10 ผิดแผน
แผนการล่มไม่เป็นท่า...
เมื่อวิดีโอถ่ายทอดสดของเธอถูกแพร่ออกไป
ผู้คนไม่ได้สนใจว่าเธอคือแพทย์หญิงเจ้าของโรงพยาบาลปัญญาภูมิ แต่ผู้คนสนใจผู้ชายสวมชุดบอลสีขาว ที่กระโดดน้ำตามเธอลงไปต่างหาก
การขุดคุ้ยประวัติของเหมันต์จึงได้เริ่มขึ้น ลุกลามไปถึงการจับจองสะใภ้ของโชควิลาส และนั่น...คือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนรู้ว่าผู้หญิงที่กระโดดน้ำตูมตามอยู่นั้น เป็นถึงแพทย์หญิงเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนของจังหวัด
กองเชียร์จึงได้ถือกำเนิดเกิดขึ้น
‘สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก’
‘แหช่วยกันหว่าน น้ำวังช่วยกันโดด’
‘แต่งเลย แต่งเลย!’
“ไปจ้างมาปะเนี่ย” แพทย์หญิงสู่ขวัญไล่อ่านความคิดเห็นเหล่านั้นในช่องทางการแชร์วิดีโอของตัวเอง อย่างไม่อยากจะเชื่อ
เธอรู้ว่ามีคนรักตัวเองมากโข
แต่กับคนโน้น... น่าจะมีแต่คนเกลียดนะ
แล้วประตูที่ไม่ได้ถูกเคาะก่อน ก็เปิดพรวดเข้ามา พร้อมเผยใบหน้าคนไร้มารยาท
“พี่สินี” พยาบาลสาวใหญ่วัยใกล้เกษียณเชิดใบหน้า หลุบสายตาดูแคลนมองเธอชัด
“คุณวิบูลย์มาค่ะ เชิญที่ห้องประชุมชั้นสอง” เอ่ยแค่นั้น ก่อนปิดประตูลง เหมือนสั่งการเสร็จสรรพไม่ใช่การถาม ว่าเธอสะดวกหรือไม่
รู้ว่าไม่เคยเกรงใจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะหนักข้อจนแบบไม่กลัวโดนไล่ออก!
“ผมเห็นคลิปที่เผยแพร่ไปแล้ว ผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่” วิบูลย์ เจริญลาภ นักลงทุนผู้มีชื่อเสียงในระดับภาค เอ่ยด้วยทีท่าหนักใจ โดยมีลูกสร้อยถอนหายใจรับอย่างสินี นั่งอยู่ฝั่งเดียวกัน
เลือกข้างออกหน้าออกตาเลยนะ
“ขวัญขอโทษค่ะคุณวิบูลย์ ที่ทำอะไรลงไป โดยไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อน” ยกมือไหว้ผู้มีพระคุณหลัก ที่เล็งเห็นความสามารถของเธอ และยอมที่จะลงทุนร่วมด้วย
“ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ ตอนนี้โรงพยาบาลปัญญาภูมิกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น จะทำอะไรลงไปก็ดูไม่น่าเกลียด...”
ช่างเป็นคำตำหนิที่ไร้คำตำหนิ แถมยัง เหมือนจะ ชื่นชมอีกต่างหาก
“ขวัญไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกค่ะ”
“เอาเถอะ ผมไม่ได้อยากจะมาเพื่อพูดอะไรที่มันกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่แค่จะมาบอกว่า...อย่าพลาดซ้ำ เคยพลาดแล้ว ก็อย่าพลาดอีก เพราะโอกาสของคนเราน่ะ มันไม่ได้มีได้ไปตลอด คุณหมอแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่แก้ไขอนาคตได้ อย่าลืมข้อนี้”
สู่ขวัญก้มหน้ารับฟังด้วยความคิดที่ไม่ได้เห็นต่างหรืออยากจะแก้ตัวอะไร เธอยอมรับ...ว่าตัวเองพลาด ซ้ำ อย่างที่เขาว่าจริงๆ
“ขวัญขอโทษค่ะ”
“ผมจะรับคำขอโทษเอาไว้ก็ได้...แต่ผมขอหุ้นผมคืน”
“อะไรนะคะ!” สู่ขวัญพอจะทราบเรื่องนี้ดี แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็ว จนไม่ได้ให้ตั้งตัวขนาดนี้
“เรื่องแค่นี้ ถึงกับต้องถอนหุ้นเลยเหรอคะ?” เธอรู้ว่ามากกว่านั้นมันคืออะไร แต่ก็ขอใช้คำถามนี้เพื่อยื้อเอาไว้ก่อน
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ อันที่จริงผมก็ทนมา 4 ปีแล้ว และไม่มีทีท่าว่าอะไรจะดีขึ้น...ก็เลยคิดว่า น่าจะเอาเงินกลับไปทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า” ว่าพร้อมมองหน้าสินีที่ดูยิ้มระรื่นกว่าปกติ
“ใช่ค่ะ อะไรที่ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นได้เลย ก็ไม่ควรที่จะอยู่ต่อ” สู่ขวัญเข้าใจแล้ว ว่าคนสองคนต้องการจะบอกอะไรกับเธอ
“แต่ตอนนี้โรงพยาบาลกำลังมีชื่อเสียง คนไข้ล้นทุกวัน โอกาสที่จะกลับมาฟื้นและได้กำไร ไม่ยากแล้วนะคะ” คนที่รู้ดีว่าตอนนี้ โรงพยาบาลกำลังหมุนเงินอย่างหนัก ไม่สามารถเอาเงินหุ้น 30% คืนให้วิบูลย์ได้ พยายามยื้ออย่างสุดความสามารถ
“ผมขอแสดงความยินดีด้วยนะครับหมอขวัญ ขอให้หมอขวัญได้ปันผลเยอะๆ จากหุ้นที่จะตกไปเป็นของคุณขวัญเพิ่มขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ด้วยนะครับ” แพทย์สาวกลืนน้ำลายลงคอ หันไปมองหน้าคนสองคนที่ตัวเองคิดว่าไว้วางใจได้มาตลอด ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย
ข่าวลือที่ได้ยินมา เมื่อไม่นานนี้ ว่าน่าโมโหแล้ว การมาบอกกล่าวแบบไม่มีล่วงหน้า มันยิ่งน่าโมโหกว่า
“แต่ถ้าคุณขวัญซื้อไว้เองไม่ไหว ก็ให้คุณหมอโชช่วยซื้อไว้สิครับ รายนั้นมีแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เอง”
“โอ๊ยยากค่ะ หมอโชหนี้เยอะจะตาย ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถเยอะแยะ คงจะซื้อไหวหรอกค่ะ” กิริยาจีบปากจีบคอเชิงดูถูกของพยาบาลสินี ทำเอาสู่ขวัญต้องกำมือแน่น
มีสิทธิอะไรมาดูแคลนเพื่อนเธอ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ร่ำรวยหรือดีเด่มาจากไหน!
“งั้นก็คงต้องเป็นพวกลุงป้าน้าอา ที่พากันถือๆ อยู่ คนละ 1-2 เปอร์เซ็นต์ละมั้งครับ”
“โอ๊ย...”
“พอได้แล้วค่ะ!” แย้งขึ้นเสียงดัง ขัดการรับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยของคนสองคน ที่เข้าขากันได้ดีเสียจนออกนอกหน้า
“อย่าคิดนะคะ ว่าขวัญจะไม่รู้ ว่าคุณสองคนคิดจะทำอะไรกันอยู่”
“คิดอะไร พูดให้มันดีดีนะ” สินีเหมือนกินปูนร้อนทอง จนวิบูลย์ต้องส่งสายตาห้ามปรามเอาไว้
“เอาเป็นว่าตามนี้นะครับ ถ้าซื้อเอาไว้เองไม่ได้ ก็ต้องหาคนมาซื้อ เพราะตามสัญญาพิเศษที่เราทำกันขึ้นมา คือถ้าใครอยากจะถอนต้องได้ถอนภายใน 30 วัน โรงพยาบาลยินดีจะให้ถอนทันที ถ้าต้องการ”
ที่เธอยอมในตอนนั้น เพราะอยากจะได้ทุนมาเสริมในการสร้างโรงพยาบาลจริงๆ เงินที่เธอกู้มาได้ ผสมกับเงินเก็บ ทำให้มีหุ้นอยู่ 50 % ของวิบูลย์ 30 % โชติพัฒน์ 10 % และของญาติหลายๆ คนอีก รวมเป็น 10 %