บท
ตั้งค่า

บทที่ 11

“ได้สิ พี่พริมเอาหนังสือเล่มนี้มาให้พอดี ฉันจะเปิดอ่านให้เธอฟังไปด้วยเลยแล้วกันนะ” หญิงสาวรีบเปิดหนังสือขึ้นตรงหน้าที่มีที่คั่นสอดไว้ กระแอมเบาๆ แล้วไล่สายตาอ่านด้วยน้ำเสียงชัดเจน “ก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของน้ำหอม เกิดขึ้นในช่วงยุคกลาง เมื่อชาวอาหรับได้คิดค้นพัฒนาเทคนิคในการกลั่นน้ำหอมได้เป็นผลสำเร็จ ก็ใช้พื้นที่ขนาดใหญ่โตของอาณาจักรเปอร์เซียในการปลูกดอกกุหลาบ เพื่อนำมาสกัดเป็นน้ำหอม นอกจากนี้ชาวอาหรับยังได้ค้นพบส่วนผสมตัวใหม่ในการทำน้ำหอมอีกด้วย นั่นก็คือสารที่ได้จากตัวชะมดหรือที่เรียกว่ากลิ่นชะมดนั่นเอง โดยชาวอาหรับเอาเจ้ากลิ่นชะมดนี้ไปผสมกับปูนขาว แล้วก็นำปูนขาวที่ได้ไปใช้สร้างสุเหร่าและพระราชวัง ซึ่งทำให้ทั้งสุเหร่าและพระราชวังมีกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเมือง”

“ว้าว อยากรู้จังเลยว่ามันจะหอมฟุ้งขนาดไหน อ่านต่อเลยๆ” ขวัญชนกแสดงความสนใจ

“สำหรับก้าวแรกของน้ำหอมในยุโรปนั้น เริ่มขึ้นจริงๆ ในศตวรรษที่สิบหก เมื่อแคทเธอรีน เดอ เมดิซิ มาที่ประเทศอิตาลีเพื่อแต่งงานกับกษัตริย์ในยุคนั้น จากนั้นน้ำหอมก็พัฒนาไปเรื่อยๆ จนถึงต้นศตวรรษที่สิบเก้า ได้มีนักเคมีทำการสังเคราะห์น้ำหอมจากสารเคมีจนได้กลิ่นต่างๆ มากมายหลายพันกลิ่น ในที่สุดน้ำหอมก็ได้กระจายไปทั่วไปจนกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างที่เห็นใจปัจจุบัน แล้วผู้คนส่วนใหญ่มักคิดว่ากลิ่นของน้ำหอมที่ได้จะต้องมาจากดอกไม้เท่านั้น แต่ความจริงเราสามารถใช้ส่วนอื่นมาสกัดเป็นน้ำหอมได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ลำต้น ใบไม้ เนื้อไม้ ผล เมล็ด เปลือก และรวมถึงยางไม้ด้วย”

“โห เรียกได้ว่าใช้จนคุ้มเลยนะเนี่ย”

“มันเป็นความเป็นมาของน้ำหอมน่ะ พี่พริมใจดีช่วยหาให้”

“อ่านจบแล้วเหรอ” สีหน้าของขวัญชนกเต็มไปด้วยความเสียดาย

“สำหรับส่วนนี้น่ะจบแล้ว แต่ถ้าเธออยากรู้อะไร ลองถามมาได้นะ ฉันศึกษาข้อมูลอื่นๆ ไว้อีกพอสมควร ถ้ารู้ก็จะอธิบายให้ฟัง” พิมพ์ประภัทรยิ้มหวาน “การทำน้ำหอมมันเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก ถือว่าเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งเลยนะรู้ไหม นี่ถ้าไม่ใช่เพราะรู้สไตล์คนในครอบครัว รวมถึงเธอด้วย ฉันก็คงตีโจทย์ไม่ออกหรอก”

“ต้องเป็นคนที่รู้จักดีสินะ ถึงจะทำน้ำหอมให้ได้ เออ...แล้วท่านชีคล่ะพราว”

“ฉันไม่รู้จักท่านชีคดีพอหรอก แต่เดาเอาจากการที่เขาเป็นหนุ่มเมืองร้อน เดาเอาจากอาหารรสจัดที่เน้นเครื่องเทศเป็นหลัก แล้วพี่แพรวก็บอกว่าท่านชีคเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยน มีความสุขุมและเป็นผู้ใหญ่ ฉันเลยเดาเอาเองว่าควรทำกลิ่นแบบไหนออกมา แต่ท่านชีคจะชอบหรือไม่ชอบนั่นมันก็อีกเรื่องนะ” เธอยักไหล่สบายๆ ท้ายประโยคเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดตลก

“ฉันเชื่อมือเธออยู่แล้วเพื่อน ว่าแต่เวลาทำน้ำหอมแล้วทดสอบกลิ่นเนี่ย เธอไม่มึนหัวแย่เลยเหรอ เธอแยกแยะกลิ่นได้ยังไงว่าอันไหนมันใช่แล้ว เป็นฉันคงทำไม่ได้หรอก” ขวัญชนกเป็นคนช่างถามและใส่ใจรายละเอียด นั่นทำให้พิมพ์ประภัทรพอใจที่ได้เห็นเพื่อนรักให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นความใฝ่ฝันของเธอ

“เวลาที่เราจะไปซื้อน้ำหอมเนี่ยนะ มันมีข้อควรรู้อยู่หลายอย่างเลย เช่น ไม่ควรเลือกน้ำหอมหลังกินอาหารรสจัด หลังออกกำลังกายจนเหนื่อยมากเกินไป หลังหายจากอาการป่วยไข้ หรือหลังจากสูบบุหรี่ เพราะสิ่งพวกนั้นมีผลต่อการรับรู้กลิ่นน้ำหอมให้ผิดเพี้ยนได้” หญิงสาวอธิบายโดยละเอียด

“จริงเหรอเนี่ย ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย” คนถามทำตาโตเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน

“จริงสิ แล้วถ้าต้องทดสอบน้ำหอมหลายกลิ่นเนี่ยนะ ฉันก็จะทดลองกับผิวของฉันเอง ไม่นิยมทดสอบผ่านแผ่นซับน้ำหอมหรอก เพราะทดสอบจากผิวมันแม่นยำมากกว่า ฉันจะฉีดน้ำหอมไล่ตั้งแต่ข้อมือและสูงขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วทิ้งไว้ประมาณยี่สิบนาทีเพื่อให้ได้กลิ่นที่แน่นอน”

“เจ๋งดีแฮะ ฉันชักชอบน้ำหอมแล้วสิ”

“ผู้หญิงต้องอยู่คู่กับกลิ่นหอมและของสวยงามอยู่แล้วจ้ะ” พิมพ์ประภัทรเสริมพร้อมหัวเราะน้อยๆ

“แล้วมันทำยากมากไหมพราว ขั้นตอนน่ะ”

“ไม่ยากหรอก แต่ต้องคิดสูตรให้ดี ผสมผสานให้มันลงตัวและสมบูรณ์แบบ ฉันจะผลิตหัวน้ำหอมจากดอกไม้หลายๆอย่าง สมุนไพรก็ใช้ได้นะขวัญ พวกมิ้นต์ ไพร ตะไคร้หอม แล้วก็สมุนไพรอีกมากมายเลย นี่ถ้าได้ไปประเทศทาเกียร์แล้วพอมีเวลาเหลือ ฉันตั้งใจจะไปเลือกหาสมุนไพรของที่นั่นด้วย เผื่อจะได้อะไรที่มันแปลกใหม่ขึ้น” หญิงสาวสรุป

“เธอดูมุ่งมั่นจัง” ขวัญชนกชื่นชมประกายความหวังในสายตาของเพื่อน ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้คุยอะไรกันอีก เสียงโทรศัพท์เครื่องจิ๋วก็ดังขึ้น เป็นแม่บ้านนั่นเองที่โทรมาแจ้งกับขวัญชนกว่าตอนนี้ทำความสะอาดเสร็จหมดแล้ว เรื่องค่าแรงที่คุยกันไว้คงต้องขอเพิ่มเติม เพราะลงมือทำแล้วถึงได้รู้ว่าบ้านหลังนั้นสกปรกเกินจะรับไหวจริงๆ โชคดีที่พาลูกหลานมาช่วยทำงานด้วยอีกสามคน ไม่อย่างนั้นคงทำงานไม่เรียบร้อยภายในเวลาแค่นี้แน่

“บ้านเรียบร้อยแล้วเหรอขวัญ” พิมพ์ประภัทรถามหลังจากอีกฝ่ายกดวางสายไปแล้ว

“ใช่ ฉันต้องกลับไปง่ายเงินให้พวกแม่บ้านน่ะ ที่เสร็จเร็วเพราะมาช่วยกันหลายคน”

“ดีแล้วล่ะ ถ้างั้นตอนเย็นมากินข้าวด้วยกันนะ”

“โอเคอยู่แล้ว เรื่องกินน่ะฉันไม่ปฏิเสธให้เสียน้ำใจหรอกย่ะ” ขวัญชนกยิ้มพรายและทำท่าแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินออกจากห้องไป พิมพ์ประภัทรมองตามร่างประเปรียวของเพื่อนสาว แล้วก็ถอนหายใจด้วยความเป็นห่วง หวังว่าอีกฝ่ายคงตกลงกับพี่ชายของผู้เป็นพ่อได้ด้วยดีก็แล้วกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel