13 เปิดใจหรือว่าใจง่าย
เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างผ่อนคลาย แต่ดวงตาของเขายังคงจับจ้องที่เธอไม่ละไปไหน ณัฐชาเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอมายืนอยู่ด้านหลังของเขา และเริ่มบรรจงใช้ผ้าซับหยดน้ำออกจากเส้นผมสีเข้มของเขาอย่างนุ่มนวล สัมผัสที่แผ่วเบาของปลายนิ้วเธอสัมผัสกับท้ายทอยอุ่น ๆ ของเขา ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อลำคอที่ตึงเครียดของเขา
ในขณะที่ณัฐชากำลังบรรจงใช้ผ้าขนหนูซับความชื้นออกจากเส้นผมของเขาอย่างแผ่วเบา รามัญซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาและปิดตาลงก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ
เขาไม่ได้ลุกขึ้น แต่กลับเอนศีรษะไปด้านหลังอย่างจงใจ ท้ายทอยของเขาสัมผัสเข้ากับทรวงอกอวบอิ่มของเธอ ผ่านเสื้อเชิ้ตผ้าไหมบางเบาของณัฐชาอย่างชัดเจน! การกระทำนั้นรวดเร็วและแนบเนียนจนเธอแทบไม่มีเวลาที่จะผงะถอย
ณัฐชารู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด! ความอบอุ่นจากศีรษะของเขาทะลุผ่านเนื้อผ้าเข้ามา ความรู้สึกวาบหวามและร้อนรุ่มแล่นพล่านไปทั่วร่าง เธอแข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่ไม่รู้จะดึงผ้าออกจากผมของเขาหรือผละตัวออกไปจากสัมผัสที่เกินเลยนี้ดี
รามัญไม่ได้ขยับตัวไปไหน เขายังคงอยู่ในท่าทางนั้น ปล่อยให้ความเงียบและความใกล้ชิดทำหน้าที่ของมัน เขาไม่ได้แสดงท่าทีล่วงเกินอย่างโจ่งแจ้ง แต่การกระทำนี้กลับเป็นการรุกล้ำขอบเขตที่ละเอียดอ่อนและอันตรายยิ่งกว่า
“คุณราม...” ณัฐชาเรียกชื่อเขาเสียงแผ่ว พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น แต่มันกลับฟังดูเหมือนเสียงกระซิบที่ขอร้องมากกว่าคำทักท้วง
ศีรษะของเขาแนบชิดอยู่กับร่องอกของเธออย่างจงใจ ความร้อนจากลมหายใจของเขาทำให้เธอรู้สึกวาบหวาม รอยยิ้มที่เย้าหยอก ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ณัฐชารู้สึกเหมือนเธอถูกอ่านความคิดจนทะลุปรุโปร่ง
“รู้สึกสบาย มือคุณนุ่มจังเลย ณัฐชา” เสียงทุ้มของเขานุ่มนวลแต่ก็แฝงไปด้วยความเย้ายวนอยู่ในนั้น
“นวดระหว่างคิ้วให้ผมหน่อยสิ” ครั้งนี้เขาหงายหน้ามาด้านหลังเต็มที่ ทอดสายตาขึ้นมองเธออย่างเปิดเผย ราวกับเชื้อเชิญให้เธอสัมผัส ณัฐชารู้สึกถึงความตื่นเต้นที่อันตราย เธอต้องดึงตัวเองออกจากสถานการณ์นี้ให้ได้
“ผมคุณรามแห้งแล้ว... ไปนอนมั้ยคะ เดี๋ยวณัฐชานวดให้ก็ได้” เธอรีบบอกเพื่อจะออกจากวงโคจรที่ใกล้เกินไปนี้ แต่ลืมไปว่าการเสนอตัวนวดนั้น เป็นการเสนอตัวที่ใกล้ชิดเขาขึ้นไปอีก และยังเป็นการชวนขึ้นเตียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ
รอยยิ้มของรามัญขยายกว้างขึ้นอย่างมีเสน่ห์ เขาจับจ้องเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจในปฏิกิริยาที่สับสนของเธอ
“ได้ครับ” เขาเลือกที่จะตัดสินใจทันที พอขึ้นไปนอนบนเตียง เขาก็รีบเอนศีรษะลงมาหนุนตักของณัฐชาอย่างไม่รอคำอนุญาตจนเธอทำตัวไม่ถูก
เมื่อตั้งสติได้เลขาฯ สาวก็ยื่นมือสัมผัสที่ศีรษะของเขา ที่นอนหนุนอยู่กับต้นของเธอ ความอ่อนโยนที่เขาแสดงออกมาในช่วงที่เจอกันตลอดหนึ่งสัปดาห์ ทำให้เธออนุญาตให้เขาทำเช่นนี้ได้ถึงแม้จะรู้สึกตกใจอยู่ก็ตาม
ในความเงียบนั้น มีเพียงเสียงฝนที่ตกหนักข้างนอก และเสียงหายใจที่เนิบนาบของคนสองคน... รามัญนอนหงายศีรษะหนุนตักของณัฐชา ปล่อยให้เธอทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการนวดศีรษะให้อย่างอ่อนโยน เธอบรรจงนวดขมับให้เขาอย่างนุ่มนวล ก่อนจะเลื่อนปลายนิ้วมานวดเบา ๆ บริเวณระหว่างคิ้ว
รามัญยังคงนอนหนุนตักของณัฐชาปล่อยให้เธอทำหน้าที่นวดอย่างอ่อนโยน ความผ่อนคลายที่เขาได้รับไม่ได้มาจากแค่สัมผัสของเธอเท่านั้น แต่มาจากความรู้สึกที่เต็มตื้นในหัวใจ
“คุณรู้ไหม...” รามัญพึมพำ น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ตั้งแต่มีคุณเข้ามา ผมก็ทำงานหลายอย่างสบายขึ้นเยอะเลย...”
“นั่นคือหน้าที่ของเลขาฯ ค่ะ” ณัฐชาตอบ พยายามรักษาระดับเสียงให้เป็นปกติที่สุด แต่ความร้อนที่แผ่ซ่านจากศีรษะของเขาที่แนบอยู่กับตัก ทำให้สมาธิเธอแทบจะแตกสลาย
รามัญขยับใบหน้าเล็กน้อย ทำให้ปลายจมูกของเขาสัมผัสกับต้นขาของเธอเบา ๆ เป็นการกระทำที่จงใจให้เกิดความหวามไหว
“ผมอยากให้คุณทำหน้าที่อีกอย่างได้มั้ย”
ณัฐชาหยุดนวด ปลายนิ้วของเธอค้างอยู่เหนือคิ้วของเขา เธอรู้ดีว่าคำถามนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงานอีกต่อไปแล้ว รามัญเงยหน้าขึ้นมองเธอจากมุมต่ำ แววตาคมกริบของเขาลึกล้ำและเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนได้
“อะไรเหรอคะ” เธอถามด้วยเสียงที่แหบพร่าอย่างควบคุมไม่ได้
“คนรัก” เขาตอบคำเดียว แต่ทรงพลังราวกับประโยคที่ตัดสินชะตากรรมของเธอ
ณัฐชาใจเต้นแรงจนเจ็บหน้าอก เธอก้มหน้าลงมองเขา ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูอ่อนเยาว์และทรงอำนาจนี้กำลังสารภาพรักกับเธออย่างง่ายดาย
“คุณแน่ใจเหรอคะ” เธอถามอย่างสงสัย พยายามดึงสติของตนเองกลับมา
“เราเพิ่งจะรู้จักกันเอง... แถมฉันก็...”
“แน่ใจสิ” เขาตอบเสียงต่ำ ตัดบทเธออย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งของเขาเอื้อมขึ้นมาจับข้อมือของเธอที่วางอยู่บนหน้าผาก
“เพราะตอนนี้ผมเริ่มหลงรักคุณแล้ว ณัฐชา”
คำว่าหลงรักที่ออกจากปากของมหาเศรษฐีหนุ่มในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ณัฐชารู้สึกเหมือนถูกท้าทาย
“คุณรามอย่าว่าปากหวานหน่อยเลย ณัฐชาไม่ใช่สาววัยรุ่นนะคะ” เธอดึงมือกลับอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้เขาเสียใจ
“ลูกก็มี ภาระก็เยอะ บ้านก็ยังต้องผ่อน... ผู้ชายอย่างคุณมีผู้หญิงที่เพียบพร้อมให้เลือกอีกตั้งมากมาย”
รามัญลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาจริงจังขึ้นทันที เขาใช้มือทั้งสองข้างจับใบหน้าของเธอไว้เบา ๆ บังคับให้เธอสบตา
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอายุและลูกชายของคุณล่ะณัฐชา...หืม์!!”
“ผมไม่ได้ต้องการผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ แต่ผมต้องการผู้หญิงที่รู้ใจผมอย่างคุณ” แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเสน่หาที่จริงจัง
“ถ้าการผ่อนบ้านคือปัญหาของคุณ... ให้ผมเป็นคนจัดการเองได้ไหม”
ณัฐชาถึงกับพูดไม่ออก ข้อเสนอของเจ้านาย ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ๆ แต่เขากำลังเผยความต้องการที่ซ่อนอยู่นั่นเอง แต่เธอก็ไม่อยากเป็นของเล่นที่เขาสนุกชั่วครู่ แต่ต้องการความมั่นคงและจริงใจ เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ยอมใจง่ายเด็ดขาด
“คุณราม...” เสียงของเธอสั่นเครือ
“ฉันรู้ค่ะ ว่าคุณต้องการอะไร”
“คุณรู้” รามัญตอบเสียงต่ำ
เขาลดมือลงจากใบหน้าของเธอ แล้วเลื่อนไปโอบประคองท้ายทอยของเธอไว้แทน
“ผมไม่ได้ขอให้คุณมาเป็นแค่คนรักทั่วไป... ผมกำลังขอให้คุณมาเป็นคนพิเศษที่ผมอยากดูแลทุกอย่างในชีวิตของคุณ”
ก่อนที่ณัฐชาจะทันได้รวบรวมคำพูดเพื่อปฏิเสธหรือตอบรับ รามัญก็ตัดสินใจก้าวข้ามเส้นไปอย่างเด็ดขาด เขาโน้มตัวลงมาประทับริมฝีปากกับเธออย่างรวดเร็วและร้อนแรง
จูบของรามัญไม่ได้หยาบคาย แต่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่ถูกเก็บซ่อนมานาน ตั้งแต่วินาทีที่เขาเห็นเธอเดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์ ณัฐชาผงะไปชั่วครู่ ก่อนที่ร่างกายของเธอจะตอบสนองต่อสัมผัสที่หอมหวานและเย้ายวนนั้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ เธอยกมือขึ้นโอบรอบลำคอของเขาอย่างอ่อนแรง
สายฝนที่ยังคงตกกระหน่ำอยู่ด้านนอกดูเหมือนจะเป็นพยานรักให้กับคนทั้งสอง พวกเขาจูบกันอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน ท่ามกลางความเงียบในห้องสวีทสุดหรูของโรงแรม ณัฐชารู้สึกได้ถึงความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของเขา จนกระทั่งรามัญค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างแผ่วเบา แต่สายตาที่จ้องมองเธอนั้นยังคงเต็มไปด้วยเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ
“ให้ผมดูแลคุณนะครับ ณัฐชา” เสียงของเขาแหบพร่าอย่างที่สุด
“ให้ผมพาคุณออกจากความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่คุณต้องแบกรับมานานเถอะ ต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณเอง
คำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขาทำให้หัวใจของณัฐชาแทบจะหลุดออกมาจากอก เธอรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า ท่ามกลางความเงียบที่โรยตัวลงมานั้น มีแต่ความจริงที่ว่า...ตอนนี้สถานะของเจ้านายกับเลขาฯ กำลังจะเปลี่ยนไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับคืน
บรรยากาศในห้องทำห้องนอนไม่ได้เงียบสงบอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยความตึงเครียดของความปรารถนาที่คุกรุ่น และความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้นนี้กำลังจะก้าวข้ามเส้นบาง ๆ ของความเป็นเจ้านายกับลูกจ้างไปอย่างรวดเร็ว