ตอนที่27 ไม่งอนแล้ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“อะไรนะ ท้องเหรอ?” น้ำเสียงตกใจจากรติภัทรดังขึ้นทันทีที่รัมภาภัสร์บอกว่าจะไปหาหมอเพื่อฝากครรภ์
“ค่ะ อย่าบ่นรุ้งนะ” น้องสาวรีบดักทางก่อนพี่สาวจะได้อ้าปากบ่นที่เธอไม่บอกก่อน
“กี่เดือนแล้ว?”
“ก็...ประมาณ3ค่ะ”
“คุณพระ! น้องสาวฉัน” รติภัทรพูดได้แค่นั้นก็นั่งลงทำหน้าบึ้งตึง จะตำหนิแม่น้องสาวตัวดีก็ดักไว้ด้วยสีหน้าละห้อย จะไม่พูดอะไรเลยก็ไม่ใช่วิสัย
ราชนาวีตบไหล่เพื่อนสาวก่อนที่จะพาเพื่อนสาวไปคุยที่ระเบียงห้องก่อนที่เพื่อนของเขาจะบ่นนู่นนี่ให้รัมภาภัสร์ไม่สบายใจ
“ท้องเนี่ย หมายถึงแม่รุ้งมีน้องอยู่ในนี้ มีจริง ๆ เหรอคะแม่รุ้งขา?” เสียงของเด็กหญิงรัมภาวีร์ดังขึ้นหลังจากที่ร่างของพ่อและป้าลับไปแล้ว เด็กน้อยชี้ไปที่หน้าท้องของมารดาแล้วก็มองมารดาตาปริบ ๆ
“ค่ะ แม่รุ้งขอโทษนะคะที่ไม่บอกหนูก่อน” เธอตอบ ในใจนึกกังวลไปสองเรื่องคือหนึ่งลูกสาวอาจจะรู้สึกว่ากำลังจะมีน้องมาแย่งความรักหรือไม่ และอีกหนึ่งคือกลัวว่าลูกจะโกรธที่เธอไม่บอกก่อนตั้งแต่แรก
“เย้ หนูเล็กจะมีน้องเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ แล้ว เย้” ผิดคาดหนูน้อยนั้นดีใจจนกระโดดโลดเต้น บ่งบอกจากท่าทีเด่นชัดว่าอยากมีน้องขนาดไหน “น้องตั้งอยู่ในท้องอีก9เดือน จากนั้นน้องจะออกมาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ หนูเล็กจะช่วยแม่รุ้งเลี้ยงน้อง แล้วก็จะรักน้องมาก ๆ หนูเล็กสัญญา”
“โธ่แม่คุณของแม่” คนเป็นแม่เอ่ยอย่างเอ็นดูก่อนจะย่อตัวลงกอดลูกสาว สองแม่ลูกกอดกันได้ไม่นานราชนาวีและรติภัทรก็ออกมา
“พี่ไม่ยุ่งกับเรื่องของเราแล้ว พี่ไปทำงานล่ะ วันนี้ก็พาหนูเล็กไปด้วยเลยล่ะกันพี่ลาโรงเรียนหลานไว้สองวันพอดี” รติภัทรบอกก่อนจะออกจากห้องไป ใบหน้าไม่ได้โกรธงอนอะไรมีแต่ความเขินอายอะไรสักอย่างปรากฏบนใบหน้า
“พี่รักไปทำอะไรพี่ครีมอะ พี่ครีมถึงดูเขิน ๆ แบบนั้น?” หญิงสาวถามขึ้นด้วยความสงสัย
“นั่นสิ” หนูน้อยเสริม
“ก็ไม่ได้ทำอะไรนะ แค่พูดเรื่องพีรมา แล้วยัยนั่นก็บอกให้พารุ้งกับหนูเล็กกลับบ้าน ไม่งั้นจะฟ้องพ่อ พี่ก็เลยบอกว่าถ้าบอกที่บ้านเรื่องรุ้งท้องตอนนี้พี่จะฟ้องพ่อครามกลับว่าครีมน่ะแอบกิ๊กกับนายปรัช แต่ทำอย่างกับนายปรัชเป็นของเล่น แม่คุณก็เลยเขินที่โดนจับได้แบบนั้นไง” ราชนาวีบอกพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ก็ใครใช้ให้เจ้าหล่อนบอกเขาให้ไปเอาไฟฉายในห้องเจ้าหล่อนได้ล่ะ เมื่อคืนเขาเข้าไปหาไฟฉายนั่นล่ะถึงได้เห็นของที่แม่คุณแอบซ่อนไว้ถึงเรื่องความสัมพันธ์ของแม่คุณกับปฐวีที่ไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้อง
“จริงดิ?” สองแม่ลูกอุทานพร้อมกันก่อนที่จะหันหน้าปรึกษากัน เธอสองคนเฝ้าสังเกตอยู่เป็นเดือนยังไม่ไปถึงไหน ทำไมราชนาวีผู้เพิ่งจะมาเมื่อวันก่อนรู้ได้ล่ะว่าทั้งคู่ซุ่มคบกันอยู่
“ในลิ้นชักในห้องนั่นน่ะมีความลับรัก ๆ ซ่อนอยู่ทั้งนั้น ภายนอกน่ะแค่หลอกตาคน” ราชนาวีบอกแล้วก็ยื่นมือไปจับมือเล็กของหนูน้อยรัมภาวีร์ “อย่าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของสองคนนั้นเลย เราไปกันดีกว่า ไปช้าต้องรอคิวนานกว่าเดิม”
“ค่ะ” รัมภาภัสร์ตอบรับก่อนที่หนูน้อยจะยื่นมืออีกข้างมาให้เธอจับจูง เด็กหญิงรัมภาวีร์ชอบที่จะจูบมือพ่อและแม่แบบนี้อยู่เสมอ เมื่อจับมือเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกจากห้อง
ระหว่างทางเด็กหญิงรัมภาวีร์ถามจ้อเรื่องน้องอย่างตื่นเต้น ตั้งแต่อีกกี่เดือนเธอจะได้เจอน้องจนไปถึงชื่อของน้อง
“แม่รุ้งยังไม่รู้เลยค่ะลูกว่าน้องจะเป็นน้องสาวหรือน้องชาย เลยยังไม่ได้ตั้งชื่อ”
“หนูเล็กอยากได้น้องชายค่ะ หนูเล็กจะปกป้องน้องเองแล้วพอโตขึ้นน้องก็จะปกป้องน้อง ๆ ไปอีกทอดนึง”
“เดี๋ยว ๆ น้อง ๆ อะไรมโนแล้วลูก” คนเป็นแม่รีบห้าม น้อง ๆ อะไรกัน นี่ยัยลูกสาวยังหวังจะมีน้อง ๆ อีกเหรอ
“ไม่มีเหรอคะ ?”
“มีสิ มีแน่นอน หนูเล็กอยากมีกี่คนว่ามาเลยเดี๋ยวพ่อรักจัดให้” คนทำหน้าที่ขับรถมาเงียบ ๆ เอ่ยขึ้น คำพูดนั้นถูกใจคนอยากมีน้องแต่ไม่ถูกใจคนจะต้องอุ้มท้อง รัมภาภัสร์ส่งสายตาดุไปให้พร้อมกับฟาดหน้าขาพ่อคนบอกจะจัดให้ไปหนึ่งที
“ตาบ้า” ไม่สนุกเลยสำหรับรัมภาภัสร์ เรื่องต้องอุ้มท้องน่ะไม่ใช่ปัญหา ไอ้ปัญหามันคือวิธีการ “จัดให้” ของตาคนผีทะเลนนี่ต่างหากล่ะ ราชนาวีคนนี้ยิ่งหื่นกามแรงเยอะไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเสียด้วย ก่อนจะมีน้อง ๆ ให้ครบตามที่ยัยหนูรัมภาวีร์ต้องการเธอได้ถูกจับกินเช้า กลางวัน เย็นจนหมดแรงไปก่อนน่ะสิ
“จริง ๆ นะ ไม่หลอกหนูเล็กใช่ไหม?” หนูน้อยไม่ได้สนใจท่าทีของคนเป็นแม่ หันไปถามคนเป็นพ่อทันที
“ไม่หลอกแน่นอนครับ แต่...หนูเล็กต้องหายงอนพ่อรักก่อนนะ”
“อืม...” เด็กหญิงรัมภาวีร์ทำท่าคิดหนักก่อนที่จะอมยิ้ม “ตกลงคร่า หนูเล็กไม่งอนแล้ว พ่อรักห้ามผิดคำพูดน๊า หนูเล็กอยากมีน้อง...หนึ่งคน ...สองคน...สามคน ไม่ ๆ น้อยไป อืม มีเท่าคุณตาจ๋ากับคุณยายจ๋าดีกว่า หกคนคร่า ไม่สิ มีครีมจ๋าอีกคน ต้อง7คนคร่า”
“หนูเล็ก!!!” คนเป็นแม่อุทานชื่อลูกสาวเสียงหลงทันทีที่หนูน้อยพูดจบ 7คน ยัยหนูรัมภาวีร์บอกอยากมีน้อง7คน ตายล่ะขืนตาคนผีทะเลบ้าจี้ตามขนาดนั้นเธอได้ตายแน่ ๆ ก็ใช่ว่าครอบครัวเธอมีกัน7พี่น้อง แต่ก็เป็นแฝดถึง3คู่ คือคู่เธอกับรัชชานนท์ คู่น้องชายเรือตรีรณกฤต ร้อยตรีฤทธิชัย แล้วก็คู่น้องสาวรติกานต์กับรันติกา รวมรติภัทรก็เป็น7คน แต่เธอจะโชคดีมีลูกแฝดแบบนั้นไหมเล่า ถ้าไม่ล่ะก็กว่าจบครบตัวเธอคงช้ำไปหมดเป็นแน่
“6ดีกว่าไหมครับ รวมหนูเล็กด้วยก็เป็น7 แบบนั้นดีกว่าเนาะ” คนเป็นพ่อเสนอเมื่อเห็นหน้าซีด ๆ ของหญิงสาว เธอกลัวไปอีกอย่างแต่เขากลัวว่าเธอจะต้องเหนื่อยกับการต้องอุ้มท้องและเลี้ยงลูกมากกว่า
หนูน้อยรัมภาวีร์ทำท่าคิดหนักก่อนที่จะดีดนิ้ว “โอเคคร่า”
ราชนาวียิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อหนูน้อยไม่งอนตนแล้วแถมยังกลับมาพูดจ้ออีก ในระหว่างเดินทางคนเป็นแม่จึงปล่อยให้พ่อลูกได้คุยกัน
หนูน้อยถามถึงการไปราชการด่วนของคนเป็นพ่อว่าเป็นอย่างไร ราชนาวีจึงเล่าให้ฟังเหมือนทุกครั้งที่กลับจากออกเรือจะต้องเล่าให้ฟัง กว่าจะถึงโรงพยาบาลเรื่องก็จบลงพอดี
ภาพที่สามคนพ่อแม่ลูกเดินจูงมือกันเข้ามาในโรงพยาบาลเป็นภาพที่ดึงดูดความสนใจจากสายตาของผู้คนบริเวรรอบได้พอสมควรด้วยว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคนก็หล่อสวย หนูน้อยก็น่ารักน่าชัง ภาพครอบครัวที่อบอุ่นทำให้ผู้คนพลอยยิ้มเอ็นดู
