ตอนที่ 3 ราชสีห์ของนางหงส์
ตอนที่ 3 ราชสีห์ของนางหงส์
ตกเย็นพอได้เวลาเลิกงาน หงส์นรีก็เห็นสาวสวยร่างสูงโปร่งเดินผ่านหน้าห้องเธอไป
“พอได้เวลาก็มาส่งส่วยกันถึงที่”
“อย่าพูดดังไป รู้ไปถึงหูท่านแล้วจะเด้งไม่รู้ตัว”
“แหม...เห็นแล้วอดพูดไม่ได้นี่นา ยัยลายครามเนี่ยขยันมาหาท่านประธานสุดหล่อได้ทุกวัน ขนาดว่าต้องกลับไปตามลำพังนะ ก็ยังหน้าด้านมาได้มาดีอีก”
“หล่อนก็พูดเกินไป เค้าชื่อนงคราญย่ะ ไม่ใช่ลายคราม ฉันว่านะท่านประธานก็ต้องเบื่อแล้วล่ะเนอะ เมื่อก่อนเห็นเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นเลยนี่นา พอขึ้นรับตำแหน่งสงสัยจะงานยุ่ง แม่นางนวลพวกนี้ก็เลยหายไปทีละคน”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้น ก็ท่านประธานน่ะร้ายแค่ไหน พอเบื่อไม่เขี่ยทิ้งทุกราย”
“กลับเถอะ อย่าไปยุ่งเรื่องของเจ้านายเลย”
หงส์นรีได้ยินชัดเจนสองรูหู มือบางกำหมัดแน่นอย่างสะกดอารมณ์ ต่อไปนี้ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนต้องไม่อยู่ในรัศมีสายตาของว่าที่สามีเธอ เขาจะต้องมองแต่เธอเท่านั้น
หญิงสาวต่อโทรศัพท์หานายจักรวาล เมื่อทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้ว
“คุณลุงคะ ส่วนใหญ่พี่สิงห์จะไปเที่ยวกลางคืนที่ไหนคะ”
สิงหนาทถูกนงคราญลากมาถึงผับประจำได้ในที่สุด เขารู้สึกเบื่อหน่ายเธอมากแต่ไม่อยากทำร้ายน้ำใจ ทุกวันนี้นงคราญก็ถูกเขาขับไล่ทุกวันอยู่แล้ว แต่ในเมื่อเธอยังดื้อและยังคงตามตื้อไม่เลิกรา เขาจะเลี้ยงส่งเธอวันนี้เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นต่างคนต่างเดิน
“ทำไมสิงห์ต้องทำหน้าเหมือนเบื่อนงขนาดนั้นด้วยคะ”
“ผมเสแสร้งไม่เป็น คิดยังไง หน้าตาก็แสดงออกมาอย่างนั้น”
“สิงห์พูดเหมือนจะตัดรอนนงอย่างงั้นแหละ”
“จะต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง คุณถึงจะเลิกยุ่งกับผมเสียที”
“แต่นงรักสิงห์นะคะ”
สิงหนาทกรอกตาไปมา คำพูดแบบนี้เขาได้ยินจากปากผู้หญิงทุกคนที่นอนด้วย แต่ละคนจริงใจดีทั้งนั้น ฮึ...หน้าอย่างลับหลังอย่าง พ้นจากเขาก็มีเสี่ยน้อยเสียใหญ่โอบอุ้มค้ำจุน แบบนี้เหรอที่พวกเธอบอกว่ารักนักรักหนา
“อย่าพูดอีกเลย วันนี้ผมพาคุณมาเลี้ยงส่ง เป็นการอำลาและจากกันด้วยดีของเรา อย่าทำให้ผมเสียความรู้สึกหน่อยเลยนงคราญ”
นงคราญแทบน้ำตาตก กับสิงหนาทแตกต่างจากคนอื่น เขาคือคนที่เธอรัก แต่คนอื่นแค่เป็นของแก้เบื่อชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ถ้าไม่ใช่สิงหนาทอย่าหวังเลยว่านงคราญจะตามติดขนาดนี้
สิงหนาทกระดกแก้วเหล้าเข้าปากติดๆ กัน เขาต้องการใช้ความร้อนจากน้ำเมรัยดับความกลัดกลุ้ม กลุ้มทั้งเรื่องงานเรื่องผู้หญิง และเรื่อง...
‘นั่นมัน...หงส์นรีนี่นา แล้วเธอมาทำอะไรในสถานที่แบบนี้ หรือว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยง แต่เอ๊ะ มาคนเดียวนี่นา’
ชายหนุ่มมองร่างบางที่อยู่ในชุดลายเสือเสื้อสายเดี่ยวเอวลอย กางเกงเอวต่ำยาวแค่ปิดสะโพก กับรองเท้าบูธยาวครึ่งหน้าแข้งสีดำ สิงหนาทถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาดื้อๆ ไม่คิดว่าหงส์นรีจะมาเที่ยวกลางคืน กล้าหาญใส่ชุดเปรี้ยวจี๊ด และที่สำคัญไม่คิดว่าเธอจะมีปัญญามาเที่ยวผับหรูๆ แบบนี้
หงส์นรีเห็นสิงหนาทตั้งแต่เข้ามานั่งแล้ว แต่เธอแกล้งทำเป็นไม่เห็น มือถือบลูเทลฟลายสีสวยรสนุ่มแต่แฝงด้วยความบาดลึก หญิงสาวแต่งหน้าให้เข้มกว่าเดิมและตั้งใจทาลิปสติกสีแดงอมชมพูให้ดูน่าจูบมากขึ้น เธอรู้ว่าตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจของท่านประธานหนุ่ม รวมถึงหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่หัวหงอกหัวดำทั้งหลาย ที่ต่างก็เมียงมองนางหงส์ในคราบนางเสือสาว
“สวัสดีครับ ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหม”
หงส์นรีเงยหน้ามองชายหนุ่มหน้าตี๋สวมแว่นไม่หนามาก ก่อนพยักหน้าอนุญาตให้เขานั่งลง
“เชิญค่ะ”
“มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ แล้วคุณล่ะ”
“คนเดียวเหมือนกันครับ ผมมาที่นี่บ่อย แต่ไม่ยักจะเคยเห็นคุณมาก่อนเลย”
“ฉันเพิ่งจะมาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรกค่ะ”
“อ้อ...ดีใจจังที่ได้เจอคนสวยๆ อย่างคุณ...”
“หงส์ค่ะ เรียกฉันว่าหงส์ก็ได้ แล้วคุณล่ะคะ ชื่ออะไร”
“ผมชื่อวัสครับ ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณหงส์นะครับ”
หงส์นรีได้แต่ยิ้ม ไม่ได้บอกว่าเธอยินดีรู้จักเขา เพราะไม่คิดจะฝืนใจตัวเอง แค่เขามานั่งด้วยก็ฝืนใจมากพออยู่แล้ว เธออยากนั่งคนเดียวมากกว่า แต่ถ้าไม่มีตัวประกอบสักคน บทละครก็ดูจะขาดรสชาติไปนิด เพราะตัวประกอบก็เป็นสีสันหนึ่งที่ขาดไม่ได้
หางตาของหงส์นรีเห็นร่างสูงทำท่าจะลุกขึ้นมาหาเธอ แต่แม่สาวข้างกายกลับรั้งไว้
‘ฮึ...คิดจะแย่งว่าที่สามีของนังหงส์เหรอ เร็วไปสิบปีล่ะมั้ง’
ขณะนั้นเสียงไฟในผับก็ริบหรี่ลง เสียงดนตรีเพลงหวานซึ้งเริ่มคลอขึ้นแทนเสียงเพลงแดนซ์ที่ดังกระหึ่มอยู่เมื่อครู่ ขาแดนซ์ทั้งหลายเปลี่ยนเป็นสโลว์ซบกันเป็นคู่ๆ บางคนที่ไม่มีคู่ก็ถอยฉากกลับที่นั่ง หงส์นรีหันไปส่งยิ้มเชื่อมให้หนุ่มแว่น ก่อนเอ่ยชวนเสียงหวาน
“คุณวัสไปเต้นรำกับหงส์นะคะ”
“ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยครับ ที่คุณหงส์ให้เกียรติเต้นรำกับผม”
แหวะ...น้ำเน่าอีกแล้ว ว่ากายสิทธิ์ชอบทำน้ำเน่าคละคลุ้งแล้วนะ นี่ยิ่งเน่ากว่า หญิงสาวกรอกตาเบือนหน้าหนี ทำไมชีวิตนังหงส์ต้องเจอกับคนเน่าๆ ด้วยนะ เอาน่ะ ถึงเน่าก็ยังมีประโยชน์
นางเสือเซ็กซี่ลุกขึ้นควงแขนหนุ่มแว่นออกไปวาดลวดลายสโลว์ซบกลางฟลอร์ โดยมีสายตาคมของว่าที่สามีที่ยังไม่รู้จักหน้าค่าตาของว่าที่ภรรยา มองตามร่างที่นุ่งน้อยห่มน้อยโชว์ผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนน่าสัมผัส
ดวงตาคมลุกวาวไม่พอใจที่หนุ่มแว่นหน้าตาแสนธรรมดา แตะเอวบางเปลือยเปล่า แถมยังประคองร่างงามราวกับเป็นคู่รักที่ใช้โอกาสยามที่แสงไฟริบหรี่เช่นนี้ พลอดรักกันอย่างดูดดื่ม
“นง...เราไปเต้นรำกันดีกว่า”
“ได้สิคะ ได้”
นงคราญละล่ำละลักตอบอย่างยินดี เธอลุกขึ้นตามแรงฉุดรั้งที่ค่อนข้างรุนแรงนั้น อดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดที่สิงหนาทชายหนุ่มที่เธอหมายปอง ถึงได้อยากทำหวานซึ้งกับเธอ หรือเขาจะมอบความสุขให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย นงคราญหวังว่างานเลี้ยงคงไม่เลิกราเร็วอย่างที่คิด ลองได้ออกไปเต้นรำกันแบบนี้ น่าจะไปจบลงที่เตียงนอนเหมือนเมื่อก่อนนี้
หงส์นรีซ่อนยิ้มเมื่อเห็นร่างสูงควงแขนนงคราญมาสโลว์ซบใกล้ๆ เธอ นึกอยากผลักร่างบางที่อิงแอบว่าที่สามีของเธอให้ออกห่าง แต่กลัวสิงหนาทจะจับได้ว่าทุกอย่างที่เธอทำ คือเกมระหว่างสองตระกูล
“คุณวัสคะ คุณวัสมีแฟนรึยังคะ”
“ยังครับ ผมยังโสดทั้งแท่ง”
“ท่าทางคุณวัสจะมีหน้าที่การงานดีนะคะ ไม่น่าจะยังโสด หงส์ว่าผู้หญิงหลายคนต้องหมายปองคุณวัสไว้แน่”
“ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายขายครับ ถ้าจะบอกว่าไม่มีใครมาอ่อยเลย ก็คงเป็นการโกหก แต่ต่อให้อ่อยยังไงถ้าไม่รักไม่ชอบ ผมก็ไม่เลือกหรอกครับ”
หงส์นรีเบ้ปาก นึกอยากตะบันหน้าหนุ่มแว่นขึ้นมาตงิดๆ เธอล่ะเกลียดนักพวกที่ชอบหลงตัวเองแบบนี้ ยิ่งคนที่หน้าตาธรรมดาๆ อย่างผู้ชายตรงหน้า ยิ่งถือว่าหลงตัวเองแบบเว่อร์ๆ
ร่างบางหมุนตัวให้เข้าไปใกล้คู่ของสิงหนาทจนในที่สุดทั้งสองคู่ก็อยู่ติดกัน นางนกน้อยหงส์นรียังคงทำเป็นมองไม่เห็น แถมยังฝืนใจทำอิงแอบบ่ากว้างของหนุ่มแว่นอีก ละครบทนี้เธอต้องเป็นคนกำหนดมันถึงจะสนุก
ถึงเวลาที่บทเพลงซึ้งเพลงแรกจบลง ดีเจก็เปิดเพลงที่สองต่อ จังหวะที่ไฟเปลี่ยนสี สิงหนาทก็ดึงร่างของนางเสือสาวสลับการร่างของนงคราญ และหมุนตัวไปอยู่อีกมุมหนึ่งของฟลอร์
“อุ๊ยท่านประธาน!”
“สวัสดีหงส์นรี บังเอิญว่าฉันอยากเต้นรำกับเธอบ้าง เธอคงไม่ว่าอะไรนะ”
“เอ่อ...ไม่ค่ะ แล้วคู่ควงของท่านประธานล่ะคะ จะเอาเธอไปไว้ที่ไหน”
“พูดแบบนี้ก็แสดงว่าเห็นฉันแล้วสิ ฉันนึกว่าเธอไม่เห็นฉันเสียอีก”
“เห็นค่ะ แล้วก็เห็นด้วยว่าท่านมากับสาวสวยคนนึง หงส์ก็เลยไม่คิดว่าท่านจะสนใจ”
หงส์นรีแสร้งทำเป็นน้อยใจสิงหนาท เธองัดมารยาหญิงทั้งหมดมาใช้ มีกี่เล่มเกวียนเอาออกมาใช้ให้หมด ให้มันรู้กันไปว่าชายหนุ่มจะรอดเงื้อมือเธอ
“ฉันก็เห็นเธอนั่งคุยกับนายแว่นนั่น ดูท่าทางสนุกสนานกันเหลือเกิน แฟนเหรอ”
“อ้าว...จริงสิ ตายแล้ว ท่านประธานกำลังจะทำให้แฟนหงส์เข้าใจผิดนะคะ นี่เขาจะคิดยังไงที่ท่านฉุดหงส์มาเต้นรำด้วยแบบนี้”
นั่น...เอาเข้าไปนังหงส์ แหม...ยิ่งเล่นก็ยิ่งสนุกแฮะ
สิงหนาทขบกรามแน่น เขาบอกไม่ถูกว่าทำไมต้องไม่พอใจที่หงส์นรีบอกว่านายแว่นนั่นเป็นแฟนของเธอ ความรู้สึกแปลกๆ ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขาอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน ความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของ อยากครอบครองมันรุมเร้าให้เขาต้องทำอะไรบางอย่าง และสิ่งบ้าๆ ที่เขากำลังทำอยู่นี่แหละ คืออะไรที่ว่านั้น
“หงส์นรี”
“คะ”
แวบหนึ่งชายหนุ่มเห็นแววประหลาดในดวงตาคู่สวย แต่มันก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว จนสิงหนาทคิดว่าคงเป็นเพราะแสงสีในนี้มันสะท้อนในแววตาของเธอ ชายหนุ่มไม่คิดถึงเรื่องอื่น อยู่ใกล้ๆ เจ้าของร่างหอมกลิ่นซากุระแบบนี้ ทำให้เขาไม่อยากคิดถึงอะไร
อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดร่างนุ่มแรงขึ้น จนเธอรู้สึกอึดอัด มือบางวางทาบอกกว้างซึ่งชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงสองเม็ด ปลายนิ้วเรียวเล็กยื่นออกไปสะกิดไรขนอ่อนนุ่มอันแสนเซ็กซี่ของสิงหนาท ไม่อยากจะเชื่อว่าขนหน้าอกผู้ชายจะนุ่มมือแบบนี้ เห็นในหนังที่พระเอกมีขนหน้าอกก็คิดว่ามันคงแข็งกระด้างมากกว่านี้ แต่นี่ผิดคาดมาก ความนุ่มนั้นทำให้เธอลืมตัวลูบเล่นไปมา โดยหารู้ไม่ว่าความเผอเรอของเธอนั้นปลุกความรู้สึกบางอย่างให้ตื่นขึ้น
“ทำไมเธอมาเที่ยวผับนี้ได้ ที่นี่มันแพงมากนะ หรือที่เธอปฏิเสธฉันเพราะมีคนเลี้ยงอยู่แล้ว”
ถามไป มือก็ลูบเอวบางไปด้วย ผิวของหงส์นรีนุ่มเนียนราวกับผ้าแพรเนื้อดีทีเดียว สิงหนาทลูบคลึงผิวเนื้อเปล่าเปลือยไม่หยุด จนหญิงสาวต้องคว้ามือใหญ่และกดให้อยู่นิ่งๆ ไม่เป็นหนวดปลาหมึกหยุบหยับไปทั่วทั้งตัวแบบนี้
“ลูบมากๆ เดี๋ยวของจะสึกนะคะ หงส์มีคนเลี้ยงจริงแหละค่ะ ไม่งั้นคงไม่มีปัญญามาที่หรูๆ แบบนี้”
“งั้นเหรอ ใครกันนะที่เลี้ยงเธอ”
“ไม่บอกดีกว่าค่ะ”
“แล้วนายแว่นนั่นล่ะ ไหนเธอว่าเป็นแฟน แล้วเธอยังมีคนเลี้ยงอีกคนเหรอ”
หงส์นรีเงยหน้าขึ้นยิ้มละมือออกจากอก นำไปวางบนบ่ากว้างแทน
“ใช่ค่ะ ตั้งสองคนเชียวนะคะ”
“หืม...แล้วถ้าฉันจะขอให้เธอยกเลิกการเลี้ยงดูจากทุกคนล่ะ เธอจะว่ายังไง”
คราวนี้มือบางเคลื่อนมาคล้องต้นคอหนา บีบนวดคลึงให้ชายหนุ่มผ่อนคลายลง เพราะเธอรู้สึกว่าร่างสูงนี้เริ่มเกร็งขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าที่สิงหนาทต้องเกร็งก็เพราะความอวบอิ่มของทรวงอกที่เบียดชิด สะโพกผายงอนเช้งที่เบียดบดกับความเป็นชายแข็งตึง ชายหนุ่มไม่เคยรู้สึกกระหายใคร่รักได้มากขนาดนี้มาก่อน
หงส์นรีทำท่าคิด กลีบปากนุ่มยื่นออกมาจนแหลม ความน่ารักน่าใคร่นั้นได้รับจูบจากเรียวปากหนาตอบแทน แต่พอได้จูบแล้ว สิงหนาทกลับไม่อยากจะถอนออกเป็นเหตุให้หญิงสาวต้องเอนกายหนี ยกมือยันใบหน้าที่รุกไล่นั้นให้ถอยห่าง
“ถ้าหงส์จะเลิกให้คนอื่นเลี้ยง และคิดจะมีคนเลี้ยงใหม่คนเดียว คนๆ นั้นต้องใจป้ำพอจะยอมรับเงื่อนไขของหงส์ได้”
“เงื่อนไขอะไร บอกฉันมาหงส์นรี”
“เงื่อนไขที่ต้องเลี้ยงหงส์ไปตลอดชีวิต ที่สำคัญต้องเลี้ยงแบบถูกต้องตามกฎหมายด้วย”
“ไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ”
“งั้นก็จบค่ะ ท่านประธานอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกนะคะ”
เธอผลักร่างหนาออกและหมุนตัวเตรียมจะเดินหนี หากแต่ต้นแขนนุ่มกลับถูกรั้งเอาไว้เสียก่อน มุมปากของนางหงส์กระตุกยิ้ม
“เดี๋ยวสิ ฉันขอทดสอบสินค้าก่อนได้ไหม ถ้าดีได้ใจ บางทีฉันอาจจะทำตามที่เธอบอก”
โอ้ว้าว...ใจป้ำเสียด้วยนะว่าที่คุณสามีสุดหล่อ นี่ไม่ได้คิดถึงว่าที่ภรรยาเลยรึไงยะพ่อคู้ณ
แต่ในใจของเพลย์บอยหนุ่มที่กุมบังเหียนกิจการที่กำลังโงนเงน กลับคิดไปอีกทางว่าเรื่องอะไรจะยอมปล่อยนางเสือสาวให้หลุดลอยไปพ้นคืนนี้ อย่างน้อยก็ควรได้ชิมรสหวานของเธอบ้าง ไม่งั้นคงเสียเชิงชายหมด
“ถ้าไม่มากก็ยินดีค่ะ”
แล้วนางหงส์ก็ถูกฉุดให้เดินตามราชสีห์หนุ่มรูปงามออกไปจากผับแห่งนั้น
“ท่านประธานคะ อาบน้ำเสร็จรึยัง หงส์รอจนจะหลับแล้วนะคะ”
ปากก็ร้องถามมือก็จุ่มปลายนิ้วคนน้ำในแก้วที่เธอแอบใส่ยานอนหลับลงไป หงส์นรีเตรียมทุกอย่างมาพร้อมสำหรับการป้องกันตัวเต็มที่ การแต่งตัวล่อตะเข้ของหญิงสาวชาวภูธรแสนสวยอย่างเธอ ก็ต้องมีเครื่องมือป้องกันตัวบ้าง นอกจากยานอนหลับนี้ ในกระเป๋ายังมีเครื่องช๊อตและสเปรย์พริกไทยอีกด้วย
“เสร็จแล้วจ้ะ ฉันไม่แปลกใจเลยที่มีคนคิดเลี้ยงเธอทีเดียวหลายคน เพราะเธอมันน่าเลี้ยงแบบนี้นี่เอง”
สิงหนาทตะโกนออกมาก่อนที่ร่างสูงจะพันกายท่อนล่างด้วยผ้าขนหนูหมิ่นเหม่เดินออกมา ดวงตาคมมองร่างนางเสือสาวกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงนุ่ม เธอส่งยิ้มหวานหยดให้เขา และยกแก้วน้ำชูขึ้น
“อาบน้ำเสร็จแล้ว ก็ดื่มน้ำเย็นๆ ดับกระหายหน่อยดีไหมคะ”
“ยัง อยากกินอย่างอื่นก่อน”
ชายหนุ่มคลานเข่าขึ้นบนเตียง จับร่างของนางเสือสาวกดจูบ ความหวานที่ได้รับทำให้ชายหนุ่มต้องครางลึก หงส์นรีสะบัดปลายลิ้นตอบรับเรียวลิ้นหนาอย่างเงอะงะ แต่นั่นก็เรียกให้ร่างหนาต้องสั่นเล็กน้อย ความไม่ประสีประสาของเธอบอกว่าเธอยังไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน แต่สิงหนาทยังไม่คิดจะเชื่อ เพราะพฤติกรรมของเธอมันชวนให้คิด แถมเธอก็บอกเขาเองว่ามีคนเลี้ยงดูปูเสื่อ เป็นนางหงส์แสนสวยในกรงทองของใครหลายคน
ทรวงอกอวบถูกนวดคลึงผ่านนอกร่มผ้า ความนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือนั้นทำให้มือใหญ่บีบเคล้นอย่างหนักหน่วง ความอวบหยุ่นเด้งดึ๋งราวสปริงชั้นดีให้ความรู้สึกดีกับเจ้าของมือใหญ่ อยากเห็นเนื้อแท้ที่อยู่ข้างในว่ามันจะงามมากแค่ไหน ชายเสื้อตัวสั้นถูกถลกขึ้นไปกองเหนือเนินอิ่ม แล้วเสียงครางก็หลุดออกมาจากกลีบปากหนา
“สวย ใหญ่ นุ่ม” ชายหนุ่มกดจมูกลงบนเนื้อเนียนที่ยังมีบราเซียครึ่งเต้าปิดกั้น “หอมมาก”
หงส์นรีรีรอให้สิงหนาททำมากกว่าชื่นชม แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าเป็นตายยังไงวันนี้เขาไม่ได้กินเธอแน่ แล้วบราเซียสีดำไร้สายก็ถูกปลดออก ดอกบัวงามดีดตัวผึงออกจากความรัดรึง เรียกร้องให้ริมฝีปากครอบครองปลายถันสีน้ำตาลอ่อนที่แทบจะกลมกลืนไปกับผิวสีน้ำผึ้งใส ดูเหมือนพระเจ้าได้สร้างประติมากรรมสาวแสนสวยราวกับเป็นเทพธิดาตัวน้อย ซึ่งกำลังเหยียดกายอยู่บนเตียงนุ่ม
“ท่านประธานคะ”
“เรียกคุณสิงห์”
“ยังไม่ได้ลองของเลย เลื่อนขั้นได้แล้วเหรอคะ”
สิงหนาทนึกสงสัยว่าพระเจ้าสร้างเธอได้ถูกใจเขา แล้วยังทำให้เธอช่างเจรจาได้สมชื่อหงส์นรีจริงๆ เธอเหมือนนกสง่างามแสนสวยที่บางครั้งดูใสซื่อไม่ทันคน บางครั้งดูเปรี้ยวเฉี่ยวน่าค้นหา และบางครั้งอย่างในเวลานี้ ชายหนุ่มก็คิดว่าเธอกำลังทำตัวเป็นคนเจ้าเล่ห์นักในความรู้สึกของเขา แต่เธอจะมีเล่ห์เหลี่ยมใดล่ะ ข้อนั้นเขาก็อยากรู้จริงๆ
“ได้ยลโฉมก็ถูกใจแล้ว แต่คุณภาพจะคับแน่นแค่ไหน ต้องลองดูอีกที”
เรียวปากร้อนชื้นฉกเข้าหายอดทรวงสร้างที่ชูช่อผลิบานรับสัมผัสจากเขา ปลายถันแข็งเป็นไตสีเข้มขึ้นทันตาเห็น เพียงแค่ปลายลิ้นหนาโฉบเข้าหาถี่ระรัว มือหนาบีบขยำความนุ่มหยุ่นสนุกมือและช้อนขึ้นส่งปลายยอดเข้าปากจนเกิดเสียง ที่ทำให้หงส์นรีต้องหน้าแดงซ่าน
หัวใจดวงน้อยใกล้จะโบยบินไปจากเจ้าของ หากแต่หญิงสาวต้องดึงรั้งไว้สุดแรงเกิดไม่งั้นแผนที่ตั้งไว้จะเสียหมด เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เรียกขวัญและกำลังใจกลับคืนมา ทรวงสาวสล้างอวบใหญ่จึงสะท้อนขึ้นลงล่อหลอกริมฝีปากหนาให้รุกไล่อย่างไม่ลดละ
สิงหนาทปาดมือลงเคล้นคลึงส่วนโค้งของเอวคอดกิ่ว ความโค้งเว้าดุจนาฬิกาทรายทำให้ใจชายเต้นระรัว สะโพกผายหนั่นแน่นถูกมือใหญ่ลูบไล้
‘ตึงแน่นมือดีจัง ไม่เหมือนผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมามากเลยสักนิด’
กางเกงขาสั้นลายเสือถูกปลดออก ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศในโรงแรมหรูกระทบผิวกายเปลือยเปล่า หากไฟร้อนจากมือใหญ่ลามเลียไปทั่วผิวเนียน สร้างความรุมร้อนแผดเผาไปทั่วสรรพางค์กาย สติสตังของหงส์นรีกำลังหลุดลอยไปไกล และมันยังทำท่าจะเตลิดจนกู่ไม่กลับอีกด้วย
หงส์นรีเบิกตากว้างเรียกความรู้สึกทั้งมวลที่กำลังโบยบินกลับคืนมา เมื่อสิงหนาทป่ายมือลงหาความเป็นหญิงอวบอิ่ม จีสตริงสีดำไม่ได้ปิดบังความงามให้พ้นจากการจับจ้องด้วยสายตา ดวงตาคมแวววาวเมื่อได้ยลโฉมความงามที่สมบูรณ์แบบตรงหน้า
“สวยมากหงส์นรี ฉันไม่เคยคิดว่าผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้งจะสวยเกลี้ยงได้ขนาดนี้ แถมยัง...อวบใหญ่เต็มมือดีจัง”
หงส์นรีต้องกัดริมฝีปากให้กับคำชมนั้น หากแต่ในใจกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง ที่เธอก็บอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร แต่ต้องคอยปรามหัวใจเอาไว้ไม่ให้กระโดดโลดเต้นไปตามจังหวะปลุกเร้าของเขา
“คุณสิงห์!!!”
หญิงสาวหวีดร้องครวญครางเรียกสิงหนาท เมื่อเขากดใบหน้าลงจุดที่เธอต้องบิดตัวหนี ลมหายใจร้อนผะผ่าวเป่าแผ่วถูกเนินเนื้ออิสตรีอวบนูน มือบางผลักศีรษะทุยที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กลางร่าง
“อย่าทำแบบนี้ หนู...”
‘โอ๊ย...จะให้เธอบอกว่าอะไรเล่า หนูไม่ต้องการงั้นเหรอ นังหงส์คิดเข้าสิคิด จะเล่นบทนางเสือจอมยั่วก็ต้องใจกล้าหน้าด้านหน่อย’
สิงหนาทปัดปลายลิ้นร้อนชื้นผ่านเนื้อผ้าบางเบา ผลักเรียวขาที่หนีบเข้าหากันให้แยกกว้าง เปิดทางให้ปลายลิ้นสากสร้างความสยิวซ่านจนต้องหงายหลังตึง หัวสมองหมุนคว้างหัวใจเต้นถี่ยิบราวกับกำลังจะโลดแล่นออกนอกทรวงอก เสียงลมหายใจหนักหน่วงจนทรวงอวบสะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจ ลำคอตีบตันพูดไม่ออกบอกไม่ได้ ในหัวกำลังมีเมฆหมอกสีขาวจับกลุ่มก้อนหนาๆ กระจายไปทั่ว ร่างของเธอค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้นจนไปอยู่เหนือกลุ่มเมฆหมอก ความรู้สึกหนักหน่วงกลายเป็นเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นไร้น้ำหนัก
เกสรนารีกำลังถูกเรียวลิ้นตวัดไล้หยอกเย้า กลีบปากหนาดูดเม้มผ่านจีสตริงที่เปียกชื้น เสียงหวีดร้องอย่างคนที่กำลังจะปลดปล่อยพันธนาการที่รัดรึงถูกเปล่งออกมา และแล้วสะโพกสาวก็กระตุก ร่างที่ล่องลอยถูกเหวี่ยงลงมาเต็มแรง แต่กลับไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด มีแต่ความสุขสมที่เพิ่งเคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกในชีวิตสาว
“คุณสิงห์ ดื่มน้ำดับกระหายเป็นเพื่อนหนูหน่อยนะคะ หนูคอแห้งจัง”
หงส์นรีละล่ำละลักบอกเมื่อสิงหนาทเลื่อนตัวหนาขึ้นมาทาบทับ เธอรู้ดีว่าเขาไม่ปล่อยให้เธอสุขอยู่ตามลำพัง และในไม่ช้าเขาก็ต้องส่งตัวเองให้พบกับความสุขนั้นบ้าง แล้วเวลาของเธอก็จะหมดลง
สิงหนาทไม่ปฏิเสธ แต่เขากดจูบบนเรียวปากช่างเจรจานั้นก่อนจะทรงตัวขึ้นรับแก้วน้ำที่หายเย็นไปมากแล้ว มาดื่มดับกระหาย เขาเองก็คอแห้งเป็นผงไม่น้อยไปกว่าเธอหรอก ดวงตากลมโตมองลูกกระเดือกที่วิ่งขึ้นลงเพราะดื่มน้ำอย่างสมใจ
‘โล่งอกไปทีนังหงส์ เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ’
ชายหนุ่มดื่มน้ำหมดแก้ว ก็ลุกขึ้นปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่ชั้นในชายสีขาว หงส์นรีเบนสายตาที่เผลอหลุบลงมองบางอย่างที่ดันกางเกงออกมาเป็นรูปเป็นร่าง แล้วกระถดตัวหนีร่างสูงที่ขึ้นมาบนเตียงอย่างหมายมาด เธอรอเวลาให้ยานอนหลับออกฤทธิ์ให้เต็มที่เท่านั้น
สิงหนาทเกิดอาการมึนตึ้บ ภาพของหงส์นรีพร่าเบลอจนต้องสะบัดศีรษะไล่ความงุนงง แต่แล้วร่างหนาก็ฟุบลงอย่างหมดสภาพในวินาทีต่อมา
