าแม้จะแก่แดดยังไง รู้ประสาขนาดไหนหนูน้อยก็ยังอยากจะมีน้องเหมือนคนอื่น ๆ เพียงแค่ไม่เรียกร้องก็เท่านั้น

“ไอ้ผีทะเล ปล่อยฉันนะ”

“อย่าดิ้นสิ คุยกันก่อน ฉันแค่อยากคุยกันเธอเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มบอกก่อนที่จะอุ้มร่างบางกลับไปที่โซฟา เธอยังคงขัดขืนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

“ปล่อยฉันนะไอ้ผีทะเล ฉันไม่มีอะไรต้องคุยกับนาย”

“แต่ฉันมี และก็ต้องการคุยวันนี้ด้วย”

“ไม่คุย จะคุยอะไรก็ไม่คุย”

“ไม่คุยงั้น...” เขาพูดแค่นั้นก็ลากสายตาลงไปหน้าอกอวบอิ่มที่ถูกปกปิดด้วยชุดนอนสายเดี่ยวลายลูกไม้ นอกจากการแต่งเนื้อแต่งตัวไปทำงานเปลี่ยนไปจากเดิมแล้วแม้แต่ชุดนอนก็ยังไม่ใช่ชุดที่เข้าคู่กับของเด็กหญิงรัมภาภัสร์เสียด้วย

“งั้นอะไรของนาย ไอ้บ้า ไอ้ผีทะเล” หญิงสาวโวยวายเมื่อมองตามสายตาของพ่อของลูก ให้ตายเถอะ ทำไมเธอถึงเลือกชุดนอนนี้ตามที่ลูกสาวพยักหน้าแทนที่จะเป็นชุดนอนที่ปกปิดตั้งแต่คอลงไปถึงขาได้นะ เลยเปิดโอกาสให้ราชนาวีมามองหน้าอกเธอได้เลย

“จะปิดทำไม มากกว่านี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็น”

“ไอ้บ้า เลิกมองแล้วก็ถอยไปเลยนะ”

“ก็ถ้ายอมคุยดี ๆ แล้วจะเลิกมอง แต่ถ้ายังดื้อ ทำมากกว่ามองนะบอกให้” แน่นอนว่ารัมภาภัสร์เข้าใจความหมายของคนผีทะเลคนนี้ดีว่ามากกว่ามองคืออะไร ก็ไอ้วิธีการเอาชนะที่เขาทำบ่อย ๆ นั่นไงล่ะ

“ทุเรศ อย่ามามองฉันแบบนั้นนะ”

“ก็บอกก่อนสิว่าจะคุยดี ๆ” เขาบอกพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ไม่อย่างนั้นก็คงต้องเสียเหงื่อกันสักหน่อย”

มือบางดันใบหน้าคมออกห่างก่อนจะตอบ“จะคุยอะไรก็ว่ามา”

“ช่วยฉันทำให้ลูกหายโกรธแล้วกลับบ้านกัน ฉันรู้ว่าเธอกับลูกไม่พอใจแต่ฉันก็อยากให้เข้าใจฉันด้วย”

“ทำไมฉันจะต้องช่วยนาย แล้วทำไมต้องเข้าใจ นายอยากให้เข้าใจนาย แต่นายเข้าใจฉันกับลูกไหม” เธอพูดพร้อมกับผลักร่างหนาออกห่าง “นายจะทำอะไร จะไปไหน ไม่เคยบอกฉันเลย เหมือนฉันเป็นหัวหลักหัวตอแล้วทีนี้จะมาให้ช่วย มันใช่เรื่องเหรอ?”

“แล้วมีสักครั้งไหมที่คุยกันแล้วเธอจะไม่เถียง ไม่ชวนแต่ทะเลาะน่ะ” เขาสวนกลับก่อนที่จะหันหน้าหนี “ฉันรู้ว่าฉันผิดที่ไม่บอกก่อน แต่ฉันไม่ได้มีเจตนาจะไม่บอก ฉันแค่ไม่อยากทะเลาะกับเธอ กะจะรอให้น้ำโทรบอกให้ แต่น้ำก็ลืมเอาโทรศัพท์ไป โทรศัพท์ฉันก็แบตหมดตั้งแต่เรือเดินไม่ถึงครึ่งชั่วโมง”

“ไม่อยากทะเลาะ งั้นก็ไม่ต้องคุยกันเลยจะดีกว่า กลับไปสีตหีบ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเสีย วันไหนอยากมาหาหนูเล็กก็ค่อยมา แบบนั้นดีกว่านะ ไม่ควรจะกลับไปอยู่กันสามคนแบบนั้นอีก เพราะเดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีกนั่นแหละ”

“เธอพูดแบบนี้หมายความว่าไงรุ้ง” ราชนาวีมึนงงไปชั่วขณะกับคำพูดของหญิงสาวจนต้องหันไปมอง เขารู้สึกหายใจไม่ออกกับคำว่าไม่ควรกลับไปอยู่กันสามคนแบบนั้นอีกทั้งยังลำคอแห้งผาดราวกับขาดน้ำ

“ก็หมายความว่าบางทีเราควรแยกกันอยู่ หรือไม่ก็หย่ากันเลยดีกว่า หนูเล็กก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไร แกฉลาด แกคงเข้าใจ”

“ไม่มีทาง” เขาบอกพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ไม่ยอมหรอก เขาไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้นแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel