บท
ตั้งค่า

ตอนที่6 หนึ่งเดือนต่อมา

1เดือนต่อมา

คลื่นลมเงียบสงบปราศจากความโคลงเครงพาให้ใจของเหล่าทหารเรือราชนาวีไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในทะเลเบาใจลงมากที่ไม่ต้องเผชิบกับคลื่นลมแรงและความโคลงเคลงของเรือที่หากเกิดขึ้นสักครั้งนำพามาทั้งความมึนงงวิงเวียน เมาคลื่นจนอาเจียนกันอยู่นานเลยทีเดียว

แต่ถึงคลื่นลมจะสงบแต่จิตใจของนายทหารเรือหลายนายที่ต้องออกเรือด่วนมาปฏิบัติราชการไกลถึงคาบสมุทรอินเดียกลับไม่สงบเช่นคลื่นลมไม่ ประจำเรือหลากหลายนายร้อนรนด้วยห่วงกังวลถึงครอบครัวถึงแม้ว่าเรือหลวงของพวกเขากำลังเคลื่อนตัวกลับฐานทัพเรือสัตหีบก็ตาม

หนึ่งในนั้นก็คือผู้การราชนาวีของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่มีปฏิกิริยาร้อนรน หรือว้าวุ่นถึงคนบนฝั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้เห็น แต่ต้นเรือที่สนิทกับผู้การมากที่สุดรับรู้ดีว่าผู้การของพวกเขานั้นกำลังกังวลกว่าใคร อันเนื่องมาจากข่าวสารจากพลเรือตรีสิรภัทรที่บอกมาว่าลูกสาวอันเป็นที่รักของผู้การหนุ่มและคนเป็นแม่นั้นได้พากันงอนหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับพี่สาวที่กรุงเทพมหานครนานนับเดือนแล้วและไม่สามารถติดต่อได้โดยตรง

“จริง ๆ เลย ทำอะไรไม่คิดตลอด ถ้าเป็นลูกเมียผมนะผมจะตีก้นคนละทีสองที ไร้เหตุผลกันจริง ๆ คอยดูนะกลับไปผมนี่แหละจะช่วยจับมาตีก้นทั้งแม่ทั้งลูก โดยเฉพาะคนแม่จะตีให้หนักเลย” เรือตรีรัชชานนท์ หรือผู้กองสีน้ำ ต้นเรือหนุ่มวัย27บ่นขณะที่ยืนอยู่กับผู้การหนุ่มตามลำพัง

“กล้าตีเหรอ?” ราชนาวีถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายก็แค่พูดไปอย่างนั้น เอาเข้าจริงไม่กล้าทำอะไรหรอก

“โธ่! ตั้งแต่เล็กจนโตเคยสักครั้งไหมล่ะที่ผมแตะยัยสีรุ้งได้” รัชชานนท์ตอบไปตามความจริงพร้อมกับส่ายหน้าเมื่อคิดไปถึงภรรยาของราชนาวี ผู้ซึ่งเป็นพี่สาวฝาแฝดของเขาเอง  รัมภาภัสร์คนนั้นเป็นคนขี้งอนและเอาแต่ใจแต่เหนือสิ่งอื่นใดคุณเธอได้เรียนศิลปะการต่อสู้มาไม่น้อยไปกว่าเขาเลย อย่าว่าแต่จะจับมาตีก้นเลย แค่จะไปหยิกแก้มเจ้าหล่อนยังยาก แถมยังเป็นแชมป์กีฬาเทควันโดระดับมัธยมอีกด้วย

“หึ แม่คุณมีทั้งเขี้ยว มีทั้งเล็บ พิษสงรอบตัว คงคิดว่าจะรับมือได้กับทุกปัญหาถึงได้กล้าพาลูกทำอะไรแผลง ๆ ความจริงพี่ก็คิดเหมือนนายนะน้ำ อยากจะจับมีตีก้นกันเสียให้เข็ด แต่พอคิดไปคิดมา มันก็น่าโกรธถึงขั้นพากันงอนตุบป่องไปอยู่หรอก วันเกิดลูกแท้ ๆ พ่อยังออกเรือโดยไม่บอกไม่กล่าว” ผู้การหนุ่มร่ายยาวด้วยน้ำเสียงติดจะเศร้า ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้อยู่ด้วยในวันคล้ายวันเกิดของลูกสาวเกาะกินใจชายหนุ่มตั้งแต่วันแรกที่ต้องออกเรือ ของขวัญที่ไปซื้อเตรียมไว้ให้ยังติดมือขึ้นเรือมาด้วยไม่ได้ฝากใครไปมอบให้

เขารู้ว่าเขาเองก็ทำไม่ถูกที่ไม่ได้บอกกล่าวใครไว้ แม้จะฉุกละหุกแต่เขาก็พอจะมีเวลาโทรศัพท์ไปบอกกล่าวแก่คนเป็นภรรยาแต่ก็ไม่ได้โทรไปบอกกล่าวด้วยว่าแต่ไหนแต่ไรมากับภรรยานั้นพูดกัน1คำทะเลาะกัน10คำ คุยกัน2คำเถียงกัน20คำอยู่เป็นประจำ จึงตัดปัญหาไม่อยากทะเลาะด้วยการไม่โทรไป หวังฝากฝังแฝดผู้น้องของภรรยาที่ต้องโทรไปรายงานคนเป็นแม่ติดต่อไปบอกหญิงสาวด้วย แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อรัชชานนท์ลืมโทรศัพท์ไว้ที่ฝั่งและด้วยหน้าที่ที่เร่งด่วนจึงทำให้หลงลืมไปว่ายังไม่ทันได้โทรไปบอกกล่าว สุดท้ายสองแม่ลูกจึงทำฤทธิ์ แสดงอิทธิฤทธิ์ความไม่พอใจกันแบบแพ็คคู่

“เฮ้อ เขาไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่รู้เขารู้เรา รู้ใจกันเขาก็ไม่เข้าใจงานของเรา ผมว่านะคราวนี้ต้องเด็ดขาด เลิกเป็นเลิก ไม่เลิกก็ต้องทำให้รักและเข้าใจหน้าที่ของเราแล้วล่ะ ถ้าจะง้อกลับมาโดยไม่เด็ดขาดอีกหน่อยก็หอบกันไปอีก  กี่ครั้งแล้วที่ต้องไปตามถึงบ้าน พี่ไม่เบื่อเหรอ?”

“ก็จริงของนาย ใจเขาไม่อยู่กับเราเขาจะเข้าใจเราได้ยังไง” ราชนาวีพูดแค่นั้นก่อนจะจมอยู่ในความคิดของตัวเองถึงเรื่องที่เขาควรจะตัดสินใจสักที

รัชชานนท์เลี่ยงออกมาเพื่อให้คนเป็นพี่เขยได้ขบคิด เขาและราชนาวีรู้กันดีว่าคำว่าเข้าใจของทั้งคู่ไม่ได้หมายถึงเข้าใจในหน้าที่ของทหารเรือ เพราะในเรื่องนี้รัมภาภัสร์รับรู้ เข้าใจและรู้ซึ้งมาแต่ไหนแต่ไรอยูแล้วเพราะว่าเกิดในครอบครัวทหารเรือ แต่คำว่าเข้าใจนั้นหมายถึงเข้าใจจิตใจของราชนาวีว่ารู้สึกอย่างไรกับการต้องออกเรือในช่วงวันสำคัญของลูก เมื่อใจไม่สื่อถึงกันก็ไม่สามารถจะสื่อสารให้บุคคลที่3อย่างลูกสาวเข้าใจได้แม้ว่าเด็กหญิงรัมภาวีร์จะฉลาดหลักแหลมเพียงใดก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel