บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

พิมพ์นาราสานต่อความภาคภูมิใจของบิดาด้วยการเป็นนักโบราณคดีที่มากความสามารถ ในขณะที่พี่สาวคนรองอย่างพิมพ์พิสุทธิ์ สาวห้าววัยยี่สิบเจ็ดปี ทำงานเป็นจิตรกรฝีมือดีที่ต้องไปอยู่ไกลถึงประเทศทาเกียร์ ซึ่งเป็นภูมิประเทศแบบทะเลทรายอันร้อนระอุ ซ้ำยังได้ทำงานสำคัญให้กับชีคหนุ่มที่ได้ยินว่ามีอำนาจและสง่างามเหนือคำบรรยาย แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อกว่านั้นคือ ท่านชีคได้ตกหลุมรักสาวขี้วีนที่แสนอ่อนไหวต่อความรักอย่างพิมพ์พิสุทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว

คิดมาถึงตรงนี้พิมพ์ประภัทรก็ยิ้มกับตัวเอง เธอเรียนจบมาทางด้านบริหารธุรกิจ มันเป็นสาขาที่เธอชื่นชอบและเลือกเรียนด้วยตัวเอง ช่างแตกต่างจากพี่สาวทั้งสองโดยสิ้นเชิง นอกจากนั้นเธอเองก็ยังโสดสนิท ไม่ใช่เพราะไม่มีใครมาเกี้ยวพาตามจีบ แต่มันเป็นเพราะเธอไม่พร้อมจะเปิดใจรับใครเข้ามา จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในชีวิต นั่นคือการได้ทำในสิ่งที่รักเสียก่อน

พิมพ์ประภัทรสะดุ้งหลุดจากความคิด เมื่อเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น เจ้าของร่างบอบบางลุกขึ้นจากชิงช้าหวาย ก้าวผ่านประตูระเบียงกลับเข้ามาในห้องเพื่อเปิดประตู รอยยิ้มน่ารักแต่งแต้มขึ้นเต็มใบหน้าอีกครั้ง ทันทีที่เห็นว่าผู้มาเยือนยามวิกาลนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นบุพการีทั้งสองนั่นเอง

ศ.ดร.อนุสรณ์โอบไหล่ภรรยาสุดที่รักอย่างพิมพ์พรรณ เข้ามาข้างในห้องนอนของลูกสาวคนเล็ก แล้วพากันนั่งลงบนโซฟาเข้าชุดที่จัดวางอยู่ตรงมุมห้องอย่างลงตัว พิมพ์พรรณอายุห้าสิบเก้าปีแล้ว แต่ยังดูแข็งแรงและใจดีไม่เคยเปลี่ยน หลังจากแต่งงานกับศ.ดร.อนุสรณ์ เธอก็ลาออกจากตำแหน่งแอร์โฮสเตสมาทำหน้าที่เป็นแม่บ้านเพียงอย่างเดียว คอยดูแลสามีและลูกๆ

“พราวนึกว่าพ่อกับแม่เข้านอนแล้วเสียอีกค่ะ” พิมพ์ประภัทรเอ่ยยิ้มๆ

“พ่อก็คิดว่าพราวดื่มนมหมดแล้วเสียอีกนะลูก” บิดาเย้ากลับบ้าง

“พราวมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เลยดื่มไม่หมดเสียที” หญิงสาวพูดเสียงกลั้วหัวเราะ พลางยกนมขึ้นดื่มจนหมด แล้ววางแก้วว่างเปล่าลงบนโต๊ะ “นี่พี่พริมหลับไปแล้วใช่ไหมคะ เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำอีกตามเคย คงเหนื่อยด้วยที่เป็นแม่งานจัดงานเลี้ยงฉลองเรียนจบให้พราว”

“พริมคงอยากใช้เวลาอยู่กับห้องนอนของตัวเองให้มาก ก่อนไปทำงานที่อียิปต์กับพ่อน่ะลูก”

“อะไรกันคะพ่อ พ่อเพิ่งได้พักผ่อนจากงาน เพิ่งกลับมาจากอียิปต์แท้ๆ นี่จะไปอีกแล้วเหรอคะ พี่พริมเองก็เพิ่งเรียนจบปริญญาเอกกลับมาไม่นานเอง ทั้งพ่อทั้งพี่พริมจะพากันทิ้งพราวกับแม่ไปอีกแล้ว” คนน่ารักทำหน้ากระเง้ากระงอด

บิดาไปทำงานอยู่ประเทศอียิปต์เสียนาน แม้จะกลับมาทุกๆ เดือน แต่ก็ไม่เพียงพอให้ลูกเมียได้ชื่นใจเท่าไรนัก นี่ก็ต้องกลับไปสานต่อสิ่งที่คำค้างคาอยู่ให้เสร็จสิ้นเสียแล้ว หนำซ้ำคราวนี้ยังดึงพี่สาวคนสวยของเธอไปอีกด้วย พิมพ์นาราเพิ่งกลับมาจากประเทศอเมริกาพร้อมกับปริญญาเอก เพิ่งได้อยู่ด้วยกันตามประสาพี่น้องแค่ไม่นาน

“คราวนี้พ่อกับพี่พริมไปกันไม่นานมากหรอกลูก ทีมวิจัยที่อียิปต์ต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอียิปต์โบราณ พ่อคิดว่ามันเป็นโอกาสดีที่พี่พริมจะได้ทำงานครั้งสำคัญนี้ ไม่ต้องงอแงหรอกน่าพราว พ่อสัญญาว่าจะรีบทำงาน แล้วรีบพาพี่พริมมาคืนให้ลูกโดยเร็วที่สุดเลย” ศ.ดร.อนุสรณ์ให้เหตุผล เผยรอยยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว ขณะที่ผู้เป็นแม่ได้แต่มองสองพ่อลูกสนทนากันแล้วยิ้มบาง

“สัญญานะคะ” นิ้วก้อยเล็กๆ ชูขึ้นตรงหน้า

“พ่อสัญญา” นิ้วมือยาวและอวบใหญ่ยกขึ้นเกี่ยวไว้โดยพลัน พิมพ์ประภัทรรู้ดีว่าบิดาไม่เคยโกหก ไม่เคยผิดสัญญาที่ให้ไว้ ดังนั้นจึงพอยิ้มออกมาอย่างสบายใจได้บ้าง

“พ่อกับแม่ยังไม่นอนก็ดีเหมือนกันค่ะ พราวมีเรื่องร้อนใจอยากคุยด้วย”

“พ่อกับแม่เองก็มีข่าวดีจะมาบอกพราวเหมือนกันจ้ะ” พิมพ์พรรณเอ่ยขึ้นบ้าง สายตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจจนแทบปิดบังไว้ไม่มิด พิมพ์ประภัทรสังเกตเห็นบิดามารดาลอบมองสบตากัน จึงย่นคิ้วอย่างประหลาดใจ นานพอสมควรแล้วที่เธอไม่ได้เห็นพวกท่านดูตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่แบบนี้

“มีอะไรกันเหรอคะ ทำไมถึงดูตื่นเต้นจัง” หญิงสาวถามอย่างกระตือรือร้น

“เรื่องพี่แพรวน่ะลูก” ศ.ดร.อนุสรณ์เอ่ยสั้นๆ

“พี่แพรวทำไมคะ” แต่นั่นเรียกความสนใจจากลูกสาวคนเล็กได้มากโขทีเดียว

“เมื่อตอนหัวค่ำแพรวโทรศัพท์มาหาแม่ บอกว่า...ท่านชีคขอแพรวแต่งงานแล้ว!” พิมพ์พรรณเป็นคนบอกข่าวดีนี้เสียเอง ใบหน้าอวบอูมที่ถูกล้อมกรอบด้วยผมสีดำตัดสั้นระต้นคอเต็มไปด้วยความภูมิใจ “พ่อกับแม่ตอบตกลงไปแล้วจ้ะ งานแต่งงานจะมีขึ้นสิ้นเดือนนี้เลย มันออกจะกะทันหันไปนิด แต่ท่านชีคยืนยันว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแน่ๆ”

“จริงเหรอคะ! พราวดีใจกับพี่แพรวเหลือเกินค่ะ” พิมพ์ประภัทรแทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงกรีดร้องลั่นห้องให้สมกับข่าวดีที่ได้ยินไปแล้ว แต่หลังจากอายุครบยี่สิบสี่ปีเต็ม เธอก็ตั้งใจว่าจะทำตัวให้สมกับเป็นผู้ใหญ่ขึ้นหน่อย จึงพยายามแสดงออกแต่พองามเท่านั้น

“ท่านชีคใจร้อนน่าดูทีเดียว แต่แพรวก็โตพอที่จะมีครอบครัวแล้ว พ่อเลยไม่ได้คิดจะขัดข้องอะไร” ศ.ดร.อนุสรณ์เป็นคนหวงลูกสาวมากพอตัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความไว้เนื้อเชื่อใจด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อพิมพ์พิสุทธิ์ตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับชีคราซัค นั่นหมายความว่าได้ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว

“ดีแล้วล่ะค่ะพ่อ เท่าที่พราวได้ฟังจากพี่แพรวมา ท่านชีคเป็นคนที่ดีมากเลยนะ พราวเชื่อว่าพี่แพรวจะต้องมีความสุขกับชีวิตคู่แน่ๆ ว่าแต่พี่พริมรู้ข่าวเรื่องนี้หรือยังคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel