ตอนที่20 รู้ดีเชียว
ราชนาวีพาหญิงสาวลงมานั่งที่สวนด้านหน้าแล้วก็เฝ้ามองคนเป็นภรรยา หญิงสาวกำลังสติแตก พร่ำเพ้อแต่ว่าเธอจะเป็นตากุ้งยิงไหม
“รุ้ง เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น? นี่ผมงงไปหมดแล้วนะ” เผลอเดินช้าครู่เดียวก็พลาดเรื่องใหญ่ไปเสียอย่างนั้น
“อึย ฉันไม่อยากพูด มันอุจาดปาก นายแดนนี่นั่นกับคู่ขาของเขาไม่อายฟ้าอายดิน อี๋”
“แดนนี่กับคู่ขา? ไม่อายฟ้าอายดิน คุณเปิดเข้าไปเห็นเขาเล่นผีผ้าห่มกันอยู่เหรอ?” ชายหนุ่มถาม รัมภาภัสร์ส่ายหน้า
“ถ้ามันมีผ้าห่มก็คงดีสิ แต่นี่มันไม่มี”
“แสดงว่าเปิดเข้าไปเห็นตอนแดนนี่กับคู่ขามีเซ็กส์กันจริง ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นเลิกโวยวายสติแตกได้แล้วรุ้ง มันเป็นเรื่องปกติแล้วมันก็ไม่ได้ต่างจากตอนเราอยู่ด้วยกันในห้องสองคนเลยนะ”
“ไม่เหมือน แล้วก็ไม่ต้องมาห้ามฉันสติแตกด้วย ถ้าคุณไปเห็นแบบฉันคุณก็ต้องสติแตก” หญิงสาวแย้ง ถ้าแดนนี่กับคู่ขาของชายคนนั้นกำลังขึ้นคร่อมกันอยู่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่หรอก แต่สิ่งที่เธอเห็นมันเป็นอะไรที่เธอรับไม่ได้
“ตกลงมันเป็นยังไงกันฮึ ไม่อยากพูดแล้วผมจะเข้าใจสถานการณ์ไหมเนี่ย หรือจะให้ผมเปิดคลิปโป๊ให้ดู แล้วคุณไปเห็นอะไรมาก็ชี้อันนั้น”
“อี๋ น่าเกลียด”
“ก็บอกมาสิว่าคุณไปเจออะไรมา”
“โอ๊ย ถามอยู่นั่นแหละแทนที่จะปลอบกัน ยัยนั่นน่ะ ยัยนั้นน่ะใช้ปาก เอ่อ... อี๋ ไม่พูดแล้ว สกปรก แต่ แต่หน้าอีตาแดนนี่นี่นั่นแบบ อี๋ ยิ่งตอนยัยนั่นหันมาแล้วคราบเยิ่ม ๆ เปื้อนที่ปากน่ะ ยิ่งน่าเกียจ อี๋” มันเป็นประโยคที่ไม่ปะติดประต่อ และเป็นประโยคที่มีคำว่าอี๋มากกว่าสองคำ ราชนาวียกมือปิดปากหญิงสาวก่อนที่จะเรียบเรียงคำพูด ปะติดปะต่อจนพอเข้าใจลาง ๆ
“คุณไปเห็นคู่ขาของแดนนี่ใช้ปากจัดการกับไอ้นั่น อย่างนั้นใช่ไหม?”
“ใช่ มันน่าเกลียดมาก โดยเฉพาะส่วนนั้นของนายแดนนี่ กับปากของยัยนั่น อี๋” พูดไปหญิงสาวก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าไปด้วย ราชนาวีพยักหน้าก่อนจะลอบถอนใจเบา ๆ เธอก็ทำท่าทำทางเสียโอเว่อร์ไปตามประสาคนเล่นใหญ่แต่นอกเหนือจากนั้นก็คือเธอยังคงไร้เดียงสาในเรื่องบนเตียงอยู่นั่นเองถึงได้มองการกระทำของแดนนี่และคู่ขาเป็นเรื่องอุจาดตาและไม่ธรรมดา
“ขวัญเอ้ยขวัญมา” เขาปลอบด้วยไม่รู้จะพูดอย่างไร “รุ้ง เลิกสติแตกได้แล้ว มันเป็นเรื่องที่ธรรมดาสำหรับเรื่องบนเตียงน่ะนะ”
“ธรรมดา?”
“ก็ใช่สิ ธรรมดา บางคนก็ใช้มือด้วยนะ”
รัมภาภัสร์มองคนบอกว่าเรื่องที่เธอเห็นเป็นเรื่องธรรมดาด้วยใบหน้าราวกับลูกหมาน้อยขี้สงสัย หรืออาจจะเป็นลูกกวางไม่รู้ความก็ว่าได้ ราชนาวีมองแล้วก็นึกเอ็นดู หรือเขาจะต้องสอนเพศศึกษาให้หญิงสาวฟังกันนะ
“จริงเหรอ?”
“จริง เซ็กส์ถูกเรียกว่าการแลกเปลี่ยนความสุข แต่ถ้ามีแค่ฝ่ายใดฝ่ายนหนึ่งบริการฝ่ายเดียวกันก็ไม่ใช่ความสุขที่สุดของเรื่องแบบนั้น ผู้ชายลูบไล้ปลุกเร้าทำให้ผู้หญิงรู้สึกร้อนรุ่มได้ ผู้หญิงเองก็ทำได้ และที่ผู้หญิงคนนั้นทำก็คือการปลุกเร้านายแดนนี่ทั้งก่อนและหลังจากมีอะไรกันและผู้ชายบางคนก็ชอบแบบนั้น”
“แล้วที่ปากหล่อนเปื้อนนั่นล่ะ มัน...”
“ที่ปากหล่อนเปื้อนเป็นน้ำสีขุ่น ๆ”
“ไม่ต้องจำแนกสีเลยนะ” หญิงสาวตวาดว่าให้ คนบ้านี่อะไรทั้งที่ไม่เห็นแต่ยังอธิบายถูกว่าสีอะไร
“อืม รู้ไหมน้ำสี่ขุ่น ๆ นั่นอะไร”
“ไม่รู้ รู้แค่มันดูสกปรกมาก” หญิงสาวบอกพร้อมกับส่ายหน้าขนลุก มันเหมือนกับตอนเธอดูหนังผีแล้วผีตัวนั้นก็มีเลือดไหลออกมาที่มุมปาก แต่ภาพวันนี้มันไม่ใช่เลือด
“แต่ไอ้อย่างเดียวกันนี่ล่ะนะที่ทำให้หนูเล็กเกิดมา” เพียงพูดเท่านั้นคนฉลาดก็เข้าใจหญิงอ้าปากค้าง
“อะ อะ”
“ใช่ บางคนชอบที่จะปล่อยภายนอกและให้ผู้หญิงกลืนกินมันเข้าไป อย่างเช่นนายแดนนี่” ชายหนุ่มบอกคนพูดไม่ออก แล้วนี่เขาเป็นบ้าอะไรถึงต้องมาอธิบายเรื่องแบบนี้ให้รัมภาภัสร์ฟังล่ะเนี่ย
“อึย”
“ผมบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไง เลิกตกใจขยะแขยงได้แล้ว”
“ไม่ได้ตกใจ แต่มันอุจาดตา ทำไมฉันต้องเข้าไปเห็นไอ้นั่นของนายนั่นด้วย อี๋” หญิงสาวบอกแล้วก็นั่งสติแตกอีกรอบ “มันน่าเกลียดมาก”
คราวนี้ราชนาวีนิ่งไป ตอนแรกเขามัวแต่สนใจที่หญิงสาวบอกว่าคู่ขาของแดนนี่ใช้ปาก ไม่ได้สะดุดใจว่านอกจากปากของแม่สาวคนนั้นแล้วรัมภาภัสร์ได้ไปเห็นอาวุธลับของแดนนี่ด้วย
เธอเห็นเรือนร่างเปลือยของผู้หญิงคนอื่นเขาไม่สนแต่เขาไม่โอเคถ้าเธอเห็นอะไรอะไรของผู้ชายคนอื่น ไม่ได้ เขาจะให้เมียเขาจำติดตาไม่ได้ “ไม่ได้ คุณลืมไปเลยนะว่าเคยเห็น”
“ก็อยากจะลืมแต่มัน มัน...” ไม่ทันพูดจบริมฝีปากหนาก็กระแทกมาที่ริมฝีปากบาง ราชนาวีล่อหลอกให้รัมภาภัสร์สนใจในรสจูบก่อนที่จะผล่ะออกอย่างอ้อยอิ่ง
“ถ้าเธอยังนึกถึงภาพวันนี้อีกฉันจะจูบเธอให้หมดแรงเลย อย่าไปนึกถึง โดยเฉพาะร่างกายของไอ้หมอนั่น ถ้าฉันรู้ว่าเธอคิดฉันจะจูบ จูบ จูบ แล้วก็จับกด”
“คนบ้า” คนถูกขู่ด้วยจูบร้องว่าแล้วก็ฟาดแขนแกร่งไปหนัก ๆ หนึ่งที “พูดดีไม่ถึงครึ่งวันก็กลับมาฉัน ๆ เธอ ๆ อีกแล้ว แล้วแบบนี้จะดีด้วยได้กี่น้ำกัน”
“ก็คนมันโมโหมันต้องมีลืมตัวกันบ้างสิ” เขาโมโหจริง ๆ นะที่รัมภาภัสร์บังเอิญไปเห็นหนอนชาเขียวตัวน้อย ๆ ของผู้ชายคนอื่นน่ะ ไม่อยากให้เธอไปจำของคนอื่นติดตาด้วย เป็นของเขาก็ว่าไปอย่าง
“หึ” หญิงสาวส่งเสียงในลำคอก่อนที่จะพากันเงียบไปทั้งคู่ รัมภาภัสร์เบนสายตามองไปรอบ ๆ แทนที่จะสนใจราชนาวี เธอไม่อยากจะนึกถึงภาพตอนที่เขาจูบเธอเมื่อครู่ให้หัวใจต้องทำงานหนัก ไม่นานต่อจากนั้นร่างอ้อนแอ้นที่รัมภาภัสร์ได้เห็นมาแล้วในสภาพเปลือยเปล่าก็เดินกระทืบเท้าออกมาจากบ้าน
แม่สาวคนนั้นดูจะอารมณ์เสียเอามาก ๆ หล่อนก้าวออกไปไม่ได้สนใจคนทั้งคู่แม้แต่น้อย รัมภาภัสร์อมยิ้มก่อนที่จะหลุดหัวเราะออกมา “ดูยัยนั่นทำหน้าเข้าสิ คือแค่มีคนไปขัดในเวลานั้นจะต้องหน้าบูดขนาดนั้นเชียว”
“ก็คุณไปทำให้เธอค้างนี่ กำลังจะขึ้นสวรรค์แต่ไม่ได้ขึ้นก็อารมณ์ประมาณนั้นล่ะ”
“รู้ดีเชียว”
“ก็เป็นบ่อย” ราชนาวีตอบพร้อมยักไหล่
“ผีทะเล”
“อ้าว ก็พูดความจริงนี่” เขาบอก ราชนาวีพอจะเข้าใจแม่สาวคนนั้นอยู่บ้าง มันก็คล้าย ๆ บางครั้งที่เขาจะแกล้งรัมภาภัสร์จนจะได้จับเธอกลืนลงท้องอยู่แล้วดันมีโทรศัพท์จากผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ามาจนต้องออกไปหาด้วยใบหน้าหงุดหงิดค้างคา พอพบหน้าก็เหวี่ยงใส่เจ้าคนขัดความสุขก่อนที่จะลงมือทำงาน
“คุณครับ คุณเดนนิสฝากมาบอกว่าให้พวกคุณเดินดูต่อได้แล้วครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของทั้งคู่ก่อนที่เจ้าของเสียงจะจากไป
“มาไวไปไวอย่างกับผี” หญิงสาวบ่นแล้วก็ลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน “คุณรัก คุณมาเดินใกล้ ๆ สิ”
“ครับ ๆ” เขาตอบรับแล้วก็ลุกไปเดินใกล้ ๆ ใกล้ชนิดที่ว่าถ้าสิงสาวเจ้าได้ คงสิงไปแล้ว
“ใกล้ไปแล้วคนบ้า”
ถึงแม้จะบ่นแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้เถียงหรือขยับออกห่าง ยังคงเดินใกล้ ๆ และยังถือวิสาสะโอบเอวคนตัวบางเดินไปพร้อมกัน
แม้จะเดินลำบากสักหน่อยแต่รัมภาภัสร์กลับรู้สึกอบอุ่นที่ชายหนุ่มอยู่ใกล้เธอจึงไม่ได้ออกคำสั่งให้เขาถอยออกไป ทั้งคู่เดินเคียงกันมาจนถึงจุดที่เดนนิสยืนอยู่กับแดนนี่ก่อนที่เดนนิสจะขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ที่ทำให้เธอต้องเจออะไรแบบนี้
“ขอโทษจริง ๆ คุณรุ้งที่ทำให้คุณมาเห็นอะไรอุจาดตาแบบนี้ ผมไม่คิดว่าแดนนี่จะขึ้นกรุงเทพแล้วยังพาสาวมาด้วย หวังว่าคุณจะไม่ถือสาหาความ”
“มันเป็นอุบัติเหตุ ฉันเข้าใจค่ะ เรามาคุยงานกันต่อดีกว่านะคะ”
“หึ เห็นไหมล่ะ เจ้าหล่อนไม่ได้ช็อคสติแตกอย่างที่พี่คิดสักนิด หล่อนทำเป็นใสซื่อไปอย่างนั้นล่ะ มีหรือจะไม่เคย” แดนนี่ส่งเสียงแทรกขึ้น บ่งบอกชัดเจนว่าไม่ชอบใจมัณฑนากรที่จะมารีโนเวทบ้านแม้แต่น้อยรวมไปถึงร่างสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หญิงสาวด้วย
“แดนนี่ ถ้ามีปากแล้วพูดไม่ดีไม่ต้องพูด” คนเป็นพี่ชายปรามก่อนที่จะสั่นหัวเมื่อน้องชายไม่มีท่าทีลดละความไม่พอใจลง
“เราไปดูทางโน่นกันคุณรุ้ง คุณรัก อย่าไปสนใจแดนนี่มันเลย คนเพิ่งเลิกกับเมียก็แบบนี้แหละ”
รัมภาภัสร์พยักหน้าก่อนจะเดินตามไปโดยมีราชนาวีตามไปติด ๆ ทั้งสามเดินจากไปโดยไม่รู้เลยว่าชายคนเดียวที่ยืนอยู่ที่เดิมนั้นกำลังยกยิ้มที่เห็นราชนาวีตามติดภรรยา แทนที่จะอยู่กับนังแพศยาพีรมาที่ถูกเขาจับได้ว่าเล่นชู้กับเด็กในบ้านจนต้องฟ้องหย่า ในตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าอดีตภรรยาแพศยาของเขากำลังจะไม่เหลือใครเลยแม้จะวกกลับไปหาผู้ชายคนเก่า เขาคนนั้นก็ไม่มีทีท่าสนใจหล่อนอีกแล้ว
“เธอทำตัวเองพีรมา เมียของแฟนเก่าเธอก็สวยออกอย่างนั้นเขาคงไม่ทิ้งไปหาผู้หญิงอย่างเธอหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะกลับเข้าห้อง เขามีเรื่องสนุกบางอย่างให้เล่นแล้วในตอนนี้ และเรื่องสนุกนี้จะส่งผลให้พีรมาได้มองเห็นความจริงเร็วกว่ากำหนด เพราะเขาอยากจะเห็นพีรมาไม่เหลือใครเร็ว ๆ นั่นเ
