บท
ตั้งค่า

12 แก้ปัญหา

“แล้วจะทำยังไงละทีนี้ เกิดปัญหาอะไรทำไมถึงไม่ยอมบอกแม่!”

นึกแล้ว สู่ขวัญนึกอยู่แล้ว ว่าหากเรื่องนี้ถึงหูมารดา ผลของมันจะออกมาเป็นยังไง

แต่ไม่ว่าผลมันจะออกมายังไง เธอก็ต้องบอกท่าน เพราะเรื่องนี้ ใหญ่เกินกว่าที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

“ก็บอกอยู่นี่ไงคะ” ตอบท่านแบบไม่มองหน้า น้ำเสียงอ้อมแอ้ม

“ไปกราบขอร้องคุณวิบูลย์กับแม่วันนี้เลย สินีเขาด้วย ไปตอบโต้ผู้ใหญ่แบบนั้นได้ยังไง กำไรจากโรงพยาบาลก็ยังไม่เห็น แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปคืนให้คุณวิบูลย์ โอ๊ย แม่อยากจะเป็นลมจริงๆ เลยพ่อ!”

คนที่พอมีปัญหาอะไร ก็จะเอามามัดรวมกันแล้วพูดๆๆๆ แบบไม่สนว่าคนฟังจะตอบกลับว่ายังไง และก็ตื่นตูมวุ่นวายอย่างสร้อยทอง ทำให้สู่ขวัญต้องมองหน้าบิดาเชิงขอความช่วยเหลือ

“ใจเย็นๆ ก่อนนะคุณ เรื่องมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้” ผู้ใหญ่สาว่าอย่างใจเย็นตามแบบฉบับ แม้แววตาจะฉายความครุ่นคิด

“ไม่เลวร้ายเหรอคะ? ผู้ถือหุ้นหลักขอถอนหุ้นกะทันหัน อย่างนี้ไม่เลวร้าย ก็คงไม่เหลือเรื่องดีอะไรแล้วแหละค่ะ!” แล้วผู้ใหญ่สาก็ขยับเข้าไปใกล้ภรรยา จับมือเธอมากุมเอาไว้เชิงปลอบ

เพราะรู้ดีว่าที่สร้อยทองทำไปทั้งหมด เพราะกำลังเสียขวัญและเสียใจ แต่คงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้

“ขวัญสัญญานะคะ ว่าขวัญจะหาเงินมาซื้อหุ้นเอาไว้ให้ได้ แม่ไม่ต้องห่วงนะ” เธอพยายามปลอบท่านด้วยน้ำเสียงอ่อน ไม่ได้แข็งข้อใส่เหมือนที่ผ่านมา

ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้สร้อยทองค่อยๆ อ่อนลง ตามไปด้วย

“ยังไง? แกจะไปหาเงินมาซื้อยังไง กำไรโรงพยาบาลยังไม่เคยเห็นสักบาท”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อจะช่วยอีกแรง พ่อรู้จักคนใหญ่คนโตหลายท่าน เผื่อว่าจะมีใครสนใจซื้อหุ้นเอาไว้ เพราะชื่อเสียงของโรงพยาบาลที่มีในตอนนี้ ก็ไม่น่ายากสำหรับการตัดสินใจซื้อหุ้นเอาไว้”

คำพูดของผู้ใหญ่สาดูน่าฟัง จนสองแม่ลูกยิ้มออก

“จริงสินะจ๊ะพ่อ! ได้ยินอย่างนี้แม่ค่อยชื่นใจหน่อย ผู้ใหญ่สาเป็นคนกว้างขวาง รู้จักคนตั้งมากมาย ยังไงแม่เชื่อว่าพ่อต้องทำได้อยู่แล้ว” สร้อยทองผู้ภาคภูมิใจในตัวสามีมาตลอด ผ่อนคลายขึ้น พร้อมออดอ้อนกันตามประสา จนสู่ขวัญค่อยๆ พาตัวเองออกมาจากบริเวณนั้น

เธอก็ได้แต่ภาวนา ว่าหนทางของบิดาจะออกมาด้วยดี มีคนอยากจะซื้อหุ้นนี้เอาไว้ และมีความสามารถในการซื้อทันที ก่อน 30 วันด้วยเถอะ!

“ดีนะ ที่ถึงแม้แม่จะอยากได้ลูกเขยแค่ไหน แต่ก็รักศักดิ์ศรี ไม่ได้คิดจะขายลูกสาวกิน” สู่ขวัญเอ่ยออกมาได้ เมื่อมองกลับไปยังตัวบ้านหลังใหญ่อีกครั้ง

เธอเลยหมดห่วงเรื่องถูกจับแต่งงาน เพียงเพราะอยากจะได้เงินมาซื้อหุ้นเอาไว้

หากมารดาเอาข้อนั้นมาอ้าง...ก็ไม่แน่หรอก เธออาจจะดิ้นไม่หลุดก็ได้

2 สัปดาห์ต่อมา

ข่าวดีจากบิดา คือมีคนยอมมาซื้อหุ้นของวิบูลย์เอาไว้ พร้อมจ่ายเงินสดจำนวนหลายล้านบาท โดยที่คนที่มีกำลังซื้อคนนั้น เป็นเจ้าของร้านทองหลายสาขาในจังหวัด ที่สนใจร่วมทุนกับทางโรงพยาบาลปัญญาภูมิ

แต่เธอก็ยังไม่ได้พบหน้าตา รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิง...ไม่ขอเกี่ยวข้องในส่วนบริหาร ขอแค่ถือหุ้นเฉยๆ ไม่เหมือนวิบูลย์ที่ทั้งถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัท

งานพวกนั้น จึงตกมาเป็นของสู่ขวัญเพียงคนเดียวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“โห ขยันสุดอะไรสุด นั่งทำงานในห้องตรวจแบบไม่ได้พักเลยน้า” หลังจากเสียงเคาะประตูหน้าห้องได้ดังขึ้น ก็ตามด้วยเสียงเปิดประตูเชิงแย้ม และโผล่หน้าแฉล้มออกมาให้ได้เห็น

“เออสิ วันเสาร์ยังไม่ได้หยุดเลยช่วงนี้” สู่ขวัญแสดงทีท่าอ่อนล้าให้เพื่อนได้เห็นชัด พร้อมรีบรับแก้วชาเขียวปั่นที่รู้ว่าฝ่ายนั้นซื้อมาฝาก ด้วยทีท่ากระหายใคร่อยากสุดๆ

“ไม่ลงแดงแย่แล้วเหรอ” ว่าอย่างรู้ใจ พร้อมแกะกล่องขนมที่ทำมาให้เพื่อนชิมโดยเฉพาะ เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ของพยาบาลสาว

“ใกล้ละ...” ส่ายหน้า พร้อมเร่งพิมพ์งานตรงหน้าให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะได้เมาส์มอยกับเพื่อนให้สาแก่ใจ

“โชคดีนะที่วันนี้คนไข้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ก็เลยได้พอหายใจหายคอ” เพลินวราว่าพร้อมหยิบเอาเอกสารหลายๆ อย่างออกมา เพื่อให้เพื่อนช่วยตรวจให้

“จริง เพราะหลายวันมานี้ ฉันเลิกงานดึกทุกวัน เพราะช่วงกลางวันคนไข้เยอะมาก ปลีกทำอย่างอื่นไม่ได้เลย”

“ฉันก็เหมือนกัน พยายามเรียนรู้งานต่อจากพี่สินี แกสอนเข้มข้นมาก แต่ก็สอนแบบไม่มีกั๊กเลยนะ สมกับที่มีสปิริตอันแรงกล้าจริงๆ” คำชื่นชมหัวหน้าพยาบาลคนเก่ง ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตไปนี้ของเพลินวรา ทำเอาแพทย์หญิงสะดุด

“ฉันว่า...ก่อนแกออก อยากจะทำของขวัญอะไรให้สักอย่าง แกว่าควรเป็นอะไรดี” คราวนี้เป็นเพลินวราเองที่สะดุด เงยหน้ามองเพื่อนรักอย่างแรง แบบไม่อยากจะเชื่อหู

“นี่แกไม่โกรธพี่สินีแล้วเหรอ?” สู่ขวัญถอนหายใจออกมาตามตรง

“มันก็โกรธแหละ แต่มาคิดดูดีดีแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้ให้อะไรเขาคุ้มค่า อย่างที่เขายอมอดทนทำเพื่อปัญญาภูมิมาตลอดนั่นแหละ”

“ดีแล้ว ที่แกคิดได้อย่างนี้ แต่ก็นั่นแหละ เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว แกทำแบบนี้ก็ดีแล้ว ถือว่าเป็นการขอบคุณและซาบซึ้งที่ช่วยเหลือกันมาตลอด เดี๋ยวฉันช่วยแกคิดเอง ว่าจะเอาอะไรเป็นของขวัญให้พี่สินีเขาดี” เพลินวราตอบแบบรักษาน้ำใจเพื่อนรักแบบถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้สู่ขวัญรู้สึกผิดกับเรื่องนี้ตลอดไป

เพราะสิ่งสำคัญคือ กำลังใจในการบริหารปัญญาภูมิต่อไปในภายหน้าของสู่ขวัญ

“ขอบใจแกมากนะ ที่เลือกช่วยฉัน แม้ตัวเองจะไม่ชอบในหน้าที่นี้เลยก็ตาม”

“สบายมากเพื่อน เรามันเพื่อนตายอยู่แล้ว...แม้ว่าจะพยายามแทบตายก็เถอะ!” แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน เปิดนำเสนอเรื่องงานให้กันและกันดูเชิงปรึกษา

มันไม่ง่ายหรอก แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel