EP.5 หึงเหรอคะ??
EP.5
[Talk เฟลม]
ฉันเบิกตาโตพร้อมอ้าปากกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง คำพูดเมื่อกี้นี้มันหลุดออกมาจากปากของพี่ทศจริงๆ เหรอ? ฉันคิดว่าเขาจะดีใจจนเนื้อเต้นซะอีกที่พี่เหมอาสาพาฉันไปทัวร์บริษัทแทน
ก็เขาไม่ได้อยากจะพาไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่…
“งั้นเหรอ?” พี่เหมยักคิ้วใส่พี่ทศอย่างยียวนพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์เพื่อกวนประสาท
“ถ้างั้นก็ดูแลน้องมันดีๆ ล่ะ เฟลมถ้าเมื่อไหร่ที่ไอ้ทศมันใจร้ายใส่ล่ะก็วิ่งมาหาพี่ได้เลยนะ เดี๋ยวพี่ดูแลเอง” เขาพูดเป็นเชิงเย้ยพี่ทศ ก่อนจะหันมาบอกกับฉันอย่างใจดีโดยไม่ลืมลูบศีรษะฉันเบาๆ จากนั้นก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง
ฉันได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆ อยู่กับที่เพราะรู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูก แม้สีหน้าของพี่ทศจะเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของพี่เหม ทว่าสายตาของเขาตอนนี้กลับฉายชัดด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน
แถมตอนนี้เขายังจ้องฉันตาเขม็งเหมือนกับว่าฉันทำอะไรผิดมายังไงอย่างงั้น
“เอ่อ…” ฉันเกริ่นขึ้นเพื่อทำลายความเงียบและบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ แต่ก็ถูกพี่ทศแทรกขึ้นซะก่อน
“มานี่!”
หมับ!
มือหนาคว้าข้อมือเล็กของฉันแล้วออกแรงดึงให้เดินตามเขาไป
“ปะ…ไปไหนคะ…เฟลมเจ็บนะพี่ทศ” ฉันพยายามจะบิดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมของร่างสูง แต่ก็ไม่เป็นผล พี่ทศแรงเยอะกว่าฉันมาก
ปัง! ผลั่ก!
ร่างของฉันถูกพาเข้ามาในห้องทำงานของเขาก่อนจะถูกเหวี่ยงลงบนโซฟาอย่างไม่แรงนัก ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เสียหลักจนล้มไม่เป็นท่าเพราะว่าใส่รองเท้าส้นสูง
“เป็นอะไรของพี่คะเนี่ย!” ฉันตวาดถามอย่างหมดความอดทนพลางลูบข้อมือของตัวเองที่ตอนนี้กำลังเป็นรอยแดงขึ้นเรื่อยๆ
ทำไมต้องเขารุนแรงกับฉันตลอด เห็นฉันเป็นตัวอะไรกัน
พี่ทศไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขาเดินไปหยิบทิชชูที่วางอยู่บนโต๊ะจำนวนสามแผ่นแล้วเดินกลับมาใช้ทิชชูพวกนั้นเช็ดที่หัวของฉันจนทั่ว
“อื้ออ! พี่ทศทำอะไรคะ!” ฉันทั้งพยายามดิ้นและพยายามปัดป่ายมือไปมาเพื่อปรามเขา แต่แล้วฉันก็ถูกพี่ทศรวบมือสองข้างเอาไว้ด้วยมือหนาของเขาเพียงข้างเดียว
เช็ดอยู่สักพักพี่ทศก็ยอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ
“เอาทิชชูมาเช็ดหัวเฟลมทำไมคะ!!”
“เช็ดฆ่าเชื้อไอ้เหม”
“เพื่อ??”
“ไม่ชอบ”
“แต่นี่มันหัวของเฟลม!”
“แต่เธออยู่ในการดูแลของฉัน!”
ฉันเงียบ ไม่ใช่เพราะเถียงอะไรไม่ออก แต่ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าพี่ทศจะมีปัญหาอะไรกับการที่พี่เหมลูบหัวฉันนักหนา
“มันจับเธอตรงไหนอีก?” เขาเค้นถามเสียงแข็งพลางใช้สายตาคมกริบจ้องฉันอย่างกดดันจะให้ตอบ
ฉันเลือกที่จะไม่ตอบแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ยอมรับว่าตอนนี้กำลังยั่วโมโหเขาอยู่ แต่อย่าลืมว่าเขารังแกฉันก่อน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
“ได้ยินที่ฉันถามไหม” เสียงทุ้มกดต่ำลงกว่าเดิมบ่งบอกได้ว่าอารมณ์คุกรุ่นของเขาถูกเพิ่มระดับให้มากขึ้นไปอีกขั้น แต่คนอย่างฉันไม่กลัวอยู่แล้ว
“….”
“เฟลม”
“….”
“เฟลมิตาฉันถามให้เธอตอบ!!”
พี่ทศตะคอกใส่หน้าฉันจนเสียงดังลอดออกไปข้างนอก ทำให้พนักงานที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันมองมาเป็นตาเดียวด้วยความสงสัย ทว่าเพียงวูบเดียวพวกเขาก็ต้องรีบก้มหน้าตัวสั่นด้วยความกลัว ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานเมื่อพี่ทศหันไปตวัดหางตามองอย่างไม่พอใจ
“พี่ทศอย่ามาไร้สาระได้ไหมคะ เฟลมจะทำงาน” ฉันใช้จังหวะที่เขากำลังไล่ต้อนพนักงานด้วยสายตาดันแผงอกกว้างให้ออกห่าง
“ถ้าไม่บอกก็ไม่ต้องทำ”
“โอ๊ย! ไม่มีแล้วค่ะ พี่เหมไม่ได้จับอะไรเฟลมทั้งนั้นแหละ”
“ตอบแบบนี้ตั้งแต่แรกมันจะตาย?”
“มันไม่ตายหรอกค่ะ แต่ไม่อยากตอบ พี่ทศจะอยากรู้ไปทำไมล่ะคะ” ฉันโวยใส่เขาอย่างคนหมดความอดทน สำหรับฉันเขามันมีแต่คำว่า ‘ไม่เข้าใจ’ อยู่เต็มไปหมด
หรือบางทีการที่เขาแสดงออกแบบนี้มันแปลว่าดำลังหึงอยู่หรือเปล่า…
“หึงเฟลมเหรอคะ” ไวเท่าความคิด ปากฉันมันลั่นถามออกไปโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว คิดปุ๊บพูดปั๊บ ให้ตายสิ อยากจะตีปากตัวเองจริงๆ
“ใครหึงเธอ ฉันแค่ไม่ชอบ” แววตาของพี่ทศวูบไหวเล็กน้อย เพียงเสี้ยววินาทีก็กลับมาเป็นปกติ ถ้าฉันไม่ใช่คนช่างสังเกตก็คงจะไม่ทันเห็นเพราะมันเร็วมากจริงๆ
“จะไปรู้เหรอคะ บังคับอย่างกับตัวเองเป็นแฟนเฟลมอย่างงั้นแหละ”
“เธอชอบไม่ใช่เหรอ?” คำถามของพี่ทศทำเอาหัวใจของฉันเต้นรัวไม่เป็นท่า แล้วมันก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ในตอนที่เขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ
ทำไมพี่ทศถึงได้หล่อและดูดีทุกระเบียดนิ้วแบบนี้นะ
ในอกของฉันปั่นป่วนไปหมดเลยตอนนี้ รู้สึกหายใจได้ไม่ทั่วท้องเลยจริงๆ ประโยคนั้นของพี่ทศมันหมายความว่ายังไง หรือเขาจะรู้ว่าฉันแอบชอบเขาอยู่
“ชะ…ชอบอะไรคะ…”
“ชอบฉันไง”
!!!
