12 สูตรห้องเต็ม
ในวินาทีที่รามัญเปิดประตูรถให้เธอ ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าไปนั่งอย่างปลอดภัย ณัฐชาก็ได้เห็นภาพที่ทำให้หัวใจเต้นรัวอย่างห้ามไม่ได้ เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาใส่มันเปียกปอนแนบไปกับร่างกาย เผยให้เห็นสัดส่วนที่แข็งแกร่งและแผงอกที่กำยำอย่างชัดเจน มันคือภาพที่เซ็กซี่ และทำให้ณัฐชารู้สึกวาบหวามอย่างบอกไม่ถูก เธอร้อนรุ่มราวกับคนเป็นไข้ ซึ่งเดาไม่ยากว่ามันมาจากเสน่ห์ของประธานหนุ่มคนนี้
รามัญก้าวเข้ามานั่งประจำที่คนขับ ศีรษะของเขาเปียกชุ่มไปด้วยหยาดฝน ใบหน้าคมคายมีหยดน้ำเกาะพราว ณัฐชาแทบจะลืมหายใจเมื่อเห็นภาพนั้น
เธอรีบล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดผืนเล็ก ยื่นให้เขาด้วยความห่วงใย
“คุณรามคะ... เช็ดผมหน่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”
แทนที่เขาจะรับผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นไปจัดการกับผมของตัวเอง แต่เขากลับโน้มศีรษะมาหาเธอแล้วมองเธอด้วยแววตาออดอ้อนแบบที่ไม่เคยแสดงให้ใครเห็นมาก่อน
“ผมขอโทรหา ช่างก่อน คุณณัฐชาช่วยเช็ดให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”
คำขอร้องนั้นเรียบง่าย และแฝงไปด้วยการต่อรอง ทำให้ณัฐชาเขินอายเล็กน้อย เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือเข้าไปหาเช็ดผมของเขาอย่างช้าๆ ระหว่างที่เขาโทรหารถยกและติดต่อช่างให้เธอ
ปลายนิ้วของหญิงสาวสัมผัสเบาๆ ที่ใบหน้าของรามัญ เธอซับหยดน้ำออกจากสันกรามแข็งแกร่งอย่าง ทะนุถนอม ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดผมที่เปียกชุ่มของเขาอย่างนุ่มนวล ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทำให้ทั้งคู่แทบจะหายใจรดกัน ในห้วงเวลานั้น มีเพียงเสียงฝนกระทบหลังคาและจังหวะการเต้นของหัวใจที่ดังระรัวของคนทั้งสอง
คำสั่งของเขามีพลังและเด็ดขาดราวกับลบความวุ่นวายรอบด้านไปได้สิ้น เมื่อรถยกมาถึงเขาก็สั่งให้ลากรถของเธอไปเข้าอู่ ก่อนจะรีบโทรติดต่อช่างที่ไว้ใจได้
รามัญหลับตาลงรับสัมผัสจากเธออย่างพึงพอใจ เพื่อปิดบังแววตากระหายหื่นของตนเอง เขายอมให้เธอเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างง่ายดาย ณัฐชารู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านจากปลายนิ้วเข้าสู่หัวใจ ภายใต้สายฝนที่เย็นยะเยือกนี้ เธอได้รับความรู้สึกปลอดภัยและเสน่หาที่ร้อนแรงจากรามัญอย่างเต็มเปี่ยม
หลังจากพาณัฐชาขับรถออกมาจากบริเวณนั้นได้ไม่นาน รามัญก็พาเธอแวะทานอาหารกลางวันในห้างแห่งหนึ่งที่อยู่ริมถนนสายเอเชียมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ สายตาของเขาจับจ้องเธอแทบทุกครั้งที่เธอเผลอ ดวงตาคมกริบนั้นสำรวจใบหน้าและเรือนร่างของเธออย่างเปิดเผย จนความรู้สึกของณัฐชาร้อนผ่าวไปทั่วร่าง
ไม่นานนัก ประธานหนุ่มก็ขับรถพาเลขาฯ คนสวยฝ่าพรมแดนสู่จังหวัดเชียงใหม่ ทันทีที่เข้าสู่เขตเมือง รถยนต์หรูของรามัญไม่ได้เลี้ยวเข้าสู่สถานที่จัดงานอย่างที่ควรจะเป็นทำให้ณัฐชารู้สึกแปลกใจ แต่กลับมุ่งตรงไปยังโรงแรมหรูระดับห้าดาวที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองแทน
“คุณราม จะไม่ไปที่งานก่อนเหรอคะ” เธอเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง รามัญหันมามองหญิงสาวข้างกาย ก่อนจะยิ้มให้เธอ แต่รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความหมายที่ซ่อนเร้นจนณัฐชารู้สึกได้
“คุณจัดการทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“ค่ะ แต่ณัฐชาคิดว่า...” เธอพยายามโต้แย้ง แต่ก็รู้ดีว่าเสียงของตัวเองอ่อนลงทุกทีเมื่อต้องเผชิญกับสายตาของเขา
“เถอะน่า ผมขับรถมาเหนื่อยๆ ขอไปพักสักหน่อย” เขาตัดบทอย่างรวดเร็ว คำพูดนั้นไม่ได้เปิดโอกาสให้เธอได้โต้แย้งอีกต่อไป
ณัฐชาได้แต่นั่งเงียบ ๆ มองไปยังตึกสูงของโรงแรมที่รถกำลังแล่นเข้าไปจอด จังหวะนั้นเองมันไม่ต่างจากเจ้านายคนเก่าที่พาเธอเลี้ยวรถเข้าโรงแรมและขืนใจเธอ ณัฐชารู้สึกใจคอไม่ดี
หลังจากนั้นเสียงไลน์ของเธอก็ดังขึ้น เป็นภูรวิชบุตรชายที่ส่งข้อความเข้ามาหาผู้เป็นมารดาด้วยความเป็นห่วง ณัฐชาเริ่มรู้สึกว่านี่คือกลลวง
ความตึงเครียดแผ่ซ่านออกมาจากความเงียบงันในรถ ณัฐชาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ร้อนระอุของเขาที่แผ่เข้ามาในพื้นที่ของเธอ รามัญไม่ได้แตะต้องเธอเลย แต่การอยู่ร่วมกันในพื้นที่แคบ ๆ และการกระทำที่เต็มไปด้วยอำนาจของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีดอย่างแรง พอถึงโรงแรมเธอก็รีบบอกเขาทันที
“งั้นเดี๋ยวณัฐชาขอเปิดห้องพักเองนะคะ” รามัญยิ้มมุมปากเล็กน้อย ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ
“ได้เลยครับ”
ณัฐชาตรงไปที่ลอบบี้เพื่อจะเปิดห้องพัก รามัญยืนข้างๆ เธอ ราวกับเป็นเงาที่ตามติด ห้องพักราคาถูกๆ ก็เต็มไปหมดแล้ว เหลือแต่ห้องพักแพงๆ ณัฐชาไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะลูกชายก็เพิ่งเปิดเทอมและเธอควรจะสำรองเงินเก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน เธอจึงตัดสินใจไม่เปิดห้อง
รามัญเห็นท่าทางลังเลของเธอ เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ ของเธอ ทำให้ความรู้สึกต้องการของเขานั้นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
“คุณณัฐชา ไม่ต้องเปิดห้องหรอก คุณพักกับผมก็ได้” แววตาคมกริบของเขามองตรงมาที่เธออย่างเปิดเผย เธอมองเห็นความปรารถนาที่ลุกโชน
“ณัฐชาไว้ใจคุณรามได้ใช่มั้ยคะ” เธอถามออกไปอย่างจริงจัง ขณะที่น้ำเสียงของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
“ได้สิครับ” เขาตอบง่ายๆ แต่แววตาไม่ได้ง่ายเลย
“เดี๋ยวผมจะให้พนักงานเอากระเป๋าคุณขึ้นไปที่ห้องผมนะ...”
คำพูดนั้นทำให้ใจของณัฐชาเริ่มเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ เธอรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างแรง ประธานหนุ่มพยายามที่จะร่นระยะห่างอย่างเปิดเผยราวกับจงใจข้ามเส้นแบ่งระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง
“คุณราม เดี๋ยวก่อนค่ะ” ณัฐชาแย้งขึ้น พยายามรักษาระยะห่างสุดท้าย
“มันจะดูไม่เหมาะสมหรือเปล่าคะ โรงแรมใกล้ๆ แถวนี้มีมั้ยคะ เดี๋ยวณัฐชาจะออกไปหาพักที่โรงแรมอื่นเองก็ได้ค่ะ”
“อย่าเสียเวลาเลยครับ ช่วงนี้ห้องพักถูกๆ น่าจะเต็มหมดแล้ว” รามัญรีบโกหกด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปิดโอกาสให้เลขาฯ สาวได้ต่อรอง และมันก็เหมือนเป็นคำสั่ง
“ถ้าคุณพักที่โรงแรมนี้กับผม... มันจะสะดวกกว่า เพราะมีงานเปิดตัวโครงการของเราก็อยู่ที่โรงแรมนี้”
ณัฐชารู้สึกได้ในทันที ว่ารามัญจงใจไม่บอกเธอว่างานเปิดตัวโครงการมันก็อยู่ที่โรงแรมนี้ เพราะอยากให้เธอเข้าไปพักด้วยกันมาตั้งแต่แรก เขามีเป้าหมายที่ชัดเจน คือการพาเธอเข้าไปพักในพื้นที่ส่วนตัวของเขา
“ทำไมคุณไม่บอกแต่แรกคะ งั้นณัฐชาขอไปดูเค้าเตรียมงานก่อนนะคะ” เธอจะหันหลังแต่มือหนาของเขาก็รีบคว้ามือเรียวของเธอเอาไว้
“ใจเย็นก่อน คุณไปกับผมดีกว่า” เขาจับมือเธอแน่นณัฐชาต้องยอมจำนนด้วยสายตาของเขา แม้ใจจะยังคงหวาดระแวง และแล้วเธอก็ต้องเดินตามเขาไปยังห้องพักสูทสุดหรู
พนักงานเพิ่งจะวางกระเป๋าเดินทางลง และเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ณัฐชาและเจ้านายอยู่กันตามลำพังในห้องพักที่หรูหรา เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเปียกชื้นเล็กน้อยจากการเดินฝ่าละอองฝนที่โปรย เผยให้เห็นโครงสร้างร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างชัดเจน
บรรยากาศที่เชื้อเชิญให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนก้าวข้ามขีดจำกัด รามัญเปิดประตูห้องน้ำก่อนจะหันมาส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายให้เธอ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนกว่าคำพูดใดๆ
“เปลี่ยนเสื้อผ้าสิ เสื้อคุณเปียกอยู่นะ เดี๋ยวผมขออาบน้ำสักครู่”
“เอ่อ...มันน่าจะแห้งแล้วนะคะ” ณัฐชาตอบรับเบาๆ ขณะที่ หัวใจของเธอเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
เสียงน้ำที่ไหลกระทบพื้นดังออกมาจากห้องน้ำ ราวกับเป็นนาฬิกาทรายที่นับถอยหลังสู่เหตุการณ์ที่เธอไม่กล้าคาดเดา
ไม่นานนักเสียงน้ำก็หยุดลง ร่างสูงของเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่สิ่งที่เลขาฯสาวต้องตกตะลึง ก็คือท่อนบนอันเปลือยเปล่าของเขา ร่างกำยำของรามัญมีเพียงผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียว ที่พันไว้หลวมๆ ตั้งแต่เอวลงมาเท่านั้น
หยดน้ำยังเกาะพราวอยู่บนแผงอกและไหล่กว้างที่แข็งแรงของเขา กล้ามเนื้อที่มองเห็นได้ชัดเจนแสดงถึงการที่ดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำของเขา กลิ่นหอมสะอาดของครีมอาบน้ำและแชมพู ผสมกับกลิ่นกายของเขาทำให้สติของณัฐชาแทบจะดับวูบ
รามัญ ก้าวตรงมาหาเธออย่างช้า ๆ จังหวะการเดินของเขาไม่ได้เร่งรีบ แต่ทุกฝีก้าวกลับทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจณัฐชาผิดเพี้ยนไปหมด
แววตาคมกริบนั้นจ้องมองเธอราวกับต้องการจะทำลายระยะห่างทางกายภาพและสังคม สายตาของเขาไม่ได้จ้องมองเสื้อผ้าของเธอ แต่กำลังจ้องลึกเข้าไปในจิตวิญญาณ รามัญยืนห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว จนณัฐชาได้กลิ่นไอความร้อนจากร่างกายเขาที่ตัดกับความเย็นชื้นจากภายนอก กลิ่นหอมสะอาดเจือด้วยกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการ
“ณัฐชา!!!” เสียงของเขาแหบพร่าลงอย่างจงใจ เป็นการเรียกชื่อที่ทั้งนุ่มนวลและเย้ายวนในคราวเดียวกัน
“คะ... คุณราม” เธอตอบรับด้วยเสียงกระซิบ แทบจะลืมวิธีการหายใจไปชั่วขณะ
รามัญยกมือขึ้นสัมผัสเส้นผมที่เปียกชื้นเล็กน้อยของตนเองอย่างเชื่องช้า หยดน้ำใส ๆ ไหลจากปลายผมลงมาตามหน้าผากคมสัน ก่อนที่เขาจะเอ่ยประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่มยิ่งกว่าเดิม
“เช็ดผมให้หน่อยสิ”
ณัฐชารู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านจากปลายนิ้วถึงปลายเท้า คำขอที่เรียบง่ายนี้กลับเต็มไปด้วยความคาดหวังที่ยากจะปฏิเสธ เธอไม่รู้ว่าคำขอของเขาคือการขอความช่วยเหลือ หรือเป็นแค่ข้ออ้างในการเข้าใกล้...
เธอสบตาเขาอีกครั้ง แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้กว่าเดิมเล็กน้อย
“ณัฐชาหยิบไดร์เป่าผมในห้องที่โรงแรมเตรียมเอาไว้ขึ้นมา”
“นั่งลงสิคะ”
“ผมไม่เอาไดร์นะ มันร้อน”
“ค่ะ”เลขาฯสาวรับคำอย่างว่าง่าย