ตอนที่23 ชื่นชม
รัมภาภัสร์ตั้งหน้าตั้งตาอยู่กับการออกแบบและวางแผนในการรีโนเวทบ้านของเดนนิสในขณะที่ราชนาวีนั้นนั่งมองหญิงสาวอยู่ด้วยความรู้สึกชื่นชม
เขาไม่เคยเห็นรัมภาภัสร์ในมาดสาวทำงานเลยสักครั้ง ไม่เคยได้เห็นท่าทีตั้งใจและมุ่งมั่นแบบนี้มาก่อน หญิงสาวในตอนนี้คล้ายกับสาวทำงานที่ขยันขันแข็งไม่มีตรงไหนเลยที่เหมือนกับแม่ของลูกที่เขาได้พบเห็นอยู่ก่อนนี้ หรือจะพูดให้ถูกก็คือรัมภาภัสร์ในลุคนี้ไม่เหมือนกับแม่บ้านที่วัน ๆ เลี้ยงแต่ลูกและดูแลงานบ้านเลยสักนิด ใครเห็นก็คงไม่คิดด้วยซ้ำว่าเธอจะมีลูกสาวแล้ว หรือบางที่คนที่พบเห็นแทบจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนี้มีสามีแล้ว
ได้เห็นท่าทีมุ่งมั่นของหญิงสาวแล้วนอกจากจะชื่นชม ราชนาวียังรู้สึกขมแปร๋ในลำคออย่างบอกไม่ถูก ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นบางทีรัมภาภัสร์ในตอนนี้คงได้เป็นมัณฑนากรที่มีความสุขอยู่ในวงการการออกแบบตบแต่ง ไม่ใช่คุณแม่ยังสาวที่ต้องเลี้ยงดูลูกน้อยและทำงานบ้านงก ๆ ในวันสำคัญอย่างวันครบรอบแต่งงาน หรือวันคล้ายวันเกิดก็ไม่มีของขวัญใด ๆ จากสามี วูบหนึ่งเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีทำลายอนาคตอันสดใสของหญิงสาวที่เพิ่งจบการฝึกงานและมีความใฝ่ฝันว่าจะได้ทำงานที่ชื่นชอบ นอกจากจะทำลายอนาคตแล้วยังไม่เคยชดเชยสิ่งที่เธอสูญเสียไปด้วยความเอาใจใส่เลยสักนิด
เขาไม่เคยเอาใจใส่ ไม่เคยปรับตัวเข้าหา ไม่เคยใช้เวลาร่วมกับหญิงสาวโดยไม่มีเด็กหญิงรัมภาวีร์ ไม่เคยพูดจาดี ๆ กับเธอเลยสักครั้ง งี่เง่าเอาแต่เถียงในเรื่องไม่เป็นเรื่องมาตลอด
ใจหนึ่งรู้สึกละอาย อีกใจรู้สึกว่าต้องชดเชย นับจากนี้ไปเขาจะชดเชยอนาคตดี ๆ ที่เธอเสียไป จะเปลี่ยนให้ชีวิตที่ไม่เป็นดั่งที่ใฝ่ฝันของเธอให้มีความสุขขึ้นจึงไม่นึกเสียใจที่เรื่องราวเป็นมาอย่างนี้ เขาขอสัญญา
“พี่รุ้งคะ เมื่อครู่หนูเจอพี่มิ้น พี่มิ้นเลยวานให้หนูมาบอกพี่ว่าท่านประธานอยากเจอสามีพี่อะคะ” เสียงของเพื่อนร่วมทีมที่อายุน้อยกว่าคนหนึ่งดังขึ้นส่งผลให้รัมภาภัสร์เงยหน้าขึ้นจากงาน ส่วนตัวราชนาวีก็หลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง
ชายหนุ่มลุกขึ้นเต็มความสูงหมายจะเดินออกจากห้องไปหาเพื่อนสนิทผู้พ่วงตำแหน่งญาติผู้น้อง แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ดวงตาคมมองหมายเลขที่แปลกตาก่อนที่จะขมวดคิ้ว หมายเลขนี้เขาไม่คุ้นส่วนชื่อที่โชว์หราอยู่ก็คือชื่อของผู้กองอาทิตย์ พ่อของเด็กแก่แดดอภิวัฒน์โทรศัพท์มาหาเขาทำไมกัน ?
“สวัสดีครับผู้กองอาทิตย์”
“สวัสดีครับผู้การ ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับที่อยู่ ๆ ก็โทรมาแบบนี้” คนปลายสายเอ่ยขอโทษก่อนเป็นประการแรกก่อนที่จะพูดถึงสาเหตุที่ต้องโทรศัพท์มาหาคนเพิ่งเจอกัน “พอดีว่าผมทำคดีหนึ่งอยู่กับคู่หู”
“ครับ?” ราชนาวีตอบรับอย่างมึนงง นายตำรวจหนุ่มจะมาบอกเขาทำไมกัน หรือมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขา
“แล้วเธอถูกยิง” ผู้กองอาทิตย์บอกก่อนที่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “ แล้ว แล้วผมเพิ่งทราบ...เอ่อ ผมเพิ่งทราบว่าเธอเป็นน้องสาวผู้การ”
“น้องสาว? รวงขวัญ รวงขวัญเหรอครับ?” คนฟังใจหายวาบ อาทิตย์เป็นนายตำรวจคู่หูก็ต้องเป็นตำรวจ ชายหนุ่มบอกว่าเพิ่งทราบว่าคู่หูเป็นน้องสาวของเขา ดังนั้นแล้วจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากรวิปรียา แม่น้องสาวห้าวเป้งมาดทอมของเขาที่ไม่มีเรื่องผู้ชายให้ห่วงมีแต่เรื่องนิสัยห้าวไม่แพ้ผู้ชายที่ทำให้เขาต้องกังวล
“ครับ ผู้กองรวงขวัญ ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลตำรวจ...” อาทิตย์บอกรายละเอียดที่อยู่โรงพยาบาลให้กับชายหนุ่มก่อนที่ราชนาวีจะเป็นฝ่ายวางสาย
“มีอะไรหรือเปล่าคุณรัก?” รัมภาภัสร์เอียงคอมาถามทันทีที่ชายหนุ่มวางสาย น้ำเสียงตกใจและชื่อน้องสาวที่หลุดออกมาทำให้หญิงสาวรู้สึกสงสัย
“รวงขวัญถูกยิง”
“คุณพระ!”
“ผมจะไปหาน้อง คุณจะไปกับผมไหม?” ชายหนุ่มถาม แม้ใจจะนึกห่วงน้องสาวแต่ก็ยังพอมีสติ สำหรับนายทหารเรือที่ปัจจุบันอยู่ในสถานะผู้นำอย่างราชนาวีเขาถูกฝึกให้รับมือกับสถานการณ์ที่บีบคั่นมาแล้วนับไม่ถ้วนที่ต้องตั้งสติเพื่อก้าวผ่านปัญหาไป เหตุการณ์นี้ไม่สามารถทำให้เขารนได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่นคงจะทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว
อย่างเช่นรัมภาภัสร์หญิงสาวตกใจและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี “ปะ ไป ไปค่ะ”
“รบกวนคุณทิวาช่วยบอกปรัชให้หน่อยนะครับว่าผมต้องไปธุระ แล้วก็พารุ้งลางานไปด้วย” ราชนาวีตัดสินใจแทนคนที่ยังคงตกใจก่อนที่จะประคองหญิงสาวออกจากห้องทำงานไป แต่ไหนแต่ไรมาแม้ว่าเขาและรัมภาภัสร์จะไม่ถูกกันแต่ครอบครัวของทั้งคู่ก็สนิทกันมานาน ผู้เป็นพ่อจบจากรุ่นเดียวกัน พลเรือตรีราพณ์พ่อของเขาเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่คนที่พลเรือตรีสิรภัทรให้ความสนิทสนม ทั้งคู่นับถือกันเป็นเพื่อนมานาน ลูก ๆ ก็มักจะถูกพามาเล่นด้วยกัน เขาและน้อง ๆ จึงสนิทสนมรักใครกับครอบครัวของรัมภาภัสร์มาก รวิกานดาและรวิปรียาอ่อนกว่ารัมภาภัสร์และรัชชานนท์ปีกว่า ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตทั้ง4จึงมีความสนิทสนมกันเหมือนพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน
ความห่วงใยที่รัมภาภัสร์มีให้รวิปรียาจึงเหมือนพี่สาวห่วงน้องสาว ไม่แปลกที่เธอจะตกใจ เพราะรวิปรียาไม่เคยพลาด
