EP.4 หวงก้าง?
EP.4
หญิงสาวนิ่งอึ้งไปนานหลายนาที หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำ การได้จูบกับเขาคือสิ่งที่เธอไม่เคยคาดฝันมาก่อน แถมนี่ยังเป็นจูบที่เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสียด้วย
เฟลมิตาได้สติกลับมาในตอนที่ได้ยินเสียงหายใจที่หอบกระชั้นของชายหนุ่ม เธอยิ้มในดวงตาแล้วใช้โอกาสนี้จูบตอบเขาอย่างไม่อาย เพราะไม่รู้ว่าโอกาสดีๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นกับเธออีกเมื่อไหร่
ผลั่ก!
ทศราชรีบผลักร่างบางออกทันทีด้วยความตกใจเมื่อถูกจูบตอบ เขาเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ อย่างไม่เข้าใจว่าไปดึงเธอเข้ามาจูบได้อย่างไร นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ
หัวใจแกร่งที่เคยสงบนิ่งกำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะวินาทีที่ริมฝีปากบางขยับสู้ริมฝีปากหนา อารมณ์บางอย่างภายในกายของเขาก็พุ่งขึ้นสูงจนน่าตกใจ
ความกำหนัดก่อตัวขึ้นเล็กๆ พอให้ได้คันยุบยิบในอก
เฟลมิตาหน้ามุ่ยด้วยความเสียดาย นึกว่าจะได้จูบกับเขานานกว่านี้อีกสักหน่อย ร่างเล็กบิดกายไปมาอย่างเขินอาย ก่อนจะย้ายตัวเองกลับมานั่งในท่าเดิมแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
ทศราชพยายามอารมณ์หงุดหงิดและความฟุ้งซ่านออกจากหัว จากนั้นเขาก็ขับรถมุ่งตรงไปยังบริษัทของตัวเอง
บริษัทราชภิรมย์ภักดี
ทันทีที่รถสปอร์ตคันหรูจอดสนิทในลานจอด ชายหนุ่มก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์โดยไม่ได้สนใจหรือคิดจะรอร่างเล็กเลยสักนิด
เฟลมิตาจึงเป็นที่จะต้องเดินกึ่งวิ่งเพื่อไปให้ทันลิฟต์รอบเดียวกันกับเขา
“ไม่คิดจะรอกันหน่อยเหรอคะ” เธอถามขึ้นอย่างน้อยใจเมื่อก้าวขาเข้ามาภายในลิฟต์ได้ทันเวลาแบบเส้นย่าแดงผ่าแปด ซึ่งหากก้าวช้าเพียงเสี้ยวนาทีเดียว เธอก็อาจจะถูกประตูลิฟต์หนีบจนแบน
“เป็นแม่ฉันหรือไง”
“แม่ของลูกต่างหากค่ะ”
หมับ!!
“อ๊ะ! พะ…พี่ทศ…ฟะ…เฟลมเจ็บ!” เฟลมิตาส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกทศราชใช้มือหนาบีบแก้มเนียนทั้งสองข้างอย่างรุนแรงจนปากยู่
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอนะเฟลมิตา อย่าล้ำเส้นให้มาก” เขากดเสียงต่ำเชิงข่มขู่ก่อนจะสะบัดมือออกจากใบหน้าหวาน
“เฟลมก็ไม่เคยบอกว่าพี่ทศเป็นเพื่อนเล่นนะคะ” เธอขึ้นเสียงพลางสบตาเขากลับอย่างจริงจัง รู้สึกเสียใจที่ทศราชแสดงท่าทีราวกับเธอเป็นคนอื่น ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขากับเธอสนิทกันที่สุด
หญิงสาวพอจะเข้าใจได้ว่าที่เขาต้องนิ่งขรึมและสุขุมมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนก็เป็นเพราะเขาต้องแบกรับภาระและหน้าที่เอาไว้หลายอย่าง
เขาเป็นถึงทายาทคนโตของตระกูลราชภิรมย์ภักดีรวมถึงเป็นรองประธานของบริษัท แน่นอนว่าคุณย่าก็ต้องที่จะฝากความหวังไว้ที่เขามากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นที่มาของความกดดัน
ถึงอย่างนั้นก็ไม่เห็นจะต้องใจร้ายกับเธอถึงเพียงนี้เลย หรืออาจจะไม่พอใจเรื่องที่จูบกันในรถ แต่เธอไม่ได้เป็นคนเริ่มเสียหน่อย เขานั่นแหละที่ดึงเธอเข้าไปจูบก่อน ฉะนั้นคนที่ควรจะถูกโกรธก็คือตัวเขาเองไม่ใช่หรือไง
“แล้วการที่เธอเถียงฉันคำไม่ตกฟากแถมยังล้อเลียนแบบไม่รู้จักกาลเทศะนี่ไม่ได้เห็นเป็นเพื่อนเล่น?” คิ้วหนาขมวดเป็นปมแน่น ดวงตาคมสีดำสนิทที่ทั้งดุดันและกล่าวโทษจ้องมองเธอเขม็งราวกับอยากจะกินเลือดกินเนื้อ
“แค่พูดว่าเป็นแม่ของลูกเนี่ยนะคะ ทำไม มันรังเกียจกันมากหรือไงคะ” ความน้อยใจอัดแน่นอยู่เต็มอกของเธอ
“….” ทศราชให้คำตอบเธอด้วยความเงียบ ก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางอื่น “จะอะไรก็ช่างแต่ฉันไม่ชอบ ทีหลังอย่ามาพูดอะไรแบบนี้อีก”
ติ๊ง!
สิ้นสุดคำพูดของชายหนุ่มประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดออกพอดีเมื่อถึงชั้นที่หมาย สองขายาวรีบก้าวออกจากลิฟต์ตรงไปยังห้องทำงานทันที ทิ้งให้เฟลมิตายืนหน้าชาอยู่คนเดียว
“เย็นชาขนาดนี้จะจีบเขาติดเหรอเรา…ถอยดีไหมเนี่ย…” เธอพึมพำกับตัวเองเสียงหม่นๆ ด้วยจิตใจที่แสนจะห่อเหี่ยว ทศราชไม่เพียงแค่เย็นชาหรือสุขุมขึ้น แต่เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยต่างหาก
ถ้าเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกเธอคงจะไม่มอบหัวใจให้ไปแบบง่ายๆ หรอก
“เฟลม เฟลมจริงๆ ด้วย” ขณะที่เฟลมิตากำลังนอยด์เข้าขั้นสุด เสียงทุ้มของใครบางคนก็ดังขึ้นใกล้ๆ ร่างเล็กรีบหันไปมองด้วยความดีใจเพราะพอจะเดาออกได้ว่าเจ้าของเสียงคือใคร
“พี่เหม” เฟลมิตาคลี่ยิ้มออกมาอย่างหน้าชื่นตาบานที่ได้เจอกับพี่ชายอีกคนจนลืมเรื่องน้อยใจเมื่อครู่ไปจนหมด
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เหมราชยื่นมือขึ้นไปลูบศีรษะเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ทำเอาหัวใจของคนเป็นน้องพลันอุ่นวาบขึ้นมา ทั้งๆ ที่ตอนเด็กเหมราชและเฟลิมตาไม่ค่อยได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่ ทว่าพอโตขึ้นมาเขากลับอัธยาศัยดีกว่าที่คิด
ผิดกับทศราชอย่างสิ้นเชิง
“เมื่อวานค่ะ แล้วนี่พี่เหมกำลังจะไปพบลูกค้าเหรอคะ?”
“เปล่า ว่าจะไปหาไอ้อินหน่อยน่ะ แล้วนี่เฟลมมาทำอะไรที่บริษัทเหรอ”
“เฟลมจะมาทำงานที่บริษัทพี่เหมค่ะ พนักงานใหม่ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” เธอโค้งศีรษะทำท่าเคารพเหมราชราวเขาเป็นเจ้านายส่วนเธอเป็นเพียงพนักงานธรรมดาๆ อย่างหยอกล้อและมีอารมณ์ขัน
“ฮ่ะๆ ทำงานดีๆ ล่ะ แล้วพี่จะขอให้คุณย่าขึ้นเงินเดือนให้นะ” เหมราชถือโอกาสเล่นกับน้องกลับเสียหน่อย ถือเป็นการสร้างความสนิทสนมหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน “แล้วนี่ได้ไปเดินทัวร์บริษัทหรือยัง ให้พี่พาไปไหม”
“คือว่า…” เฟลมิตากำลังจะอ้าปากตอบ ทว่าก็ถูกทศราชที่ไม่รู้เดินออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยแทรกขึ้นเสียก่อน
“หน้าที่ดูแลเฟลมเป็นของฉัน แกไม่เกี่ยว”
