ตอนที่ 7
เขาแทรกลำตัวหนาเข้าหาหน้าขาซึ้งอ้ากว้างอย่างคนหิวกระหาย ภายในห้องจึงระงมไปด้วยเสียงหอบหายใจ เสียงครางประสานของเธอกับเขาซึ่งดูราวกับว่ากำลังจะขาดใจด้วยกันทั้งคู่
ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เขาโถมเข้าใส่เธอไม่หยุด ทว่าความเสียวซ่านที่มีมากกว่า ก็ทำให้เธออ้าขารับอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแต่อย่างใด
เริงรตีภาวนาให้มันรีบผ่านไปเร็วๆ แต่ร่างกำยำที่กำลังอัดบั้นท้ายกระทั้นเข้าใส่ร่องสวาทของเธอถี่ยิบไม่ยั้ง ก็ดูราวกับว่าจงใจจะยืดเวลาออกไปให้นานแสนนานเท่าที่ใจปรารถนา เพื่อให้สมกับความอยาก ในวันที่เนื้อลอยมาเข้าปากเสือเสียเอง
กระทั่งเริงรตีสะดุ้งเฮือก ร่างบอบบางเกร็งสะท้านรุนแรง ปลายเล็บแหลมจิกเป็นรอยอยู่ที่แผ่นหลังของเขา อุ้งเชิงกรานบีบรัด กระตุกตอดขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด… อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในชีวิตสมรสของเธอกับสามี
“วิเศษเหลือเกิน… ดูสิ คุณรัดผมแน่นเชียว”
เขาเอ่ยออกมาขณะมือเรียวของเธอยังโอบรัดลำตัวกำยำของเขาเอาไว้แน่น เธอหายใจกระเส่า ร่อนสะโพกขึ้นรับลำลึงค์คับแน่นของเขาที่อัดเน้นลงมาหนักๆ
“อูววว…”
เธอห่อริมฝีปากเป็นรูปตัวโอ ปรือตารับอาการตอดกระตุกของกลีบเนื้อที่บีบรัดแก่นกายของเขาขณะกำลังกลั่นน้ำรักออกมาจนหยดสุดท้าย แม้ขณะนั้นจะมองไม่เห็นด้วยสายตา แต่ก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าส่วนปลายเหมือนดอกเห็ดบานใหญ่… กำลังผงึกผงกอยู่ในความซับซ้อนอ่อนไหวของกลีบเนื้อช้ำแดงเพราะโดนเสียดสีมายาวนาน ซึ่งเป็นความรู้สึกสุดวิเศษ… ที่รับรู้ได้เพียงเขาและเธอ
“ผมมีความสุขเหลือเกิน…”
บอกพร้อมกับร่างกำยำที่ทรุดฮวบลงทาบทับกับเรือนร่าง
สั่นเทิ้มของเธอที่นอนหงายอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา
ใบหน้าชื้นเหงื่อของพ่อเลี้ยงเกลือกไปมาข้างซอกคอละมุนของเธอ จมูกโด่งสูดไซ้กลิ่นเหงื่ออ่อนๆ ซึ่งหอมรัญจวนปะปนอยู่ในกลิ่นกายของกันและกันที่เกิดขึ้นจากการร่วมรัก
ภายในหูของเขาได้ยินแต่เสียงหายใจหอบระโหยโรยรินของเธอ ทรวงอกที่แนบเน้นเข้าด้วยกันทำให้รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงราวจะหลุดออกมาจากอกด้วยกันทั้งคู่ ภายหลังจากถาโถมโรมรันเข้าหากันด้วยความเร่าร้อน ราวน้ำมันกับไฟที่เพิ่งจะมอดดับลงเมื่อครู่
“…..”
เริงรตีไม่ได้กล่าวอะไร เธอหายใจแรง นานมากแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ รู้สึกเนื้อตัวโล่งสบายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ด้วยเลือดในกายที่อัดอั้นมานานได้สูบฉีดไปทั่วสรรพางค์กาย ความต้องการทางเพศที่เธอจำเป็นต้องเก็บกดเอาไว้ตลอดระยะเวลาป่วยไข้ของสามี ก็ถูกระบายออกมาจนสมใจอยาก
อาการออกัสซั่มรุนแรงเมื่อครู่ ส่งผลให้พวงแก้มของเธอแดงระเรื่อราวกับหญิงสาวแรกรุ่น เปล่งปลั่งดูราวลูกตำลึงสุก ขณะที่ฝ่ามือบอบบางยังคงโอบรัดอยู่ที่แผ่นหลังบึนหนาของเขา
นิ้วเรียวลูบไล้อยู่กับหยาดเหงื่อเย็นๆ ที่พรมพราวอยู่ทั่วแผ่นหลังเรียบลื่นของพ่อเลี้ยง แม้ว่าตอนนั้นทั้งคู่จะอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำก็ตาม
“ผมอยากหยุดเวลาไว้แค่นี้…”
เขากระซิบเบาๆ ข้างหูของเธอ ในขณะที่กำลังทอดอารมณ์อ้อยอิ่ง ตอนนั้นพ่อเลี้ยงยังไม่ยอมถอนตัวตนออกมาจากร่องเนื้อตรงกึ่งกลางกายของเธอด้วยซ้ำ
ทั้งคู่พริ้มตาซึมซับความอบอุ่นจากร่างกายของกันและกันต่อมาได้ไม่นาน ก็มีเหตุให้เริงรตีต้องลืมตาโพลงขึ้นมาจนเกือบสะดุ้ง เมื่อจู่ๆ… ภาพใบหน้าของเสี่ยกำพลผู้เป็นสามี ซึ่งในตอนนั้นกำลังป่วยหนัก นอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลมานานหลายเดือนด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ก็ผุดพรายขึ้นมารบกวนจิตใจจนเธอแทบจะผลักชู้รักออกไปจากร่างในนาทีนั้น
ซึ่งพ่อเลี้ยงเดโชก็รับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่แปรเปลี่ยนไปกะทันหันของเริงรตี
“เกิดอะไรขึ้นครับ… รตีจ๋า?”
เขาถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าห่วงใยระคนสงสัย
“…..” คนถูกถามไม่ตอบ แต่ผลักเขาออกเบาๆ สองมือยกขึ้นปิดทรวงอกช้ำแดงด้วยความกระดากอาย หลุบตาด้วยความรู้สึกผิด ไม่กล้าสบตาเขา ค่อยๆ ขยับกายลงจากโต๊ะ
“รตี…..”
เขาเรียกเธอเบาๆ สายตางุนงงสงสัยมองตามเรือนร่างเปลือยเปล่าที่ก้มลงหยิบเสื้อผ้าแล้วก้าวยาวๆ เข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องเดียวกัน
เบื้องหลังประตูห้องน้ำที่ปิดลง เริงรตีจ้องมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของตัวเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่ภายในห้องน้ำ
คล้ายจะร้องไห้… มือเรียวลูบสัมผัสเนินอกที่พ่อเลี้ยงเดโชเพิ่งฝากริ้วรอยระเรื่อแดงจากการฟอนฟัดเชยชมเมื่อครู่
เธอโอบกอดตัวเองด้วยสองแขนเรียวเล็ก ไม่อยากเชื่อว่าเธอปล่อยให้มันเกิดขึ้น…
เริงรตีรู้สึกใจหายกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นมาสดๆ ร้อนๆ กลิ่นคาวสวาทยังคละคลุ้งอยู่ที่หน้าขา รู้สึกเสียใจที่ปล่อยชีวิตให้เป็นไปแบบนี้…
นอกจากความรู้สึกเจ็บแปลบที่กึ่งกลางของร่างกาย และริ้วรอยช้ำจ้ำแดงประปรายตามเนื้อตัว อันที่จริงแล้ว
