บท
ตั้งค่า

3 ผู้หญิงสองคนนั้น

‘นะคะคุณครู หนูขอโอกาสอีกสักครั้งนะคะ อย่าเพิ่งตัดสิทธิ์สอบนายทินกรเลยนะคะ’ เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พนมมือขอร้องอาจารย์ประจำวิชาคณิตศาสตร์ ที่ได้ชื่อว่าโหดหินที่สุดในโรงเรียนแล้ว

‘แล้วนายทินกรอยู่ไหน’ เสียงคุณครูชายวัยกลางคนดังเข้ม กวาดสายตามองหาคนต้นเรื่อง ที่ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นเลยสักคาบ

‘พอดีว่านายทินกรท้องเสียน่ะค่ะคุณครู เดี๋ยวตามมาค่ะ ตอนนี้วิ่งเข้าห้องน้ำอยู่’ เด็กสาวผู้เรียนเก่งที่สุดในห้อง เจ้าเล่ห์เพทุบายเก่งด้วยไม่แพ้

‘เธอนี่มันจริงๆ เลยนะ เขาจ้างมาเท่าไหร่ ถึงออกรับแทนอยู่นั่น’

‘โหยคุณครู เรื่องเงินมันไม่ได้สำคัญหรอกค่ะ หนูแค่อยากจะช่วยเพื่อนให้เรียนจบไปด้วยกัน ก็เท่านั้นเอง’ น้ำเสียงและแววตาที่เป็นไปในทางเดียวกันว่า นั่นคือจริงใจที่สุดแล้ว ทำเอาคุณครูสายโหดถึงกับต้องถอนหายใจ

‘ไอ้ครูก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะช่วย แต่เพื่อนเธอไม่เคยเข้าเรียนเลย งานก็ไม่ยอมส่ง...’

‘นี่ไงคะคุณครู งานทั้งหมดที่ค้างของนายทินกร ครบทุกงานเลยนะคะ’ เด็กหญิงผู้กระตือรือร้น ยกแฟ้มงานที่แยกออกเป็นหมวดและลำดับยื่นให้ อย่างครบถ้วน

คุณครูประจำวิชาถอนหายใจออกมา พร้อมส่ายหน้า ล่วงรู้กิตติศัพท์ความเก่งของจันทร์คืนแรมและชอบช่วยเหลือเพื่อนทุกคนจนรู้สึกเห็นใจ

‘ยังไง เธอก็ช่วยเขาให้ได้เลยงั้นสิ’

‘ใช่ค่ะอาจารย์ ยังไง หนูก็จะช่วยเขาให้ได้ค่ะ อาจารย์จะให้หนูทำอะไร ทำยังไง บอกมาได้เลยนะคะ หนูยินดีทำทุกอย่างค่ะ’ อันที่จริง ใครหลายคนเข้าใจว่าเธอรับเงินจากฝ่ายนั้นมาตลอด แต่ไม่เลย...เธอไม่เคยรับแม้แต่บาทเดียว!

‘แล้วทำไมเธอถึงไม่ลองทำให้เพื่อนยอมนั่งเขียนงานและเข้าเรียนบ้างล่ะ แบบนั้นมันน่าทำกว่าไม่ใช่เหรอ’

‘ไม่ต้องห่วงเลยค่ะอาจารย์เรื่องนั้นสบายมาก ถ้าอาจารย์ยอมให้นายทินกรมีสิทธิสอบ หนูจะพานายทินกรเข้าเรียนให้ได้ทุกคาบเลยค่ะ หนูสัญญา’ คนฟังหรี่สายตา

‘ก็ได้ ครูยอมก็ได้...แต่ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เธอพูด ครูจะปรับตกนายทินกรในวิชาของครูทันที’

‘ได้เลยค่ะคุณครู ไม่มีปัญหา!’

‘รวมไปถึง ปรับตกเธอด้วย’ คนดีใจจนแทบกระโดด ร่วงผล็อยลงมา

‘ว่าไงนะคะอาจารย์?’

‘เธอขอเรื่องใหญ่ ก็ต้องแลกด้วยของชิ้นใหญ่หน่อย’ แล้วคุณครูผู้โหดยิ่งกว่าคำลือเลื่อง ก็เดินจากไปด้วยทีท่าที่แสนเลือดเย็น ปล่อยให้จันทร์คืนแรมทรุดตัวนั่งลงกับพื้น

‘โหย ทำไมอาจารย์ถึงได้ใจร้ายขนาดนี้เนี่ย!’

แต่เธอไม่มีเวลาที่จะเสียใจนานขนาดนั้น จันทร์คืนแรมวิ่งรอบโรงเรียนเพื่อตามหาทินกร ผู้ที่ไม่เคยขาด ไม่เคยลา มาโรงเรียนทุกวัน แต่!...

ไม่เคยเข้าเรียนแม้สักคาบ ไม่ส่งงานแม้สักชิ้น และหาตัวไม่เคยจะเจอ!

‘นายทินกร!’ เธอตะโกนเรียกพร้อมวิ่งไปดักทางข้างหน้าเอาไว้ กางแขนออกจนสุด ด้วยใบหน้าบึ้งตึง จ้องไปยังใบหน้าเฉยเมยของคนที่เอาเสื้อออกนอกกางเกง ชายเสื้อยับยู่ รองเท้าเหยียบส้น กลิ่นบุหรี่ยังคลุ้งไปทั่วตัว

ทินกรเป็นเด็กนักเรียนซ้ำชั้นในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งพอจันทร์คืนแรมเลื่อนชั้นมา เขาก็เลยได้กลายเป็นรุ่นพี่ซ้ำชั้นหนึ่งเดียวของห้อง

‘โทรมาทำไมไม่ยอมรับสาย’ เธอได้รับมอบหมายให้ดูแลพี่ซ้ำชั้นท่านนี้ เพราะถ้าเขาเลื่อนชั้นไปไม่ได้ คุณครูประจำชั้นของเธอจะไม่ได้เลื่อนขั้น เธอจึงรับปากอาสาว่าจะช่วยดันรุ่นพี่คนนี้ ให้ขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปด้วยกัน

เพราะเธอไม่คิดไงล่ะ ว่ามันจะยากเย็นแสนเข็ญถึงเพียงนี้!

‘มีอะไร’ เขายอมพูดกับเธอด้วยถ้อยคำเยือกเย็น ไร้อารมณ์ตามแบบฉบับ

‘พี่กำลังจะถูกตัดสิทธิ์สอบวิชาคณิตศาสตร์ รู้ตัวรึเปล่า’

‘เหรอ’ พูดแค่นั้น แล้วก็เดินผ่านหน้าเธอไป จันทร์คืนแรมรีบคว้าท่อนแขนขาวเนียนนั้นเอาไว้

‘เดี๋ยวสิ! ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย’ ทินกรปลายตามองมือของเธอที่จับแขนตัวเองอยู่ แต่เธอหาได้สนใจไม่ วิ่งขึ้นไปดักหน้าเขาเอาไว้ด้วยแววตามุ่งมั่นอีกครั้ง

‘ตอนนี้คุณครูยอมให้พี่มีสิทธิ์สอบแล้ว แต่นับจากวินาทีนี้ พี่จะต้องเข้าเรียนทุกคาบ ห้ามขาด ลาหรือมาสาย!’ ดวงตาคมกริบของหนุ่มมัธยมปลาย จ้องเข้าไปในดวงหน้าธรรมดาตาชั้นเดียว ที่นอกจากแป้งฝุ่นแล้ว ก็ไม่ได้เพิ่มหรือเติมแต่งอะไรเข้าไปอีก

‘และที่สำคัญพี่จะต้องสอบให้ผ่าน ต้องเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่วันนี้!’

ทินกรส่ายหน้าออกมาเล็กน้อย ก่อนมุ่งหน้าเดินผ่านเธอไป อย่างไม่สนใจการตะโกนเรียกตามหลัง

แต่กระนั้น คนสู้ไม่ถอยก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่ายๆ คิดหนทางที่จะทำทุกอย่าง เพื่อให้ทินกรยอมเข้าเรียนและมาสอบให้จงได้!

‘ลูกพี่ๆ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ไปดูกัน’ ลูกไล่ของทินกรรีบมาปลุกคนที่นอนอยู่บนเปลหลังห้องน้ำของโรงเรียนให้ลืมตาขึ้น

‘เรื่องอะไร’

‘ไปดูเองเถอะลูกพี่ เร็ว!’ ตอนนี้ฝนกำลังตกพรำๆ เป็นช่วงเวลาที่เขาชอบนอนฟังเสียงฝน จนเคลิ้มหลับไป

บรรยากาศแบบนี้มันหาไม่ได้ในคฤหาสน์หลังใหญ่ ก็เลยอาศัยมาฟังตอนอยู่โรงเรียน

อันที่จริง เขาเพิ่งย้ายมาโรงเรียนแห่งนี้ เอาก็ตอนมัธยมศึกษาปีที่ 5 นี่แหละ เพราะสอบไม่ผ่านจากโรงเรียนนั้น มารดาจึงทำการย้ายโรงเรียน มายังโรงเรียนที่เคยช่วยบริจาคเงินมากมาย หวังให้เขาได้เรียนจบ

แต่...ก็เหมือนว่าความหวังนั้น จะริบหรี่เต็มที เพราะคุณครูที่นี่ ล้วนถือเอาระเบียบจริงจัง ไม่ได้เห็นแก่ผู้สนับสนุนหลักของโรงเรียนแต่อย่างใด

ผู้บริหารจึงใช้วิธีกดดันคุณครูประจำชั้นเข้าแทน

‘ถ้านายทินกรไม่ยอมเข้าเรียนวันนี้ ฉันจะยืนตากฝนอยู่ที่นี่ ไม่ยอมหลบเข้าไป!’ เสียงตะโกนฝ่าเสียงฝน ของคนที่ยืนตากฝนอยู่หน้าอาคารเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ทำให้ผู้คนบนอาคารพากันยืนออดู ด้วยน้ำเสียงฮือฮา

จันทร์คืนแรมบ้าดีเดือดพอที่จะทำอะไรแบบนี้ เธอยืนกระต่ายขาเดียวพูดประโยคนั้นซ้ำๆ ท่ามกลางฝน จนคนที่รีบมาดูตามคำเรียกของลูกไล่ ถึงกับชะงัก

‘ต้องลงทุนขนาดนี้เลยเหรอ’ อันที่จริง เขาก็พอรู้ว่าหัวหน้าห้องก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ผู้หญิงคนนี้ดูจะทำเกินหน้าที่ปกติให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ

จนกระทั่งมาในตอนนี้...

‘เห็นมีคนบอกว่า ที่คุณครูยอมให้ลูกพี่มีสิทธิ์สอบ แต่ต้องเข้าเรียนทุกคาบตลอดไป ถ้าเสี้ยวทำให้ลูกพี่เข้าเรียนไม่ได้ คุณครูจะปรับลูกพี่ตก แล้วก็จะให้เธอตกด้วยครับ’

‘ทำไมไม่ไปบอกครูว่าไม่ต้องให้ฉันมีสิทธิ์สอบแล้ว’ นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผู้เป็นลูกไล่ ได้เห็นว่าทินกรพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

‘ถ้าลูกพี่ไม่มีสิทธิ์สอบ ลูกพี่ก็จะเรียนไม่จบแน่ๆ เทอมนี้ และคุณครูพรก็จะไม่ได้เลื่อนขั้น คุณครูมีบุญคุณต่อเสี้ยวมาก เสี้ยวไม่ยอมให้คุณครูพรลำบากหรอก’

ได้ยินอย่างนั้น ทินกรถึงกับต้องถอนหายใจออกมา

‘ยุ่งยากชิบ’ เขาว่าเชิงหงุดหงิด พร้อมมองไปยังร่มสีชมพูเข้มของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนกางอยู่ใต้อาคาร แต่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเดินฝ่าฝนไปทางไหน

เมื่อครู่แค่ฝนเริ่มพรำเล็กๆ เขาพอจะวิ่งฝ่ามา แต่ตอนนี้เริ่มตกแรงแบบเทกระหน่ำ แต่คนตะโกนประโยคเดิมซ้ำๆ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถอดใจ

‘พี่ขอยืมร่มหน่อย’ ไม่ได้เป็นประโยคคำถาม เขาแย่งร่มนั้นมาอย่างง่ายดาย เพราะแม่สาวน้อยแทบจะละลายเพียงแค่ได้ยินเสียงเขา

‘ดะ...ได้ ค่ะ พี่ทิน...’ ความหล่อเหลาเอาเรื่องของทินกร แบบหล่อที่สุดในโรงเรียน ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ พากันกรี๊ดกร๊าดให้เขาเป็นเสียงเดียว

ทินกรเดินถือร่มสีชมพูเข้ม เดินไปยังลานหน้าอาคาร ที่มีหนึ่งร่างยืนกระต่ายขาเดียวอยู่

‘ถ้านายทินกรไม่ยอมเข้าเรียนวันนี้ ฉันจะยืนตากฝนอยู่ที่นี่ ไม่ยอมหลบเข้าไป!’ จันทร์คืนแรมตะโกนประโยคนั้นเสร็จ ก็แทบจะสำลักน้ำฝน เพราะเห็นคนคนหนึ่งกำลังเดินถือร่มมา

‘ทำบ้าอะไร’

‘นายนั่นแหละ ทำบ้าอะไร ทำไมไม่ยอมเข้าเรียน!’ เธอตะโกนโต้ตอบ เพราะโกรธมาก ที่เขาดื้อด้านมากกว่าที่คิดเอาไว้

‘กลับไปเข้าร่ม’

‘ไม่! ถ้านายไม่เข้าไปเรียนคาบนี้ ฉันก็จะไม่เข้าร่ม!’

‘ดื้อด้านจริง’ แล้วจันทร์คืนแรมก็ถูกลากติดมือคนตัวสูงไป โดยมีเสียงฮือฮาฝ่าฝนมา

เขาพาเธอลากไปถึงหน้าห้องน้ำหญิง วางร่มทิ้งเอาไว้

‘เข้าไปถอดเสื้อผ้า’

‘ฮะ! ถอดเสื้อผ้าอะไร!’ เพราะตอนนี้ เขากำลังปลดกะดุมทีละเม็ดแล้ว

‘นายจะทำอะไรฉัน อย่านะ! ฉันร้องให้คนช่วยนะ!’

‘อมนกหวีดเข้าไปรึไง แสบแก้วหูไปหมดแล้ว’ ฝ่ายนั้นตัดสินใจผลักเธอเข้าไปในห้องน้ำหญิง พร้อมปิดประตูให้

‘ถอดเสื้อออก ปั้นให้หมาดแล้วผึ่งไว้’ บอกพร้อมมองหาลูกไล่ที่สั่งให้ไปจัดการบางอย่าง และรายนั้นก็วิ่งกระหืดกระหอบมา

‘หาเสื้อใหม่ไม่ได้เลยลูกพี่ ร้านค้าสวัสดิการบอกว่าของเพิ่งหมด รอรอบสั่งเข้ามาครับ’ ได้ยินดังนั้นก็มองไปยังประตูห้องน้ำ ตัดสินใจถอดเสื้อนักเรียนของตัวเองออก โยนไปบนกำแพงให้

‘ใส่นี่ไปก่อน’ และถอดกางเกงตาม พาดไปบนกำแพงให้เธออีกตัว

‘มึงจะเข้าเรียนไหม’ จักริน นาพรม รีบส่ายหน้า เพราะปกติก็ไม่ได้เข้าเรียนอยู่แล้ว

‘ถอดกางเกงมาให้กู’

‘เอ่อ...’ แม้ลังเลใจ แต่ก็ยอมถอดให้แต่โดยดี

‘มึงก็ใส่เสื้อกับบ๊อกเซอร์แล้วขับรถกูกลับบ้านไป กูจะเข้าเรียนกับยัยนี่ก่อน’ จักรินหรือจักร แทบไม่เชื่อหูตัวเอง

‘ลูกพี่จะเข้าเรียนจริงเหรอครับ?’

‘อือ’ ตอบแค่นั้น พร้อมใส่กางเกงให้เรียบร้อย โชคดีที่จักรินใส่ size เดียวกันกับเขา แม้จะพอดีตัวไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้แย่

‘เสร็จหรือยัง’

‘สะ...เสร็จแล้ว’ คนที่อึ้งกับสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมด แบบแอบฟังในห้องน้ำ แต่พอจะเดาสถานการณ์ออก ไปไม่เป็นไปพักหนึ่ง

‘เสร็จแล้วก็ออกมา’

ในวิชาคณิตศาสตร์คาบนั้น ทั้งสองก็เข้าเรียนด้วยกัน ในสภาพที่จันทร์คืนแรมสวมชุดนักเรียนชาย เส้นผมเปียกปอน กับทินกรที่ใส่แต่กางเกงแถมยังเปลือยท่อนบนเข้าไปเรียน

คุณครูประจำวิชาที่ว่าโหดหิน ยอมให้ทั้งคู่เขาเรียนได้ แถมยังแอบชื่นชมในความพยายามของจันทร์คืนแรม และไม่คาดฝันเหมือนกันว่าคนที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างทินกร จะยอมเข้าเรียนเพียงเพราะเพื่อนตากฝน

เรื่องนี้ดังฮือฮาไปทั้งโรงเรียน จนคุณครูประจำภาควิชาถูกเรียกพบ แต่เขาก็ให้เหตุผลที่ทำเอาผู้อำนวยการโรงเรียนยอมรับได้

“พี่เสี้ยวคะ...”

“หือ” จันทร์คืนแรมสลัดศีรษะเล็กน้อย ละสายตาออกมาจากนอกหน้าต่าง ที่ตอนนี้หยาดฝนกำลังพร่างพราย

“ว่าไงนะเปลว” ถามคนหน้าแหย ที่มองไปนอกหน้าต่างดูบ้าง อย่างสงสัย ว่ามีอะไรที่ทำให้ผู้เป็นเจ้านาย จ้องแบบตาไม่กะพริบได้ขนาดนั้น

“พอดีว่าบริษัทสยามไทยยกเลิกการบรรยายของเราทั้งหมด 3 วันเลยค่ะ”

“อะไรนะ!” จันทร์คืนแรมสลัดทุกห้วงความหลังออกไปได้หมดสิ้น เมื่อได้ยินว่ารายได้ก้อนใหญ่ของบริษัทกำลังจะหายวับไปกับตา

มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง เมื่อทุกอย่างได้เตรียมการและวางแผนเอาไว้หมดแล้ว!

“ส่วนผู้หญิงอีกคนนี่เป็นแฟน คนเป็นแฟนนี่เพิ่งจะคบตอนอยู่มอหก เป็นแฟนคนแรกเลยนะ ไม่เคยเห็นตาทินไปไหนมาไหนกับใคร ที่ว่ายอมเชื่อฟัง ก็ยอมแบบยอมทิ้งโลกส่วนตัวออกไปเที่ยว ไปกินข้าว ไปดูหนัง...”

เหมือนวาดจดข้อมูลสำคัญนั้นลงบนสมุดอย่างกระตือรือร้น เพื่อประกอบการวิเคราะห์ในลำดับถัดไป

“ฟังดูแล้ว เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้คุณทินเรียนจบชั้นมัธยมปลายมาได้ จะมีอิทธิพลมากกว่าเลยนะคะ” เหมือนวาดเคาะปากกาลงบนสมุดบันทึกส่วนตัวเชิงครุ่นคิด

“ก็แหงแหละ ทำให้ตาทินเข้าเรียนครบทุกคาบ แถมยังสอบผ่าน นั่งทำงานให้เห็นเป็นวันๆ ได้...แต่พอเรียนจบก็ต่างแยกย้าย ถามถึงผู้หญิงคนนั้นทีไร ตาทินก็ไม่ยอมตอบสักที รวมไปถึงแฟนสาวรุ่นน้องคนนั้นด้วย ไม่โผล่หน้ามาที่บ้านอีกเลย หายไปพร้อมๆ กันทั้งสองคน”

“เหรอคะ น่าแปลก...มันต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ” คนช่างวิเคราะห์ รีบขีดเขียนยิกๆ ลงไป ราวกับได้ข้อมูลเกี่ยวกับการขุดทอง

“ไม่รู้เหมือนกัน เพราะหลังจากนั้น ฉันก็ส่งตาทินไปเรียนต่อเมืองนอก ดูเอาเถอะ ไปเรียนยังไง...ใช้เวลาเกือบ 10 ปี และขออยู่หาตัวตนที่นั่นอีกสองสามปี พอกลับมาก็เอาแต่เที่ยวเตร็ดเตร่ และฉันก็ไม่เห็นว่าจะมีใคร ทำให้ตาทินเชื่อฟังได้ อีกเลย แม้สักคนเดียว!” เลขาสาวพยักหน้าอีกครั้ง

“แล้วคุณแข พอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงสองคนนี้ไหมคะ เอาแค่ชื่อก็ได้”

“ก็พอมีนะ ฉันจำได้ เดี๋ยวฉันส่งข้อมูลให้ เหมือนจะเคยเก็บไว้”

ความหวังที่พอจะมีคนมาช่วยทำให้ทินกรดีขึ้นได้ เริ่มเห็นแสงสว่างเล็กๆ ขึ้นมา...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel