บท
ตั้งค่า

ตอนที่19 สามีนะไม่ใช่ตุ๊กตา โยนให้คนอื่นไม่ได้

ภายในรถทั้งสองต่างเงียบ หญิงสาวไม่พูดอะไรขึ้นมาอีกนอกจากจะหยิบโทรศัพท์ที่ปิดไว้ตั้งแต่มาอยู่กับพี่สาวขึ้นมาเปิด และกดรายการที่เธอบันทึกเสียงไว้เปิดให้ราชนาวีได้ฟัง

บันทึกนั้นหยุดที่คำพูดว่าแค่สักพักใช่ไหมคะของเด็กหญิงรัมภาวีร์ เมื่อเสียงจากโทรศัพท์เงียบลงราชนาวีก็ถอนหายใจออกมาเสียงดัง

“ยกให้ง่ายเหลือเกินน่ะ”

“ก็ถ้าอยากอยู่ด้วยกัน ฉันก็พร้อมจะยกให้ ไม่เสียดายสักนิด” หญิงสาวพูดแล้วก็ยกนิ้วชี้ด้านขวาขึ้นกดที่ขมับขวา อาการวิงเวียนเข้ามาเล่นงานเธออีกครั้งโดยไม่มีบอกกล่าว

“สามีนะไม่ใช่ตุ๊กตา โยนให้คนอื่นไม่ได้ แล้วก็ยกให้ใครไม่ได้ด้วย” เขาบอก แม้สายตาจะมองตามรถของเดนนิสแต่ความความรู้สึกตอนนี้คือโกรธจนอยากจะจับกดตอกย้ำแม่คุณเหลือเกินว่าสามีอย่างเขาไม่ใช่ว่าจะยกให้ใครก็ได้เพียงแค่มีคนมาขอ

“ผมไม่รู้นะรุ้งว่าที่คุณทำเพราะเป็นแม่พระหรืออยากจะเสี่ยงลองใจกัน แต่ผมขอประกาศตรงนี้ว่าจะไม่กลับไปหาพีรมา หรือไปอยู่กับใครที่ไหน ต่อให้คุณกับหนูเล็กจะยกผมให้ใครที่ไหนผมก็ไม่ไป แล้วอย่าพูดว่าจะยกผมให้ใครอีก ไม่อย่างงั้นผมจะจับกดให้ลุกไม่ขึ้นเลย”

“คนบ้า” คำพูดของราชนาวีดีหมดทุกคำ จะมาเสียก็อีประโยคสุดท้ายนี่ล่ะ อีตาผีทะเลนี่ยังไงเอะอะอะไรก็ขู่จะจับกด จับกด “คนผีทะเล”

“คำก็ผีทะเล สองคำก็ผีทะเล เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นผีผ้าห่มเสียเลยนี่”

“บ้า” เหตุการณ์อึมครึมคลายลงพร้อมกับการขู่จะเป็นผีผ้าห่มของชายหนุ่มเสียจนน่าประหลาดใจ เธอกับเขาพูดกันโดยไม่ทะเลาะหนัก ๆ ได้นานขนาดนี้ได้ยังไงกัน “ขับ ๆ ไปเลยไม่ต้องพูดมาก”

หลายนาทีต่อมาทั้งคู่ก็มาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ของเดนนิส แต่สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่เดนนิสเรียกว่าบ้าน บ้านที่เขาพูดถึงอยู่ในรั้วเดียวกับคฤหาสน์หลังโตแต่ห่างจากตัวคฤหาสน์กว่า1กิโลเมตร รัมภาภัสร์ทอดสายตามองไปยังบ้านไม้สองชั้นสีขาวหลังเก่าที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น ตัวบ้านอาจจะไม่ใหญ่เท่ากับคฤหาสน์ด้านหน้าแต่ก็ใหญ่กว่าบ้านของคนทำมาหากินธรรมดา

“บ้านนี้เป็นบ้านของคุณแม่ผม แม่ผมชอบเมืองไทยมากตอนที่ท่านตัดสินใจหย่ากับคุณพ่อท่านก็ตัดสินใจแล้วว่าจะพาเรามาอยู่เมืองไทย ท่านจึงซื้อบ้านหลังนี้จากเพื่อนชาวอเมริกาและพาเราพี่น้องมาอยู่ที่นี่ แม้จะมีคฤหาสน์หลังโน้นแต่ท่านก็ยังชอบพาผมกับแดนนี่มานอนคุยกันสามคนที่นี่ประจำ แต่พอท่านจากไปบ้านหลังนี้ก็ทรุดโทรมไป” เดนนิสเล่าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขเมื่อนึกถึงวันวานและอ่อนลงเมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย

“ผมอยากให้บ้านนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง คิดว่าทำได้ไหม?”

“ทำได้หรือไม่ ฉันขอพิสูจน์ด้วยผลงานแทนคำพูดแล้วกันนะคะ” หญิงสาวบอกก่อนจะขออนุญาตเดินดูรอบ ๆ รวมไปถึงด้านใน เดินนิสเดินนำและคอยอธิบายถึงความต้องการของเขา ส่วนราชนาวีนั้นเดินตามไปช้า ๆ ไม่ได้ก้าวตามให้ทันทั้งคู่

เดนนิสเดินนำหญิงสาวมาจนถึงห้อง ๆ หนึ่งทางปีกขวาของบ้าน ชายหนุ่มแนะนำว่าห้องนี้เคยเป็นห้องของน้องชายก่อนที่หญิงสาวจะหมุนลูกบิดเปิดเข้าไป แต่แล้วเมื่อได้เห็นภาพภายในหญิงสาวก็แทบจะทิ้งทุกอย่างแล้วยกมือขึ้นปิดหน้าแต่ด้วยว่าเธอมีไอเพดติดมือมาด้วยจึงทิ้งลงไม่ได้ อยากจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าแต่ก็ไม่มีแรง ท่าทีตะลึงของหญิงสาวทำให้เดนนิสต้องชะโงกหน้าไปดู แล้วก็ชะงักไปครู่

“ว้าย พวกแกเป็นใครเนี่ย” เสียงแหลมจากด้านในห้องร้องถามอย่างตกใจและผละไปด้านหนึ่งจนเผยให้เห็นอีกคนที่นั่งอยู่ด้านหลังของเจ้าหล่อน ทั้งคู่ไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกายแม้แต่ชิ้นเดียวและเป็นภาพที่ทำให้รัมภาภัสร์ต้องหลับตาปี๋ เดนนิสดึงร่างบางให้พ้นจากวงกบประตูก่อนที่จะปิดประตูไว้เช่นเดิม

“ไอ้บ้าเอ้ย ทำไมอยู่ ๆ พาผู้หญิงมากินในบ้านไม่บอกไม่กล่าว”

“อึย อุจาดตา” รัมภาภัสร์พูด “กลางวันแสก ๆ ไม่อายฟ้าอายดิน อี๋”

ปัง!

“พี่เป็นบ้าอะไรเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะคนอื่น” คนด้านในเปิดประตูออกมาตะคอกถาม ในตอนนี้ชายหนุ่มมีชุดคลมอาบน้ำปกปิดส่วนเปลือยเปล่า มองพี่ชายแล้วก็เสมองไปทางหญิงสาวหนึ่งเดียวที่เข้ามาเห็นรูปร่างของเขาที่เขาแว่ว ๆ ได้ยินเธอบอกว่าอุจาดตาและหาว่าเขาไม่อายฟ้าอายดิน

“เธอใช่ไหมที่เปิดประตู”

“เฮ้แดนนี่ อย่าบ้านา” เดนนิสบอกน้องชาย

“ก็เด็กของพี่มันมารบกวนเวลาผมทำไมล่ะ หรืออยากจะแลกคู่”

“ไอ้แดนนี่ เลิกบ้าได้แล้ว” พี่ชายตวาดลั่นเมื่อน้องชายผู้ถูกขัดความสุขโวยวายลามปามหาว่าหญิงสาวเป็นเด็กที่เขาหิ้วมา เสียงเอะอะโวยวายที่เกิดขึ้นทำให้คนเดินเอ้อละเหยอยู่สาวเท้าเข้าไปทันที

“เกิดอะไรขึ้น?”

ทันทีที่ได้ยินเสียงชายหนุ่ม รัมภาภัสร์ก็ถลาเข้าไปกอดในทันทีด้วยท่าทีขนพองสยองเกล้า

“คุณพาเธอไปรอข้างล่างก่อน ผมขอเคลียร์กับแดนนี่สักครู่” เดนนิสบอกแก่ราชนาวีทำให้หนุ่มไทยต้องประคองหญิงสาวผละจากมาด้วยความมึนงง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel