ตอนที่ 7 แค้นนี้ต้องชำระ
ตอนที่ 7 แค้นนี้ต้องชำระ
“หงส์ เป็นอะไรไปรึเปล่า ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”
กายสิทธิ์ถามอย่างเป็นห่วง ทำให้หงส์นรีต้องช้อนตามองอย่างขอบคุณในความมีน้ำใจ กิริยาอาการของเธอสร้างความไม่พอใจให้ชายอีกคนที่เดิมตามมาเป็นคนสุดท้าย และเป็นตัวต้นเรื่องทั้งหมด
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพี่สิทธิ์จะไปไหนต่อหรือเปล่าคะ”
“อ๋อ...พี่ว่าจะชวนหงส์ไปหาอะไรอร่อยๆ กินน่ะจ้ะ”
“เสียใจด้วยนะ เพราะหงส์นรีไม่ว่างแล้ว”
สิงหนาทปฏิเสธแทนภรรยาสาว
“อ้าว...หงส์มีธุระต่อเหรอจ๊ะ งั้นไม่เป็นไร เอาไว้วันหลังเราค่อยไปกันก็ได้”
“ไม่มีวันหลังหรอกครับ เพราะต่อไปนี้หงส์นรีจะต้องไปช่วยงานผมที่บริษัท”
สิงหนาทโอบภรรยาสาวอวดสายตากายสิทธิ์เสียเลย หนอย...คิดจะเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน ไม่ง่ายไปหน่อยเหรอไอ้ไก่อ่อน โดยเฉพาะนางหงส์ของราชสีห์ ไม่มีใครได้แอ้มหรอก
“เอ่อ...ถ้างั้นพี่คงต้องกลับก่อน”
“ถูกต้องที่สุด”
หงส์นรีหันขวับไปมองคนตีหน้าตาย แต่ปากร้ายอย่างน่าตบ
“พี่สิทธิ์จะกลับเลยเหรอคะ ถ้างั้นขับรถดีๆ นะคะ”
“โอ๊ย...ไม่ไปส่งกันให้ถึงตรังเสียเลยล่ะ”
“ดีค่ะ งั้นหงส์จะไปส่งพี่สิทธิ์ให้ถึงตรังเลย”
ได้ทีหญิงสาวก็ประชดเข้าให้บ้าง แถมยังทำเดินเคียงกายสิทธิ์ไปที่รถอีก เป็นเหตุให้สิงหนาทกำมือแน่นก่อนฉุดลำแขนเรียวของภรรยาให้กลับมา
“หงส์จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ลืมไปแล้วเหรอว่าเรามีหน้าที่ที่จะต้องทำร่วมกัน ความจริงหงส์ก็พร้อมแล้วนะ เราคงต้อง...”
“เงียบนะ เอ่อ...พี่สิทธิ์คะ หงส์ส่งแค่ตรงนี้แล้วกันนะคะ ขับรถกลับตรังดีๆ นะคะ ฝากความคิดถึงไปถึงไอ้เปียด้วย”
หงส์นรีรีบค้านเสียงแข็ง ก่อนที่สิงหนาทจะทำให้เธอได้อายมากกว่านี้ กายสิทธิ์พยักหน้าอย่างมึนๆ กับท่าทีของคนทั้งคู่ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เผลอๆ พูดมากอาจได้อย่างอื่นมาเป็นของแถม ก็ดูหน้าคมบูดบึ้งของสิงหนาทสิ เห็นแล้วไม่อยากถามอะไรมาก เพราะพ่อทำหน้าเหมือนกินยาขม หรืออยากถลุงหมัดใส่หน้าใครบางคนเสียงั้น แต่หวังว่าคนๆ นั้นคงไม่ใช่เขา
“ได้จ้ะ แล้วพี่จะแวะไปส่งข่าวบอกไอ้เปีย ว่าหงส์คิดถึง พี่ไปก่อนนะ ลาล่ะครับคุณสิงหนาท”
สิงหนาทไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้าส่งเดชไปงั้น แต่ในใจน่ะเดือดปุดๆ กับคำล่ำลาของเมียและชายชู้
หงส์นรีเดินกลับไปที่รถปอร์เช่สีขาวของเธอ แต่เธอไม่ได้ก้าวขึ้นนั่งประจำที่คนขับเหมือนตอนขามา ทำให้สิงหนาทต้องทำหน้าที่สารถีแทน ชายหนุ่มขับรถช้าอย่างกับเต่าคลานก็ว่าได้ ไม่สมกับที่ขับรถซึ่งมีสมรรถนะสูงแบบนี้ ทำอย่างกับอยากนั่งรถกินลมชมวิวไปเรื่อยงั้นแหละ แต่เธออยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว
“พี่สิงห์ขับรถให้เร็วกว่านี้ได้มั้ยคะ”
ในที่สุดเธอก็ต้องร้องขอ และขอให้เขาคิดไปในทางเดียวกับเธอด้วย เพราะใจเขามีแต่เรื่องชั่วร้ายก็คงคิดแต่เรื่องชั่วร้ายนั่นแหละ
“ทำไม อยากกลับไปทำลูกเร็วๆ ล่ะสิ”
“หงส์เหนื่อย อยากกลับไปนอน”
“อ้อ...ลืมไปว่าดูหนังจนเหนื่อย หึ หึ...”
“พี่สิงห์!”
“โอ๊ะ...โอเค เรารีบกลับไปทำลูกก็ดีเหมือนกัน พี่จะได้พ้นจากฐานะความเป็นผัวของเธอเสียที”
หงส์นรีอยากกรี๊ดให้ลั่นรถ แต่ที่ทำได้ก็คือเงียบอย่างเก็บอาการ ดวงตากลมที่มีน้ำตาคลอหน่วยนิดๆ เสมองออกไปมองนอกรถ เธอจะไม่มีวันร้องไห้ให้เขาเห็นเด็ดขาด คนอย่างหงส์นรีไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ สักวันเขาจะต้องเป็นฝ่ายมางอนง้อเธอเอง สักวันเขาจะต้องถอนคำพูดทุกอย่าง แต่คิดๆ ดูแล้ว บางอย่างก็ไม่ต้องรอนอน เวลาเอาคืนมันมีเยอะแยะ เรื่องอะไรจะยอมให้เขาทำเธอฝ่ายเดียว
‘ชอบหาว่าหงส์ปั่นหัวนักใช่มั้ย ดีล่ะ หงส์จะปั่นหัวพี่สิงห์ให้หมุนเป็นลูกข่างเลย คอยดูนะ’
สิงหนาทเหลือบมองเห็นร่างบางเอนกายพิงเบาะเงียบๆ เหมือนเธอจะหลับไปแล้ว
‘หลับง่ายจริงนะ หลับให้พอเพราะคืนนี้เธอคงไม่ได้นอนทั้งคืนแน่’
ถ้าสิงหนาทรู้ความจริงว่าหงส์นรีไม่ได้หลับ แต่กำลังแกล้งเขาเล่นเพื่อแผนการเอาคืนของเธอ เขาก็คงอาละวาด โวยวาย ไม่พอใจ หาว่าเธอหลอกลวงเขาอีกแน่ ก็เขาอยากมาเล่นล่อเอาเถิดกับเธอก่อนทำไม มาฉุดอารมณ์ให้พุ่งสูงในเวลาไม่สมควรและทำให้ค้างเติ่งอยู่แบบนี้ แล้วเขาจะต้องรู้สึกแบบที่เธอรู้สึกบ้าง
สิงหนาทขับรถกลับถึงบ้านในเวลาไม่นาน เข้าอ้อมมาเปิดประตูให้หญิงสาว เห็นเธอยังสลบไสลหลับตาพริ้มสบายก็ไม่อยากปลุก ความเป็นสุภาพบุรุษที่ฝังแน่นอยู่ในตัวทำให้ชายหนุ่มช้อนร่างระหงขึ้น และอุ้มพาเข้าบ้าน แต่ร่างสูงก็ต้องชะงัก เมื่อเจอกับบิดามารดาที่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
นายจักรวาลและนางสุทธินีมองลูกชายที่อุ้มลูกสะใภ้เข้ามาในบ้าน ดวงตาของผู้เป็นบิดาดูเจิดจรัสคล้ายกำลังสมใจในอะไรบางอย่าง
“ทำไมอุ้มน้องมาอย่างนั้นล่ะลูก ไหนว่าไปดูหนังกันมาไม่ใช่เหรอ”
นางสุทธินีเอ่ยปากถามลูกชายที่ตีหน้าไม่ถูก เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับบิดาและมารดาของตน ในขณะที่มีร่างบางอยู่ในอ้อมแขน นึกอยากโยนหงส์นรีทิ้งเสียตรงนี้ ถ้าทำได้
“หงส์หลับน่ะครับ ผมไม่อยากปลุก ก็เลยอุ้มขึ้นไปนอน”
“อ้อ...งั้นก็รีบๆ ไปเถอะลูก”
“อื้ม...เอ๊ะ! ถึงบ้านแล้วเหรอคะ”
คนที่แกล้งทำเป็นหลับลืมตาขึ้นด้วยท่าทางงัวเงีย สิ่งแรกที่เห็นก็คือปลายคางบึกบึนของสามี กลิ่นโคโลญจน์ผู้ชายบางเบาจากร่างสูง หอมแปลกๆ จนเธอต้องสูดลมหายใจเสียหลายครั้ง
สิงหนาทก้มลงมองคนในอ้อมแขนสบตาบ้องแบ๊วใสแจ๋ว จนมองเห็นเงาตัวเองสะท้อนออกมา เขาหลงใหลกับแววตาคู่นั้นชั่วครู่ก็วางร่างนุ่มลง แต่เมื่อปลายเท้าเรียวบางแตะพื้นหงส์นรีก็เซหลุนๆ
“อุ๊ย! ตาสิงห์อุ้มน้องขึ้นสิลูก น้องกำลังงัวเงียอยู่ๆ ปล่อยลงแบบนี้ได้ไง”
สิงหนาทมองมารดาที่เชียร์เหยงๆ อยากรู้ว่าไอ้ที่เซแซดๆ อยู่นี่เป็นจริงหรือแกล้งทำกันแน่ มารดาคงไม่รู้ว่าเธอหลอกคนได้เก่งขนาดไหน และเขาก็เคยถูกเธอหลอกจนหมดท่ามาแล้ว
ร่างระหงถูกตวัดขึ้นอุ้มอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำ สิงหนาทก็เดินดุ่มๆ ขึ้นห้องนอนทันที ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปโยนเธอลงบนเตียง โดยไม่คิดจะทนุถนอมเลยแม้แต่น้อย
“อุ๊ย! เบาๆ หน่อยไม่ได้เหรอพี่สิงห์”
“ทำไมฉันต้องทำเบาๆ กับเธอด้วย นี่คงคิดล่ะสิว่าฉันกำลังหลงเสน่ห์ของเธอ ถึงได้อุ้มเธอขึ้นมาแบบนี้”
“แล้วหลงจริงหรือเปล่าล่ะคะ พี่สิงห์ขา...ถึงได้ตามน้องหงส์ไปดูหนังด้วย แถมยัง...จะชวนน้องหงส์เล่นจ้ำจี้ในโรงหนังอีก แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรล่ะคะ ถ้าไม่ใช่...หลงเสน่ห์นางหงส์”
“หงส์นรี! เธอพูดอะไร ใครกันจะชวนเธอเล่นจ้ำจี้”
“อ้าว...ตัวเองทำอะไรไว้ ลืมแล้วเหรอคะ ไม่น่าจะความจำเสื่อมง่ายเลยนะคะคุณสามี”
หงส์นรีรู้สึกสนุกกับการได้ยั่วเขา รู้สึกว่าความเบื่อหน่าย อ้างว้าง โดดเดี่ยว จะพลันมลายหายไปเมื่อได้ยั่วเขาแบบนี้ ยิ่งได้เห็นตาดุๆ หน้าบึ้งๆ นั้นแล้วยิ่งสนุกใหญ่
“หุบปากเธอซะหงส์นรี ไม่งั้น...”
“ไม่งั้นอะไรเหรอคะ พี่สิงห์”
สิงหนาทหลุบตาลงมองปากอิ่ม หญิงสาวเห็นดวงตาคู่นั้นก็แลบลิ้นเลียริมฝีปาก ไอ้เรื่องยั่วให้รักเนี่ย นังหงส์ถนัดนัก
โดยไม่ทันตั้งตัว เสื้อตัวสวยผ้าเนื้อบางก็ถูกกระชากออกจากร่างจนขาดวิ่น เปิดเปลือยความงามกระจ่างแก่สายตาคมดุที่ดูเหมือนจะเดือดปุดด้วยไฟร้อนที่แผดเผา หงส์นรียกมือปิดบังทรวงงามด้วยสัญชาตญาณ หากแต่การกระทำนั้นเป็นการเสแสร้งแกล้งทำในสายตาของสิงหนาท
“จะต้องปิดมันทำไมล่ะ ในเมื่อเธอเองก็อยากให้ฉันเห็นใจจะขาด ไม่ใช่เหรอ”
หงส์นรีกัดฟันปล่อยมือจากทรวงงาม ยังมีบราเซียตัวน้อยสีขาวห่อหุ้มอยู่อีกชั้น ดวงตาคมหลุบมองกางเกงขาสั้นที่เกะกะขวางตาเขามากในยามนี้ มือใหญ่ยื่นออกมาปลดกระดุมและรูดซิปลง ก่อนกระตุกพรวดทีเดียวจนพ้นปลายเท้า
หญิงสาวตัวสั่นพร่าเหมือนนกตัวน้อยที่กำลังถูกนักล่างับทีละนิด ในใจท่องย้ำไว้ถี่ยิบว่า “อดทน เปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นความกล้า”
“ตอนนี้ฉันอยากเล่นจ้ำจี้กับเธอจริงๆ แล้ว จะนอนเฉยเป็นท่อนไม้ไร้ความรู้สึกอยู่ทำไม ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบนอนกับท่อนไม้แข็งทื่อหรอกนะ”
ร่างบางลุกขึ้นอวดสัดส่วนอวบอิ่ม เธอผลักสิงหนาทให้นอนหงาย ถ้าไม่อยากเห็นเธอเป็นท่อนไม้ ก็ได้...แล้วเขาจะต้องติดใจ หงส์นรีคิดอย่างหมายมาด
มือบางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวลายทางจนหมดแถว แล้วแบะสาปเสื้อให้แยกออก ก่อนทาบมือน้อยนวดคลึงอกกว้าง นวดบริเวณหัวใจที่ยังคงเต้นเป็นจังหวะปกติ ปลายนิ้วสะกิดตุ่มเล็กๆ สีเข้มและมันก็แข็งสู้มือดีแท้ พลันสมองคิดไปถึงขวดแก้วในห้องน้ำขึ้นมา ถ้าเอามาใช้แบบนี้ สามีของเธอจะเป็นยังไงหนอ ความคิดนั้นฉุดรั้งให้เธอต้องลุกขึ้นเดินไปหยิบขวดแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอ่อนอยู่ข้างใน
“อะไร”
สิงหนาทถามเพราะอยากรู้ แค่เห็นว่าเธอเข้าไปหยิบมันออกมาจากห้องน้ำ เลือดในกายก็ไหลไปรวมกันอยู่จุดเดียวอย่างตื่นเต้น
“น้ำมันนวดค่ะ หงส์ได้มันมาจากสปาเพราะชอบกลิ่นที่ทำให้ผ่อนคลายของมันมาก”
หญิงสาวเทน้ำมันขวดนั้นลงบนอกกว้าง ทันทีที่หยดแรกสัมผัสถูกผิวกาย สิงหนาทก็สะดุ้งไม่ใช่เพราะมันร้อนหรือมันเย็นหรอกนะ แต่เพราะใจเขากำลังรอคอยความตื่นเต้นและรู้ดีว่าใกล้จะเกิดเต็มที
“ที่นอนอาจจะเปื้อน”
“ช่างมันสิ แต่...กลิ่นนี้มัน...กลิ่นซากุระนี่”
กลิ่นกายของหงส์นรีที่หอมระรื่นได้ตลอดเวลานั้น มาจากน้ำมันนวดนี่เองเหรอ แสดงว่าเธอก็นวดเองทุกวันน่ะสิ
“ใช่ค่ะ หงส์ชอบกลิ่นนี้มาก”
“ฉันนึกว่าเธอใช้น้ำหอมแห้งที่เธอบอกซะอีก”
“นั่นก็ใช่ค่ะ กลิ่นเดียวกัน พี่สิงห์ว่าหอมมั้ยคะ”
สิงหนาทอยากตอบใจจะขาดว่าหอมมาก หอมจนทำให้เขาหลงกลเธอจนทุกวันนี้ไง แต่ปากหนากลับปฏิเสธปิดบังความจริงในใจเอาไว้
“ก็งั้นๆ แหละ กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงบางคนที่ฉันเคยนอนด้วย ยังหอมกว่านี้ตั้งเยอะ”
หงส์นรีอยากทุบหัวคนพูดด้วยขวดแก้วให้แตกกระจาย เอาให้หัวแตกเลือดออกได้ยิ่งดี ดวงตากลมโตเหลือบมองตาคมดุ และสิงหนาทก็ทันได้เห็นดวงตาของนางเสือร้ายที่ส่องประกายวาบออกมา ก่อนที่มันจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
“นี่...ฉันมาทำหน้าที่ผลิตลูกให้เธอนะ ไม่ใช่มานอนให้เธอนวดเป็นสปาแบบนี้”
ปากก็พร่ำบอกเหมือนไม่พอใจ แต่กายหนากลับสะท้านในยามที่มือบางนวดขึ้นลงตั้งแต่ลำคอหนา ระเรื่อยลงมาถึงเอวใหญ่ เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกสบายตัวมาก ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักหดหายไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยามที่มือน้อยนวดคลึงจุดที่ตั้งของหัวใจ สัมผัสถูกตุ่มเล็กๆ ที่แข็งสู้ฝ่ามือนุ่ม สิงหนาทก็ต้องกัดฟันกรอดเสียทุกครั้ง
หงส์นรีกระตุกยิ้มที่มุมปากอิ่ม เธอดึงร่างหนาให้ลุกขึ้นนั่งเพื่อถอดเสื้อที่ยังคั่งค้างอยู่บนร่างให้หลุดออก แต่การถอดเสื้อให้เขาของเธอกลับทำให้สิงหนาทต้องถอนหายใจ เวลานี้ร่างบางที่มีผ้าชิ้นน้อยปกปิดส่วนสงวนทั้งบนและล่าง ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนลอนหน้าท้องเป็นมัดๆ ของเขา และที่สำคัญน้ำมันของเธอมันลื่นจนทำให้ร่างนุ่มลื่นไปมา ปลุกความเป็นชายให้ลุกขึ้นจนปวดหนึบ
“พี่สิงห์ชอบมั้ยคะ”
หญิงสาวถามอีกครั้ง เธอแน่ใจว่าเขาต้องชอบแน่ๆ ก็ร่างกายของเขามันบอกเธอแบบนั้น แต่สามีของเธอยังทำปากแข็งวางท่าไปเรื่อยเองต่างหาก
“ก็งั้นๆ ฉันเคยไปนวดสปามาแล้ว เค้าก็ทำแบบนี้แหละ”
สิงหนาทปดคำโต ผู้ชายทั้งแท่งอย่างเขาได้แต่ทำงานอย่างเดียว เรื่องที่ต้องไปนอนให้นวดในสปานั้นไม่เคยอยู่ในความคิดหรอก ถ้านาบก็ว่าไปอย่าง อันนั้นมันฝังอยู่ในสมองของเพลย์บอยอย่างเขาเลยก็ว่าได้
“เหรอคะ ว้าแย่จัง หงส์ตั้งใจทำให้พี่สิงห์เลยนะคะ พี่สิงห์เป็นคนแรกที่หงส์นวดให้แบบนี้ แต่ถ้าไม่ชอบ หงส์ก็เลิกทำดีกว่า”
“ไม่นะ เอ่อ...ฉันยังไม่ได้บอกสักคำเลยว่าไม่ชอบ”
“ก็พี่สิงห์บอกเองนี่คะ ว่าเหมือนคนอื่นๆ ที่เค้าทำกัน ไม่ได้วิเศษวิโสกว่าใครตรงไหน”
หงส์นรีต่อความยาวของประโยคที่สิงหนาทพูดอีกนิด และแกล้งทำหน้าเฉย พร้อมตั้งท่าจะลุกขึ้นออกจากร่างหนา มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่เอวบางดึงเบียดเข้าหาตัวจนรู้สึกได้ถึงความอวบนูนกลางร่างสาว
“ปรบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกใช่มั้ยหงส์นรี เพราะฉะนั้นเธอต้องช่วยฉัน”
“ช่วยเหรอคะ หงส์จะมีความสามารถช่วยอะไรพี่สิงห์ได้ หน้าหงส์พี่สิงห์ยังไม่อยากมองเลย”
“เอ่อ...นวดไง เธออย่าทิ้งฉันไปกลางคันแบบนี้นะหงส์นรี ไม่งั้นฉันเอาเธอตายแน่”
หญิงสาวกลั้นยิ้มจนแก้มตุ่ย คนมองเห็นก็อยากฟัดให้แก้มแดง แต่เชิงชายก็อยากวางอยู่บนหิ้ง จึงต้องทำนิ่งตีหน้าขรึมปิดบังความรู้สึกของตัวเองไว้
“ยิ้มอะไร”
สิงหนาทถามเสียงเครียด แต่มือหนายังโอบเอวบางแน่น ร่างนุ่มนั่งอยู่บนความลื่นของน้ำมันนวดก็ลื่นไหลตลอด จนเธอต้องขยับกายขึ้นไม่ให้ไหลลื่นตามไป มือบางตวัดรั้งต้นคอแกร่งไว้เป็นหลัก หญิงสาวทำเหมือนไม่ตั้งใจจะให้ร่างลื่นไหล แต่ความจริงเธออยากให้เป็นแบบนี้ต่างหาก ลื่นแล้วก็เลื่อนขึ้นมาแล้วก็ลื่นลงไปอีก ชิ...น้ำแข็งไม่ละลายก็ให้มันรู้ไปสิ
“เปล่าค่ะ พี่สิงห์นอนลงสิคะ แบบนี้หงส์นวดไม่ได้”
ชายหนุ่มจึงเอนกายนอนลงตามคำสั่ง หญิงสาวตวัดปลายขานั่งหันหลังอยู่บนแผ่นท้องแข็งๆ เปิดโอกาสให้ดวงตาคมกวาดมองตั้งแต่ลำคอระหงมีลูกผมตกลงมาเต้นหยอยๆ แผ่นหลังบอบบางเนียนละเอียด เอวคอดกิ่ว จวบจนสะโพกผาย มือใหญ่สั่นระริกอยากปลดตะขอเสื้อชั้นในให้เธอ และอยากใช้มือกอบกุมทรวงอวบใหญ่แทนผ้าผืนเล็ก
“ถอดกางเกงนะคะ”
หงส์นรีหันมาบอก เป็นเหตุให้มือใหญ่ที่กำลังจะเอื้อมมาเกือบถึงตะขอเสื้อชั้นในต้องตกลงพลัน
“อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ”
คนปากแข็งก็ยังปากแข็งจนแล้วจนรอด ไม่เป็นไร ปากแข็งแต่ใจอ่อนแบบนี้นังหงส์ชอบ
มือน้อยปลดกระดุมกางเกงสแล็คสีเข้มออก ร่างบางคุกเข่าคร่อมร่างหนาโน้มตัวลงเพื่อรูดกางเกงออกจากท่อนขาแข็งแกร่ง เรียกให้ชายหนุ่มต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆ ซึ่งมีจุกอยู่ที่คอหอยให้ลงไปอย่างยากลำบาก จากนั้นเสียงครางแผ่วโหยก็ดังออกมาให้ได้ยิน
สะโพกผายที่ซ่อนในซับในตัวจิ๋วสีขาว เวลาที่นั่งทับคลุกเคล้าน้ำมันบนกายแกร่งแล้วเนื้อผ้านั้นก็บางแจ๋วเปียกชุ่ม แค่นั้นยังไม่พอเจ้าหล่อนยังโค้งตัวยกสะโพกเปียกๆ ขึ้น ทำให้มองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในได้เด่นชัด
‘พระเจ้า นี่เธอไม่ตั้งใจหรือแกล้งยั่วเขากันแน่ ส่วนนั้นของเธอมันช่าง...’
“พี่สิงห์คะ”
“อะไร”
เสียงตอบแบบมะนาวไม่มีน้ำแต่สั่นยะเยือก เหมือนคนตอบยืนอยู่บนธารน้ำแข็งเย็นเฉียบและสั่นไปทั้งตัว ทำให้หญิงสาวอยากหัวเราะให้ลั่นห้อง
“งอขาขึ้นหน่อยสิคะ หงส์จะได้ถอดกางเกงออก”
สิงหนาทถอนหายใจรุนแรงจนเกิดเสียงฟืดฟาด ลำขาแข็งแรงงอขึ้นตามที่ขอแต่มือหนาต้องกำหมัดแน่นไม่ให้ปล่อยตัวปล่อยใจแตะต้องกับสิ่งยั่วยวนตรงหน้า และเหมือนคนยั่วจะยิ่งได้ใจแกล้งยกสะโพกขึ้นสูง เธอคลานเข่าดึงกางเกงออกจากขายาวๆ อย่างทุลักทุเล แต่ก็สำเร็จจนได้ในที่สุด
หงส์นรีเลื่อนกายขึ้นนั่งบนหน้าอก หยิบขวดแก้วเทของเหลวลื่นๆ ลงบนต้นขากำยำทีละข้าง มือน้อยบรรจงนวดไปตามที่ได้เรียนรู้มาเมื่อสมัยยังเรียนมหาลัย และแอบหนีทางบ้านไปเรียนนวดกับเพื่อนๆ เหตุเพราะเพื่อนๆ มีฐานะไม่สู้จะดีนัก การเรียนวิชานวดผ่อนคลายจะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเพื่อนๆ ของเธอ และเธอก็มีวิชานั้นเป็นผลพลอยได้ หญิงสาวเคยนวดให้มารดาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้ใส่น้ำมันนวดให้แบบนี้
แต่ต้องบอกไว้อย่างหนึ่งว่า สิงหนาทได้สิทธิพิเศษเหนือใคร ได้ทั้งน้ำมันและลีลาที่เธอใส่เสริมลงไปซึ่งไม่มีอยู่ในตำราเรียน นอกจากใจที่อยากจะทำให้เขาชื่นชอบและติดใจจนลืมไม่ลง
หงส์นรีตั้งอกตั้งใจนวดน้ำมันให้สามีหนุ่มปากแข็ง เธอใช้สองมือช่วยกันนวดพร้อมทั้งเบียดตัวถูไถไปตามลำตัวแกร่ง ตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงสัดส่วนที่ลุกชันซึ่งอยู่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงชั้นในชาย หญิงสาวอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดบ้างไหมนะ ก็สิ่งที่เธอเห็นมีกำลังขยายใหญ่จนเป็นรูปร่างไม่ต่างอะไรกับมังกรตัวเขื่องที่เธอเคยคิดไว้เลย เธอพยายามตัดใจไม่ให้สายตาจดจ่ออยู่กับความกำยำอวบใหญ่นั้น และมองลำขากำยำแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแทน
สิงหนาทยังจับตามองสะโพกหนั่นแน่นอย่างเพลิดเพลิน ความเปียกชื้นของกางเกงชั้นในสีขาวทำให้ดวงตาคมมองเห็นร่างเธอเหมือนจะเปลือยเปล่า อยากบีบขยำให้เธอต้องครวญครางดังลั่น พอๆ กับอยากคำรามก้องเหมือนยามที่ได้ปลดปล่อย
“พี่สิงห์คะ”
“จ๋า...จะให้พี่ทำอะไรอีก”
เป็นเพราะตกใจกับเสียงเรียกที่ปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ความคิด ทำให้เผลอปล่อยเสียงหวานและสรรพนามที่เปลี่ยนไปอย่างลืมตัว
“อยากให้หงส์ช่วยอะไรคะ พี่สิงห์ยังไม่บอกหงส์เลย”
หญิงสาวทวงคำตอบที่เขายังไม่บอกและเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
“ช่วย...ทำให้พี่มีความสุขที”
หงส์นรีหมุนตัวหันหน้าเข้าหา สบตากับดวงตาคมจัดซึ่งดูเหมือนว่าเข้มขึ้นกว่าเดิม เรียวปากอิ่มแย้มยิ้มให้อย่างน่ารัก มือบางเอื้อมไปปลดตะขอเสื้อชั้นในและเหวี่ยงทิ้งด้วยท่วงท่าสุดจี๊ด ใบหน้างามลดต่ำลงในที่สุดเรียวปากอิ่มก็บรรจบกับเรียวปากหนา หญิงสาวบดคลึงเคล้าและตวัดปลายลิ้นโลมเลียไปตามรอยแยกของกลีบปาก ทิ้งความเปียกชื้นอุ่นร้อนดังไฟลามเลียไปทั่ว
“หงส์...”
เสียงครางแหบพร่าเรียกชื่อเธอเหมือนเสียงครางของเธอที่ต้องเรียกชื่อเขา ในเวลาที่ถูกชายหนุ่มปลุกปั่นอารมณ์อันอ่อนไหวให้รุนแรงเร่าร้อน
ปลายลิ้นเรียวเล็กสอดเข้าหาลิ้นหนาเมื่อสิงหนาทเผยอเรียวปากออก กวัดแกว่งปลายลิ้นนุ่มโบกสะบัดเกี่ยวพันดูดดื่มรสชาติซ่านซ่านในโพรงปากอุ่นร้อน มือใหญ่ประคองดอกบัวคู่งาม บีบเคล้นขยำขยี้ตามแต่แรงอารมณ์ที่พุ่งโลด ทรวงอกอวบที่อยู่ในอุ้งมือใหญ่ผลิบานราวดอกบัวที่ใกล้จะแย้มกลีบ เรียกให้ปลายนิ้วเรียวใหญ่บีบขยี้ยอดถันสีอ่อนจนแข็งตัวเป็นไต
หงส์นรีเคลื่อนกายไปมาเบียดความอวบอิ่มเต็มตึงไปตามร่างหนา ความลื่นจากน้ำมันนวดส่งผลให้ร่างบางลื่นไหล ยิ่งเป็นการปลุกเร้าความต้องการของสิงหนาทให้พุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด
“หงส์...หงส์นรี”
สิงหนาทครางเสียงต่ำ เมื่อเรียวปากหนาเป็นอิสระ ลมหายใจสะท้อนขึ้นลงรุนแรงจนอกกว้างขยาย ไออุ่นร้อนๆ เป่ารดพวงแก้มนุ่มจนหงส์นรีขนลุกซู่เธอเกือบลืมตัวลืมใจหลงลืมสิ่งที่ตั้งใจทำไปสนิท หากไม่ถูกขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน และหงส์นรีก็นึกขอบคุณคนที่มาขัดจังหวะ
