บทที่ 3 การกุศล?
“นายครับ...” อนาวิลที่กำลังยืนทอดสายตามองทิวทัศน์แม่น้ำยามค่ำมืด ในห้องทำงานชั้นบนสุดของคลับหรูท่าเรือ ที่มีเพียงไฟสลัว ๆ จากตึกรามบ้านช่องไกลออกไป…
“อืม...”
“นายจำผู้หญิงของคมสันได้ไหมครับ?” มือหนาที่กำลังยกแก้วบรั่นดีกระดกดื่มถึงกับชะงักไป
“ทำไมกูต้องจำด้วย...”
“เธอหนีจากคมสันได้ คนของเราจับตัวเธอไว้อยู่ที่ไนต์คลับครับ” คิ้วเข้มขมวดเป็นปม
“จับทำไมก็ปล่อยไปสิ...” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด…จะมาเล่าเพื่อ?
“เธอเจ็บหนักมาก และบอกว่าเธอไม่มีที่ไป...อยากคุยกับนายครับ”
“กูเหมือนคนที่ชอบทำการกุศลเหรอ?” อนาวิลหันมาเผชิญหน้ากับดีแล่น ก่อนจะกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะทำงานเสียงดัง จะมาคุยอะไรรู้จักก็ไม่รู้จัก!
“แค่ให้เธอยืมห้องสักหน่อย...พรุ่งนี้ผมจะส่งเธอกลับออกไปครับ”
“มึงชอบคนที่มีผัวแล้วหรือไงดีแล่น!” ร่างสูงเอ่ยอย่างเย้ยหยันและทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ตัวใหญ่ ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องมองเลขาคนสนิทและยกยิ้ม
“ผมแค่รู้สึกว่ามันเกินไปหน่อย...กับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้” อนาวิลหัวเราะในลำคอ
“ฆ่าคนได้ไม่กะพริบตา...แต่เห็นผู้หญิงโดนผัวซ้อม เสือกรับไม่ได้ กูควรเปลี่ยนเลขาไหม?” อนาวิลทิ้งร่างพิงกับเก้าอี้และโยกมันเบา ๆ แววตาทอดมองดีแล่นอย่างเย้ยหยัน
“ผมมาบอกนาย ไม่ได้มาขอ...ให้เธอนอนห้องพักเด็กนายก็ได้เยอะแยะนี่ครับ และพรุ่งนี้ผมจะรีบพาเธอออกไป” ดีแล่นเม้มริมฝีปากแน่น เขาไม่ได้เป็นคนชอบทำการกุศลแต่สภาพที่เด็กรายงาน แค่ให้เธอพักสักหน่อย พรุ่งนี้ก็แยกย้ายคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“แล้วแต่มึง แต่อย่าให้เดือดร้อนมาถึงกูแล้วกัน กูไม่ชอบพวกลักกินขโมยกิน”
“ผมไม่ผิดลูกผิดเมียใครอยู่แล้วครับไม่ต้องห่วง...ถึงเธอสวย แต่ผมก็เลือกกิน” อนาวิลระเบิดหัวเราะ และยกเท้าขึ้นไขว่ห้างบนโต๊ะทำงาน
“ระวังเมียจะรู้...ถ้าเกมมาก็อย่ามาให้กูปลอบใจ!” ดีแล่นค้อมหัวก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป
ดวงตาน้ำข้าวจ้องมองแผ่นหลังร่างสูงของลูกน้องคนสนิทที่เดินห่างออกไปจนลับตา นิ้วมือเรียวยกขึ้นวาดริมฝีปากหยักของตัวเองอย่างใช้ความคิด…
‘ช่วยที...’ อนาวิลหลับตาลงและควงแก้วบรั่นดีในมือ
เสียงขาดห้วงที่กรีดร้องตะโกนหันมาทางเขาเอ่ยร้องขอให้ช่วย ดวงตาดำขลับคู่นั้นที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา เลือดสีแดงชาดที่ไหลออกมาจากปากและจมูก ร่างเพรียวระหงที่เลือดโซมกาย...
อนาวิลถอนหายใจออกมาก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่ม...ถึงเขาจะชั่วจะเลว แต่กับผู้หญิงเขาทำไม่ลง
“ช่วยเหรอ...ถ้าไม่มีผัวก็น่าช่วยอยู่หรอก!”
