บท
ตั้งค่า

14 บวชชีหนีรัก?

ประเด็นถอนหุ้นจากผู้ถือหุ้นหลักถูกพูดถึงทั่วจังหวัดไปไม่เท่าไหร่

ข่าวล่ามาใหม่ ก็เอาทั้งจังหวัดเดือดกันอีกครั้ง

‘เดี๋ยวนะ...ได้ข่าวว่าฝ่ายผู้ชายจะไปสู่ขอ นี่คือ...’

‘บวชชีหนีรักแน่ๆ’

‘นี่ก็งงคนจิ้นนะ จิ้นกันลงได้ยังไง ต่อให้คุณเหมจะหล่อแค่ไหน แต่ทำงานผิดกฎหมาย ฉันก็ไม่เอาด้วยเด้อ’ บัญชีหลุมหนึ่ง ใช้ความหาญกล้าแบบไร้ตัวตนในการแสดงความคิดเห็น โดยไม่หวั่นว่าจะถูกรถทัวร์คว่ำใส่

“นั่นสิ ไปสมทบหน่อยดีกว่า” ในฐานะของคนที่ตั้งใจสร้างบัญชีหลุมเพื่อการนี้บ้าง รีบไปกดแสดงความคิดเห็นเชิงสนิทสนม สมทบให้ผู้คนพากันเห็นตาม

สังคมทุกวันนี้ ผู้คนคล้อยตามกันได้ง่าย ฝ่ายไหนมีข้างมากกว่า ฝ่ายนั้นชนะ!

‘แต่ถ้าไม่แต่ง หุ้นอาจจะค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ นะ เป็นฉัน ฉันจะหาที่เกาะเอาไว้แบบด่วนๆ’ แต่ไม่ทันที่เธอจะได้แสดงความคิดเห็นดังใจ ความคิดเห็นใหม่ก็เด้งขึ้นมาตัดหน้าซะก่อน

“หืม มันจะมากเกินไปแล้วนะ...”

“คุณหมอคะ คุณหมอ!” แต่ไม่ทันที่เธอจะตอบโต้ฝ่ายนั้นด้วยบัญชีหลุมที่ตัวเองมี ก็มีเสียงเรียกดังแว่วมาซะก่อน

“มีอะไรคะพี่ยา?” แพทย์หญิงสู่ขวัญเปิดประตูเรือนพักแม่ชี ที่ลางานมาอาศัยอยู่ได้สองสามวัน ชะเง้อออกไปมองตามเสียงเรียก

“แม่ชีเขาให้มาเรียกจ้ะ มีคนมาหา” แม้จะประหลาดใจ ว่าใครจะมาหา เพราะว่าตอนนี้คนในครอบครัวและญาติพี่น้องทราบว่า เธอไม่อยากจะพบเจอใครทั้งนั้น

“ไม่ใช่แม่ใช่ไหม?” ว่าอย่างไม่ไว้วางใจ แม้ว่าแม่ชีจะสัญญาเอาไว้อย่างดิบดีแล้วก็ตามว่า เธอจะได้พักอยู่ที่นี่อย่างสงบใจ จนกว่าจะถึงวันบวช

ใช่...แค่จะบวชชีพราหมณ์ แต่เธอก็อยากจะจัดงานให้ยิ่งใหญ่ เพื่อให้มารดาได้ตระหนักได้ ว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะบวชไปตลอด เพราะบวชแบบไม่ได้มีกำหนด ว่าจะลาสิกขาวันไหน แม้จะไม่ใช่บวชชีโกนผมก็เถอะ

“ไม่ใช่จ้ะ” ตอบให้ตามตรง จริงใจและรีบเดินกลับไป ตามประสาคนสงบที่เข้ามาปฏิบัติธรรมในวัดสม่ำเสมอ

“ไม่ใช่แม่ แล้วจะเป็นใคร...” แม้จะสงสัย แต่ก็ยินดีตามไปที่ศาลาหน้า เพราะไม่อยากจะให้แขกรอนาน ไม่อยากจะเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้แม่ชีจะต้องมารับหน้าแทนตน อย่างลำบากใจ

และทันทีที่เดินไปถึงบริเวณใกล้ศาลาหน้า สู่ขวัญก็สะดุดกึก ชะงักขา เมื่อร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านขวางทางอยู่ และรับรู้การมาของเธอแล้วด้วย

“มาที่นี่ทำไม” ถามออกไปอย่างไม่เป็นมิตร และมีทีท่าว่าจะถอยหลังกลับ แต่ถูกคนขายาวเดินจ้ำอ้าว มาขวางเอาไว้ได้ซะก่อน

“มาหาอดีตแชมป์ อนาคตชี...มั้ง” เหมันต์ตอบเชิงกวน ดูอารมณ์ดี ไม่ได้ทุกข์ร้อน จนเธอต้องหน้าบึ้งตึงใส่ เพราะเขากำลังจี้ใจเธออย่างแรง

“ถ้าจะมาก่อกวนล่ะก็ ฉันไม่คุยด้วยนะ” หมุนตัวหมายจะเดินหนี แต่กลับถูกเขาคว้าท่อนแขนเรียวเล็กเอาไว้ได้ซะก่อน

“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

“แต่ฉันไม่มี!” ตวาดเชิงกระซิบ พยายามดึงแขนตัวเองออก พร้อมมองไปโดยรอบ เพราะสถานที่แบบนี้ ไม่เอื้อต่อการมาจับมือถือแขน

“ถ้ายอมคุยดีดี พี่จะปล่อย” คนไม่ยอมปล่อย ถ่ายทอดสีหน้าและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงจังไร้การล้อเล่น ทำเอาเธอตัดสินใจว่าจะลองฟังเขาดู พร้อมตอบรับผ่านสายตา

“ไปคุยกันทางนั้น” เขายังไม่ยอมปล่อยมือใหญ่ออกจากท่อนแขนเนียน ที่นุ่มเหลือเกินในคราสัมผัส แถมยังออกแรงลากให้เธอเดินไปด้วยกัน

คนตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่เลยตามเลย

“ปล่อยได้แล้ว” เมื่อเดินมาถึงลานต้นโพธิ์ที่ไร้ผู้คน สู่ขวัญก็ตัดสินใจสะบัดแขนออกจากเกาะกุมของเขา ซึ่งมันก็ง่ายดาย เพราะคนตัวใหญ่ ยอมที่จะปล่อยโดยดี

สู่ขวัญแหงนหน้ามองคนสูงกว่า ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนทรงกระบอก สบายๆ ดูดีและชิลล์กว่าที่ได้เห็นทุกครั้ง

“กะจะบวชชีหนีรักหรือไง” น้ำเสียงทุ้มเชิงแค่น เอ่ยขึ้น จนเธอต้องมองกลับ ด้วยสายตาเชิงแค่นกว่า

“หนีรัก?”

“เหอะ เรียกว่าหนีนรกน่าจะเหมาะกว่า” คำพูดของเธอ ทำเอาเขาต้องขยับเข้าไปใกล้ 1 ก้าว อัตโนมัติ

“พูดให้มันดีๆ” เหมันต์แสร้งตีเสียงขรึม มองสำรวจเรือนร่างเล็ก ที่อยู่ในชุดปฏิบัติธรรม แต่สีหน้าและแววตา เต็มไปด้วยวาระกรรม

“นายอย่าคิดนะ ว่าจะใช้วิธีเข้าทางแม่ แล้วจะบังคับให้ฉันแต่งงานกับนายได้ ฉันบอกไว้เลยนะ ว่าฉันจะทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะไม่ให้การแต่งกำมะลอนั่นเกิดขึ้น!”

“จะจัดงานบวชเมื่อไหร่นะ” แล้วคนตั้งป้อมพร้อมสู้ ก็สะดุดกึกใหญ่ จนหัวแทบทิ่ม ตากะพริบถี่ เมื่อเขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะพูดเรื่องพวกนั้นเลยสักหน่อย

“ถามทำไม” ว่าอย่างระแวดระวัง แม้จะสัมผัสได้ว่าเรือนร่างทรงพลัง ดูเป็นมิตรกับเรื่องนี้ไม่น้อย

“จะเป็นเจ้าภาพให้”

“เพื่อ?” สู่ขวัญยิ่งไม่ไว้วางใจเขาหนักกว่าเดิม

“แล้วจะให้พี่ทำยังไง ขัดขวาง?”

“อยากให้ขัดขวางเหรอ” หญิงสาวรีบสั่นหน้า แต่แววตายังคงเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ

“ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องอะไร ดีที่สุด!” เค้นน้ำเสียงเข้มใส่ แต่เขาก็เหมือนจะไม่ได้สะทกสะท้าน

“กะจะบวชกี่พรรษา” เขาทำเป็นถามยิ้มๆ เชิงอยากจะชวนคุยมากกว่าหาสาระอื่นใด

“ตลอดชีวิต”

“แบบนั้น ก็บวชแบบโกนผมไปเลยสิ จะแค่ชีพราหมณ์ทำไม” เขาดูไม่ได้เดือดร้อนใจเรื่องที่เธอจะบวชเลยสักนิด แถมยังสนับสนุนเสียนั่น

ไม่ได้เดือดร้อนจริง...หรือแค่ทำให้เราตายใจไปอย่างนั้น

“ฉันจะบวชยังไงก็เรื่องของฉัน ไม่ต้องมายุ่ง”

“พี่จะเป็นเจ้าภาพงานให้ อยากได้แบบไหนก็บอก” แต่น้ำเสียงบอกย้ำเชิงคงมั่น ก็ยังคงยืนยันแบบไม่ได้สนว่าเธอจะว่ายังไง

“นี่นายพูดไม่รู้เรื่องเหรอ ก็ฉันบอกอยู่เนี่ย ว่าไม่ต้องมายุ่ง!” ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่รู้ว่าเธอถลึงตาใส่เขาไปแล้ว กี่ครั้งกี่หน

“อย่าขัดบุญคน เดี๋ยวบาป”

“เหอะ อย่างนาย ไม่น่าจะรู้จักนะ บุญ บาป น่ะ” เมื่อนึกไปถึงเรื่องที่ว่าเขาแอบค้ายาบ้า มอมเมาประชาชน เธอก็รังเกียจจะแย่แล้ว

“ตกลงตามนี้ อีกสามวันเจอกัน” เหมือนสิ่งที่เธอพูดไม่ได้เข้าหู เข้าสมองของเขาเลยสักนิด เหมันต์เดินกลับไปด้วยทีท่าแสนสบาย แววตายียวนกวนเธอตามแบบฉบับ

จนคนมองตามที่อยากจะกรี๊ดแทบบ้า ทำได้แค่กระทืบเท้าลงดินเบาๆ เพียงเท่านั้น

“คนบ้า...คิดจะทำอะไรของเขานะ”

ไม่รู้สิ สู่ขวัญรู้สึกว่า เรื่องมันไม่น่าจะจบง่ายขนาดนี้ คนอย่างเขาไม่น่าจะยอมง่ายขนาดนี้

แต่ก็นั่นแหละ!

เธอจะไปล่วงรู้แผนการของเขาได้ยังไงเล่า...
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel